Pages

Thursday, January 31, 2013

0116 : Value Journal 31-01-2013



สวัสดีครับ




ปี 2556 ผ่านไปแล้ว 1 หนึ่งเดือน เป็นอย่างไรกันบ้างครับ

ผมว่าถ้าเรามา Review ตัวเราทุกเดือนมันคงจะดีเหมือนกัน

ส่วนใหญ่เราจะมานั่ง Review ตัวเราทุกปีเสียมากกว่า

พร้อมกับตั้งใจตอนต้นปีว่าตั้งแต่ปีใหม่นี้ไปฉันจะทำนั่นนู่นนี่

หรือจะเลิกทำนั่นนู่นนี่ แต่แล้วเราก็ค่อยๆลืมมันไป

จะมานึกดูอีกทีก็ปีใหม่อีกรอบ แบบนั้นรึเปล่าครับ (ผมก็เป็น)



ปีนี้ผมพยายามจะ Focus ในสิ่งที่ตั้งใจไว้บ่อยๆครับ

เหมือนกับเวลาที่เครื่องบิน บินออกนอกเส้นทาง

กัปตันก็ดึงกลับให้เข้ามาอยู่ในเส้นทาง จนบินถึงจุดหมาย

ผมตั้งใจจะทำแบบนั้นครับ ที่ผ่านมาบางทีก็อยากทำนั่นทำนี่

หรืออยากเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี่ แต่ไม่ค่อยได้โฟกัสมันเท่าไหร่

ก็เลยทำได้มั่งไม่ได้มั่ง แต่ถ้าเราลองใช้พลังในการควบคุมทิศทางดู

เราก็น่าจะไปถึงจุดหมายที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ





วันนี้ SET Index จัดแบบโหดๆให้หนึ่งดอก

ไม่รู้ว่ารายย่อยเราเป็นยังไงกันมั่งนะครับ

ซึ่งวันนี้ กองทัพ KZM ของผม เป็นวันแรกของเดือนนี้

ที่ไม่สามารถ Generate Cash Flow ได้เลยสักบาทเดียว

Model KZM ที่ผมกลัวไว้ก็คือตรงจุดนี้แหละครับ

หากเจอจังหวะที่หุ้นไหลรูดยาวๆ

ไม่ Swing ขึ้นจนถึงจุดที่เราจะ Generate Cash Flow ได้

เราจะทำอย่างไร ? ( ผมคิดถึงในแง่ของ Worse Case นะครับ )

แต่อันที่จริงมันคงไม่แย่ขนาดนั้นหรอกครับ

ถ้าลงยาวๆ แล้วไม่ไปไหนสักปี สองปี จะทำอย่างไร

( ก็คงกินแต่ปันผลกันไปรึเปล่า? )



หากเจอขาลงยาวๆ ถ้ามีพวก Invert ETF จะช่วยได้มากครับ

เพราะจังหวะหุ้นลง ตัว Invert ETF จะ Generate Cash Flow แทน

เราจะได้กินขาลงด้วย เพียงแต่บ้านเราไม่มี Product นี้ T T



การเทรด ETF คู่กับ Invert ETF ผมลองเทรดใน App ใน iphone

ผมพบว่า การเทรดแบบคู่กันต้องใช้ Unit แบบ Value Fix

คือ คิดแต่ละ Lot เป็นจำนวนเงิน ไม่ใช่จำนวนหุ้น

เพราะเราจะขาย ETF แล้วเอาเงินที่ได้ไปซื้อ Invert ETF ต่อเลย

เช่น ETF 100 หุ้น มูลค่า 1000 บาท

แต่ Invert ETF 100 หุ้น อาจจะมีมูลค่าแค่ 200 บาทก็ได้

เพราะงั้น สมมุติหุ้นขึ้นมาถึงโซนราคา 1000 ( แต่จุดรับคืนคือ 950 )

เราขาย ETF ออกมา 1000 บาท

เราก็ต้องเอาเงิน 1000 บาท ไปซื้อ Invert ETF 1000 บาท



พอหุ้นลงถึงจุดที่เราจะซื้อ ( ETF มูลค่า 950 บาท )

Invert ETF จะมีมูลค่า 1050 บาท เราก็ขาย Invert ETF

มาซื้อ ETF ที่จะมูลค่า 950 บาท สรุปได้ Cash Flow 100 บาท



ถ้างง ขออภัยด้วย ผมเขียนเองผมยังงงเลย ฮ่าๆ



สรุปก็คือ ผมอยากให้คุณจรัมพรฯ ออก Invert ETF จุงเบยยย





นอกเรื่องไปเสียเยอะเลย

วันนี้ปิดบัญชีเดือนมกราฯ

ผลการดำเนินงาน กองทัพ KZM ผมทำผลงานได้ปานกลางครับ

อันที่จริงผมตั้งเป้าไว้อยาก Generate Cash Flow ได้สัก 3% ต่อเดือน

( เอาให้ได้พอๆกับระบบ DSM ) แต่นั้นคงต้องเป็นช่วงหลังๆหน่อย

ซึ่งหากสามารถ Expand Zone และ ฝัง Virus ได้มากขึ้น

คาดว่าทำได้แน่นอนครับ ก็ต้องสู้ต่อไป!

Wednesday, January 30, 2013

0115 : Value Journal 30-01-2013



สวัสดีครับ




วันนี้ SET50 แตะ 1000 จุดเป็นครั้งแรก

ส่วน TDEX ก็ทะลุ 10 บาทเป็นทีเรียบร้อยครับ

การเทรด KZM คนที่กำลังเริ่มก็อาจจะเหนื่อยหน่อยครับ

เพราะต้องใช้ทุนสูง ถ้า Lot ละ 100 หุ้น ก็พันกว่าบาทแล้ว

ส่วนคนที่คุมโซนซื้อรวบไว้ยาวๆก็ยิ้มครับ


แต่ผมก็ไม่ได้รับคืนเข้าโซนนานแล้วนะ กอง A เนี่ย

เอาจริงๆก็อยากให้ปรับฐานแล้วเหมือนกันครับ

เพราะอยากรับ TDEX กลับเข้าโซน กอง A แล้วเหลือเกิน

จะได้ Generate Cash Flow ได้บ่อยๆ



ส่วนใครที่กำลังจะหลุดกรอบบน

ถ้าหลุดไปพี่ต้านก็เคยแนะนำไว้หลายวิธีครับ

1. ตั้งโซนเล่นใหม่เลย set กรอบเทรดใหม่อีกรอบ แต่อาจจะได้กรอบแคบลงเพราะทุนสูงขึ้น

2. Hold C , D ไว้แน่นๆ

3. Wait & See รอมันกลับลงมาในกรอบ

4. Hedge ด้วยการ Long Call Option เพื่อรักษาผลประโยชน์ของเราไว้

คือ model KZM เนี่ย เราจะได้ประโยชน์จากการที่ราคามันอยู่ในกรอบที่เราวางไว้

ถ้าเกิดมันหลุดกรอบบนไป ถือว่าเราเสียประโยชน์ เราก็เลยต้อง Long Call Option

แก้ไป โดยพี่ต้านแนะนำให้ถือ Call จนหมดอายุ แล้วก็นำกำไรที่ได้มาเฉลี่ยเพื่อลดต้นทุน

แล้วเล่น TDEX ต่อในกรอบใหม่





ก็อยู่ที่เราเลือกนะครับว่าเราจะทำอย่างไร…







KZM ผมนะวันนี้ลองมาดูใช้ทุนไปราวๆ 60% ของทุนทั้งหมดเท่านั้นครับ

โดยที่เดือนนี้นั้นสามารถ Generate Cash Flow ได้ราวๆ 1.7% ไม่รวม XD

ซึ่งที่สามารถ Generate Cash Flow ได้มากก็เพราะได้อานิสงค์ตลาดด้วยครับ

หากเจอตลาดขาลงก็ต้องมาดูกันครับว่า จะสามารถสร้าง Cash Flow ได้

มากน้อยเพียงได้ เพราะตลาดขาลงอาจจะไม่มีจังหวะแกว่งขึ้นให้เก็บ Cash Flow

เลยก็เป็นได้หากเจอสภาพตลาดเลวร้ายสุดๆ ( ซึ่งจะแก้ได้ด้วยพวก Invert ETF ครับ

เพียงแต่ว่าเมืองไทยไม่มี T T ต้องรอเลื่อน Level ไปเทรดคู่กับ Option โน่นถึงจะสบาย)



ผมลองมาคิดเทียบแล้ว Cash Flow ที่ได้มาถ้าเทียบกับการเล่นแบบ Buy & Hold

แล้วแม้ว่าผลตอบแทนอาจจะน้อยกว่า แต่ว่าความเสี่ยงน้อยกว่ามากครับ

การที่ผมใช้เงินทุนไป 60% นั่นหมายความว่าผมเหลือ Cash อีก 40% ในมือ

แต่ถ้า Buy & Hold ส่วนใหญ่จะจัดเต็มและอัด Margin ด้วยซ้ำ



หากตลาดเปลี่ยน Trend เร็ว ผมว่า KZM เจ็บน้อยกว่า

แต่ก็อย่างว่าแหละครับ บางทีเอามาเทียบกันไม่ได้

เพราะจุดประสงค์การเล่นมันคนละอย่างกัน



KZM เน้น Survive First

แต่ Buy & Hold นั้นเน้น Maximize Profit



ก็อยู่ที่เราครับ ว่าเราต้องการอะไรจากการเทรดครับ







ตลาดแบบนี้ต้องคิดให้เยอะหน่อยครับ

ตลาดขึ้นเยอะมันก็ดีครับ

แต่ที่สำคัญกว่าคือเราควรจะคิดเอาไว้ล่วงหน้าว่า

ตลาดขึ้นไปเราจะทำอะไร

หรือ หากตลาดลงแรงๆเราจะทำอะไร





ขอให้ทุกท่านมีความสุขและมีสติในการลงทุนครับ

Tuesday, January 29, 2013

0114 : Value Journal 29-01-2013



สวัสดีครับ




1. วันนี้ SET ทำตัวมึนๆในช่วงเช้าก็จะปิดซะเขียวปี๋

วันนี้ก็สามารถ Generate Cash Flow ได้เพิ่มครับ

ตอนนี้ก็สะสม Cash Flow ได้จำนวนหนึ่งแล้วครับ

กำลังจะเริ่มขยายโซน TDEX ไปอีกเลขนึง

แม้ว่าอาจจะยังขยายไปคุมโซนไม่ถึงกรอบบนที่วางไว้ก็เถอะ

เพราะ Cash Flow ยังเข้ามาไม่เยอะพอ

แต่ก็พอที่จะเทรดกรอบแคบๆได้

ดังนั้นการคุมโซนให้ครอบคลุมกรอบบนของ Expand Zone ใหม่นี้

ก็ต้องพึ่งกระแสเงินสดในเดือนถัดๆไปครับ





2. ช่วงนี้มีงานต้องคิดเยอะหน่อยครับ

เพราะได้ไอเดียการเทรด Forex มา อย่างที่บอกเมื่อวาน

แล้วก็ซื้อหนังสือมาหลายเล่มเลยครับ

ก็คงต้องแบ่งๆเวลาคิด เวลาอ่าน เวลาพักผ่อน เวลาออกกำลังกายกันไป





3. ส่วนวันนี้อยากจะอยากเดาตลาดหุ้นไทยเสียหน่อย

ช่วงนี้ผมว่า Mass ยังไม่กล้าเท่าไหร่

Mass กลัวแบบนี้ตลาดน่าจะยังไปต่อสักพักครับ

รอจน Mass กลัวตกรถและกล้าโดดเข้ามาสุดๆก่อน

ค่อยเชือดครับ จะเห็นว่าตอนนี้นักลงทุนต่างชาติ

เริ่ม Net Short Index Future นิดๆหน่อยๆมาระยะนึงแล้ว

แต่เค้าก็ยังซื้อหุ้น ซึ่งคำว่า ฝรั่ง คือ ใครเป็นใครไม่รู้

ใครซื้อ ใครขายไม่ทราบ ฝรั่ง Mass ก็มี ฝรั่งเมพ ก็มี

ถ้าเกิดว่าคนที่เค้ารอเชือดเราเค้าลากแล้วก็ทยอย Short

( ตาม Style ของพวก Hedge Fund ที่จะทยอย “ทำอะไรสักอย่าง” แบบไม่ให้เรารู้ตัว )

หุ้นก็ลากเพื่อให้ Mass โดดขึ้นรถตามมา

ในระหว่างที่ลากหุ้นก็ทยอย Short

พอลากให้ตลาดอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งสุดๆ แล้วก็จะค่อยเชือดรึเปล่า ?



อย่างที่ผมเคยบอกว่าคล้ายๆเล่น Poker

เราต้องไม่ให้เค้ารู้ว่าไพ่เราดี และในขณะเดียวกันก็ต้องให้คู่ต่อสู้คิดว่ากำลังได้เปรียบเราอยู่

กำไรก้อนโตมันถึงจะเกิด…

แต่นี่อาจจะเป็นเพียง Short Bias ของผมก็ได้ครับ

ซึ่งผมไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้วว่าตลาดจะเป็นยังไง

เพราะ KZM นั้นหากินกับการ Swing ตัวของราคาตลาดนั่นเองครับ



ก็ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุนและการเทรดครับ

 

Monday, January 28, 2013

0113 : Value Journal 28-01-2013



สวัสดีครับ




1. วันนี้ตลาดยังไปต่อครับ

ส่วนหน่วยรบ KZM ของผมก็รบไปตามแผนครับ

ปล่อยทำกำไรในโซนของกอง A , Let Profit Run กอง C

รวมถึง Follow Buy Positions ในหุ้นที่มี Buy Signal



แต่วันนี้มีข้อผิดพลาดในการเทรดอย่างนึงก็คือ

ผมดันไป Take Profit TDEX ในส่วนของกอง C ไปบางส่วนครับ

ซึ่งตัดสินใจด้วยความกลัวกำไรจะหาย

อันที่จริง มันยังไม่ได้มี Sell Signal ออกมา

แต่ผมดู Index เห็นมันย่อลงมาก็เลยมือไม้อ่อนขายไป

ก็จดลงสมุดไว้เป็นบทเรียนเรียบร้อยแล้วครับ

เวลาซื้อขายต้องทำตามระบบดีที่สุด

เข้าออกตาม Signal ที่เรา Plan เอาไว้





2. คืนนี้มีอะไรต้องคิดเยอะแยะเลยครับ

ผมจะเอา model Forex ที่ใช้ระบบแนวๆ KZM

คือ เก็บกำไรตามโซนจากการ Swing ตัวของราคามารื้อทำใหม่อีกรอบ

ตอนนั้นที่หยุดทำไปก็เพราะโดนโบรกฯ ส่ง mail มาเตือนว่าเปิดบัญชีผิดประเภท

ให้คุณรีบปิด Order ด่วน ไม่งั้นจะถูก Force



ผมก็เลยเซ็งๆ อีกทั้งยังวางระบบไม่เคลียร์

ทำให้มีผลต่อ Mental ครับ ใจไม่ค่อยนิ่งเลยช่วงนั้น

ก็เลยพักไว้ก่อนดีกว่า ตอนนี้ได้แรงบันดาลใจจากน้อง Ton ( @Ton4aLiving )

ที่ทำ Model KZM ที่ Generate Cash Flow กับ Forex ได้ครับ



ที่ผมหันมาศึกษา Forex ด้วย

ก็คิดว่า เราสามารถเทรดได้ในเวลาว่าง

เหมือนเป็นสนามซ้อมให้เราได้ลองฝีมือ

เพราะหุ้นไทยเปิดแค่ 10 โมงถึง 4 โมงครึ่งเอง

อีกทั้งยังชนเวลาทำงานของผมด้วย

ก็เลยลองฝึกฝีมือกับ Forex เนี่ยแหละครับ

พี่ต้านก็บอกไว้ว่า ฝึกด้วยเงินจริงแต่จำนวนน้อยๆ

ลงไปเจอของจริง จะช่วยเพิ่ม Skill ได้เร็วครับ





3. วันนี้ หน่วยรบ KZM Generate Cash Flow

ได้ตามเป้าหมาย % ต่อเดือนที่ตั้งไว้แล้วครับ ทั้งที่ยังเหลืออีก 3 วันทำการ

( อานิสงค์จากตลาดขาขึ้นนั่นเอง จะให้ Perfect ต้องลงแรงๆต่อ อิอิ )

วันที่เหลือของเดือนนี้ถ้าทำ Cash Flow ได้ก็ถือว่าเป็นโบนัสครับ

แต่ยังห่างเป้าหมายPassive Income ต่อเดือนที่ตั้งไว้อยู่มากครับ



ก็ต้องพยายาม Expand Zone ให้ได้หลายๆเลข

Cash Flow มันก็จะไหลมาเทมาเองครับ

 

Sunday, January 27, 2013

0112 : Value Journal 27-01-2013



สวัสดีครับ




1. พรุ่งนี้วันจันทร์ ต้องกลับไปทำงานอีกแล้ว

แต่ข้อดีของวันจันทร์ก็คือตลาดหุ้นเปิดทำการนั่นเอง

ตลาดเปิดเราก็จะได้ทำมาหากินกันต่อไป



เพิ่งจะมานึกได้ว่า วิธีที่จะพัฒนา skill trade ง่ายๆอีกวิธีนึงก็คือการจดบันทึก

จดบันทึกความรู้สึก หรือ เหตุผล ที่เราเปิด หรือ ปิด Order นั้นๆ

เหมือนที่เทรดเดอร์ฝึกหัดต้องทำรายงานส่งพี่เลี้ยงว่าเข้าเทรดเพราะอะไร

คิดยังไง หรือ มีแผนอะไรต่อไป ซึ่งผมยังไม่ได้ทำแบบนี้

ต่อไปก็ขอฝึกฝนแบบนี้ ต้องเคี่ยวกรำตัวเองมากขึ้น

ผมเล่นหุ้นมาประมาณ 4 ปี ( ม.ค. 2552 )

ถ้านับจำนวนชั่วโมงที่เรียนรู้เรื่องหุ้น คิดง่ายๆวันละ 1 ชั่วโมง (อันที่จริงอาจจะไม่ถึง)

ก็ตกราวๆ 1,500 ชั่วโมงต่อปี ซึ่งห่างจากมหัศจรรย์ของการฝึกฝน 10,000 เยอะเลย

คิดไปก็เสียดายเวลาและโอกาส(ช่วงตลาดกระทิง)เหมือนกันนะครับ

ถ้าเราเก่งกว่านี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน เราคงดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้

แต่ว่าที่ผ่านมาแล้วก็ช่างมันไป ทำปัจจุบันให้เต็มที่สุดๆ

เข้มงวดกับตัวเองให้มากๆดีกว่า อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน อ่ะเนอะ





2. อีกเรื่องที่ผมจะต้องปรับกลยุทธ์ก็คือเรื่องการออมเงินครับ

ต่อไปผมจะเพิ่มการออมแบบ +10% เข้ามาในแผนการออมเงินด้วย

นั่นก็คือหากใช้จ่ายนอกแผนการเงินที่วางไว้

ก็จะต้องออมเงินเป็นจำนวน 10% ของค่าใช้จ่ายนั้นครับ

เช่นอาจจะอดใจไม่ได้ซื้อของเล่นมาชิ้นนึงราคา 2,000

ก็ต้องเอาเงินค่าใช้จ่ายประจำวันมาออม 200 บาท ครับ

จะได้ไม่เผลอไปซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยหรือพวกอุปกรณ์ Gadget บ่อยๆ

พวกกระเป๋ากล้อง ขาตั้งกล้อง ที่ชาร์จสำรอง หรือพวก Lego

อะไรพวกนี้เนี่ยตัวดูดเงินผมเลยแหละ - -“

เพราะงั้นก็เลยต้องเพิ่มกลยุทธ์การออมเงินใหม่ๆเข้ามา





3. เมื่อวานไปงานศพน้องแถวบ้านแฟนครับ

อายุยังน้อยอยู่เลย ( มัธยม ) คือ แกออกไปเที่ยวแล้วโดนนักเรียนคู่อริยิง

ผมก็มานั่งคิดว่า คนเรานี่ชีวิตมันไม่แน่นอนเอาซะเลย

เวลาของเราเหลือเท่าไหร่ เราไม่อาจรู้ได้เลยนะครับ

เพราะงั้นต้องทำสิ่งที่อยากทำ สิ่งที่ต้องทำ และ สิ่งที่ควรทำ

ในทุกๆด้านของชีวิต ไม่ว่าจะ ครอบครัว การงาน หรือ ความฝัน

ดูแลคนที่เราควรดูแล อย่างพ่อแม่ หรือ คนที่เรารัก

ถ้าเรามาคิดว่าเราอาจตายวันพรุ่งนี้ เราดูแลเค้าพอหรือยัง

ถ้าเราตายไปยังจะมีอะไรติดค้าง หรือมีห่วงหรือไม่

ความฝันต่างๆ ได้ลงมือทำหรือยัง หรือยังปล่อยไว้ให้มันเป็นแค่ความฝันเท่านั้น

ทำไปเถอะครับ ยังไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร ขอให้ได้ลุยไว้ก่อน

ด้านการเงินก็เหมือนกัน เราได้ Hedging ไว้ให้คนที่อยู่ข้างหลังเราบ้างไหม

ขาดเราแล้ว จะมีผลกระทบยังไงกับคนข้างหลังเราบ้าง

เราเคยได้คิดไว้ไหม ?





ขอให้ทุกท่านใช้ชีวิตอย่างมีสติและความสุขครับ

Friday, January 25, 2013

0111 : Value Journal 26-01-2013



สวัสดีครับ

กลับมาแล้วครับ
หลังจากหนีเที่ยวมาอาทิตย์นึงเต็มๆ
เที่ยวไปเทรดไป สนุกไปอีกแบบครับ

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็สามารถ Generate Cash Flow
ได้พอสมควร จากสภาพตลาดที่เขียวสุดขีด
ซึ่งก็ต้องอดทนทำตามแผนอย่างมีวินัยต่อไป
ทำจนกว่าเราจะเข้าใจหลักการของมันอย่างทะลุปรุโปร่ง
ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นทุนรอนด้าน skill ที่จะใช้ต่อยอดไประดับต่อไปครับ


ช่วงที่พักผ่อนก็นอนอ่านหนังสือ เล่นไอแพดหาความรู้บ้างครับ
ค้นไปเจอ blog ของ Trader คนนึง
(น่าจะอยู่ในทีม เทรดเดอร์ฝึกหัดของ mudleygroup )

เค้าเขียนประมาณว่าติดออเดอร์บ่อย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ?
เลยไปขอคำแนะนำจากพี่ต้านดู พี่ต้านตอบมาประมาณว่า

[ ที่เราติดออเดอร์เยอะ เพราะเรามั่นใจว่าเราถูก
หากว่าเราวางโมเดลไว้ที่ หากคิดผิดจะทำอย่างไร
การเข้า Positions ของเราจะกระจายตัวมากกว่านี้มากขึ้น
เวลาที่บริหารกองทุน สิ่งแรกที่คิดเลยเวลาจะเข้า Positions
จะคิดว่าตัวเองจะผิดเสมอ และถ้าผิดจะทำอย่างไร
เพราะถ้าเราดันถูกขึ้นมา มันไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอยู่แล้ว
การวางออเดอร์จะสะท้อนความเชื่อมั่นในความคิดของตัว Trader
จากประวัติศาสตร์สถาบันการเงินต่างๆล้วนล้มด้วย Trader
ที่มีความมั่นใจสูงทั้งนั้น แต่ไม่เคยล้มด้วย Trader ที่ขี้กลัว ]

ซึ่งข้อความตรงนี้มันทำให้ผมต้องกลับมาคิดว่า
แต่ละ Order ที่เราเข้าเทรด เราจริงจังกับมันแค่ไหน
ส่งออเดอร์แบบส่งๆรึเปล่า (ส่วนใหญ่เลยแหละ)
ต่อจากนี้ผมก็ต้องพัฒนาการเทรดในแต่ละ Position
ให้มีความเข้มข้นกว่าที่ผ่านมา เพื่อคุณภาพของ Order
รวมถึงการวางแผนเพื่อรับมือกับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นด้วยครับ

Thursday, January 17, 2013

0110 : Basic KZM ตอน Cash Flow Management



Cash Flow Management




Cash Flow ที่ Generate ได้จากการเทรด KZM นั้น

ต้องมีการจัดการที่ดีครับ พอร์ตของเราถึงจะเติบโตอย่างมั่งคง

แล้วเราจะจัดการกับ Cash Flow ที่ได้มาอย่างไรดี ?



ผมขอแบ่ง Cash Flow ออกเป็น 2 แบบ จากแหล่งที่มานะครับ


1. Cash Flow ได้มาจาก “Product หลัก” ของเรา

ในที่นี้ผมหมายถึง TDEX นะครับ เพราะเป้าหมายหลักของผม คือ

สะสม TDEX เพื่อต่อยอดไปเล่นใน Level 3 , 4

พูดง่ายๆก็คือเพื่อนำไปเทรดคู่กับ Option และ Future นั่นเองครับ



โดย Cash Flow ที่ได้มาจาก TDEX หมดทั้งจำนวน

ผมจะนำไปขยายโซนให้ได้ครบทุกช่อง

แล้วก็ต่อด้วยการขยายจำนวน Unit ครับ

จะไม่เอาไปใช้อย่างอื่นนอกจากนี้ครับ



2. Cash Flow ที่มาจาก Product อื่น เช่น ETF ตัวอื่น

ที่ไม่มี Option และ Future รองรับ ( ต่อยอดไปเล่น Level 3-4 ไม่ได้ )

และ Cash Flow จาก VirusTrading ที่เทรดกับหุ้นครับ



Cash Flow ที่ได้มาก็จะนำมาแบ่งเป็น 3 ส่วนครับ



ส่วนแรก ก็จะเอาไปขยายโซนให้กับตัวมันเองก่อน

เพื่อเพิ่ม Cash Flow ในอนาคตครับ หรือไม่ก็

นำไปฝัง Virus ในหุ้นตัวใหม่ๆที่เราสนใจครับ

เพื่อให้ Cash Flow ไหลมาจากหลายๆทาง

เป็นการป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากราคาหุ้นนิ่ง

ไม่ไปไหนครับ



ส่วนที่สอง ก็จะส่งเข้าไปช่วย TDEX ขยายโซนครับ

เพราะบางที TDEX ที่เราคุมโซนไว้ห่างๆ มันก็ Generate Cash Flow

ไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ เราก็จะส่งกองกำลังไปช่วยเหลือ

เพื่อที่จะให้ TDEX มีโซนถี่ๆ ก็จะสามารถ Generate Cash Flow

ได้ง่ายและเร็วขึ้นครับ



ส่วนที่สาม ตรงนี้จะสะสมไว้เพื่อใช้ Bet Option ครับ

เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ต ถ้า Bet ถูกก็ดีไป

ผิดก็ไม่เป็นไร เพราะเราเอากำไรมา Bet อยู่แล้วครับ

การ Bet ตรงนี้ก็จะ Bet ตาม Signal ของกอง C ครับ





นี่ก็เป็นแผน Cash Flow Management ของผมนะครับ

ถ้าใครมีไอเดียดีๆก็แลกเปลี่ยนกันได้ครับ





ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการเทรดนะครับ : )


0109 : Value Journal 17-01-2013



สวัสดีครับ




1. วันนี้ตลาด swing พอสมควรครับ

เพียงแต่ว่ามันไม่กว้างพอ ผมก็เลยไม่ได้เทรด TDEX เลย

มัวแต่ไปเทรด ASP กะดู CHINA ฮ่าๆ

CHINA สามารถรับกลับเข้าโซนของกอง A ได้ 2 โซนเลยครับ

ส่วน ASP ปล่อยกอง A ออกไป 1 Lot

ที่เหลือก็เทรด C , D เพื่อสร้าง Cash Flow ครับ



2. ผมลองมาดูแต่ละ Account ของ KZM

ผมพบว่ากอง C นั้นสร้าง Cash Flow ได้มากที่สุดเลยครับ

อาจเป็นเพราะตลาดเป็นขาขึ้นรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ

อย่างที่พี่ต้านบอกไว้จริงๆเลยครับ

ว่าช่วงที่เรา Run Model ใหม่ๆ นั้น

กอง C จะเป็นตัวหลักในการที่จะทำให้พอร์ตเราโต



ผมเห็นหลายคนใน pantip เทรดกันแค่เพียง A , B ไม่เทรด C , D

ซึ่งมันก็ไม่ผิดหรอกครับ เพียงแต่ว่ามันอาจจะทำให้เราเสียโอกาส

ทั้งในการสร้าง Cash Flow และ การฝึกฝนพัฒนาฝีมือในการเทรด



เมื่อก่อนผมก็เป็นนะครับ

เทรดแค่ A , B ไม่สน C , D เลยด้วยซ้ำไป

จนมาศึกษาดีๆอีกรอบ แล้วก็ทำตาม Model อย่างมีวินัย

ผลก็คือ มันก็ดีกว่าที่เราไม่เทรดครับ เพราะมันทำให้เราหันมาสนใจ

และหันมาศึกษาการเทรดโดย Technical ไปด้วยในตัวครับ



ถ้าใครยังไม่รู้จะเทรดยังไง ลองเอาแบบง่ายๆก็คือ

ใช้พวก moving average ตัดขึ้นซื้อ ตัดลงขาย ไปก่อนก็ได้ครับ

เพื่อให้เราคุ้นชินกับกราฟก่อน เมื่อก่อนผมดูกราฟแทบไม่เป็นเลยครับ

เพราะผมเริ่มศึกษาจากแนวหุ้นห่านทองคำและขยับมา VI

แล้วก็มากลายเป็น Mutant Investor ฮ่าๆ



3. วันพรุ่งนี้ลางานตั้งแต่เที่ยง เพราะต้องรีบขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่ครับ

เพราะจะไปงานรับปริญญาน้องสาวที่ ม.เชียงใหม่ หุหุ ได้กลับถิ่นเก่าอีกครั้ง

ไม่รู้ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เย็นนี้ก็เลยต้อง Print Trading Plan ออกมา

เป็น Paper ครับ เพราะจะเอาติดตัวไปด้วย ( ผมไม่ถนัดดู File excel ใน ipad เลยอ่า )

นานๆจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตแบบ Full Time Trader สักที แม้จะเป็นระยะเวลา

แค่อาทิตย์เดียวก็เถอะ อ่อ ผมลงเครื่องที่เชียงใหม่วันเสาร์ก็จะหนีไปนอนเล่นที่

ปาย ก่อนสักสองคืนครับ แล้วค่อยกลับมาเชียงใหม่ แค่คิดก็อยากหยุดงานแล้ว



อันที่จริงอยากให้ตลาดเปิดในวันหยุดมากกว่านะ แหะๆ







ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการลงทุนนะครับ : )

Wednesday, January 16, 2013

0108 : Value Journal 16-01-2013



สวัสดีครับ




1. วันนี้ตลาดดื้ออยู่นาน กว่าจะยอมลงมาก็ท้ายตลาดแล้ว

ก็เลยไม่ได้ทำอะไรมากเท่าไหร่ครับ

ก็มี Take Profit กอง C ออกมาบางส่วน

แล้วก็รับกอง A ที่เคยปล่อยออกไป กลับมาเข้าโซนไว้ครับ





2. เป้าหมายของผมในการเทรด KZM นั้น

ช่วงแรกนี้ ผมจะ Focus ไปที่การสร้าง Cash Flow

เพื่อนำมาขยายโซน TDEX ครับ โดยใช้ทั้ง TDEX เอง

แล้วก็ ETF และ หุ้นตัวอื่นๆ ที่ราคา Swing ดีๆหน่อย

ผมจะขยายโซน TDEX ให้ครบทุกช่อง

แล้วก็เพิ่มจำนวนหุ้นในแต่ละช่องให้ได้ 20,000 unit / ช่องครับ

เพื่อขยับไปเทรด TDEX คู่กับ Option ใน Style Short Call , Short Put ครับ

ซึ่งผมศึกษามานานจนตอนนี้ก็เกือบจะลืมแล้ว ฮ่าๆ

หากไปถึงขั้นนั้นได้ กระแสเงินสดจะเข้ามาอย่างสม่ำเสมอมากครับ



เป้าหมายอีกอย่างก็คือ ขยับไปเทรดในตลาดต่างประเทศครับ

เพราะมี Financial Product หลากหลายกว่า

ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้ดีสำหรับการสร้าง Cash Flow ครับ

ยกตัวอย่างก็คือเทรด KZM แบบแพ็คคู่ของ S&P Bull Bear

ซึ่งน่าจะมันส์กว่าเยอะเลยครับ

ตอนนี้ผมก็ทดลองเทรดใน app ของ iPhone ครับ

ใจจริงอยากเทรดเงินจริงเหมือนกันครับ

แต่คงต้องรอทุนหนากว่านี้อีกหน่อย





3. อิสรภาพทางการเงินนั้น อันที่จริงมันมีหลายวิธีครับที่จะได้มันมา

ผมว่าบางทีเราเลือกเดินในทางที่เราชอบน่าจะดีที่สุดครับ

เพราะมันหมายถึงระหว่างทางที่เราเดินนั้น เราได้มีช่วงเวลาที่มีความสุขไปด้วย

บางเส้นทางอาจจะไปได้ช้าสักหน่อย แต่ก็ช่างปะไร เรามีความสุขที่เราได้เดิน จริงไหมครับ ?

แต่ที่สำคัญก็คือหากเราเลือกเดินแล้ว เราต้องเดินให้สุด

ไม่ล้มเลิกไปกลางคัน ผมว่ายังไงมันก็ต้องถึงครับ

แต่ไม่มีหรอกครับ ที่จะได้มันมาในชั่วข้ามคืน



ผมมองว่ามันเป็นเหมือนการสร้างสะพานอีกเส้นหนึ่ง

ที่เราจะก่ออิฐทีละก้อนๆ ค่อยๆก่อสร้างไปเรื่อย

จนวันหนึ่งมันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

แล้วสะพานเส้นนี้มันก็จะพาเราออกไปจากสนามแข่งหนู

ไปสู่อิสระภาพนั่นเองครับ : )





4. แล้วพบกันใหม่ครับ





Tuesday, January 15, 2013

0107 : ตอบคำถาม KZM 2



น้อง Pop Suntiskultam ถามเรื่อง KZM ผมมาใน e-mail อีกหลายคำถาม


ผมขอตอบไว้ใน Blog เลยแล้วกัน เผื่อคนที่สงสัยผ่านมาอ่านจะได้ Get Idea ออกไปด้วย



1. ไฟล์โซนและระบบบัญชี KZM ที่แจกกันใน pantip นั้น

สามารถใช้ได้กับหุ้นด้วยครับ เพียงแต่เราต้องปรับราคาตาม spread ของหุ้น

เพราะ ETF มัน Spread 0.01 ทุกช่อง ทุกช่วงราคาครับ



2. การเทรดแบบ KZM นั้นควรจะเทรดในบัญชีที่ไม่มีค่าคอมฯขั้นต่ำครับ

ผมใช้ของ Asia Plus อยู่ (ถ้าเราแสดงความประสงค์รับเอกสารทาง e-mail เค้าไม่คิดขั้นต่ำ)

ส่วนโบรกฯอื่นผมไม่ทราบครับ ถ้าอยากเปิดพอร์ต ASP ติดต่อเพจ มาร์มึนๆ หรือ

Blog panwasit stock comment ไม่ก็ มาร์เทพ เมพนะจ๊ะ ได้นะครับ

(โฆษณาให้เพื่อนฝูง ฮ่าๆ)



3. การเทรด Offline มันก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่เราจะมาดูกราฟตอนสิ้นวัน

หรือตอนเราว่างๆ ช่วงดึกๆ เท่านั้นเองครับ ถ้าเห็นกราฟมันตัดขึ้น หรือ

เจอ Buy Signal เราก็ส่งคำสั่งในวันรุ่งขึ้น เพียงแต่เราอาจจะใช้ Indicators

หลายๆตัวในการตัดสินใจในแต่ละ Lot ครับ แต่ต้องจดไว้ทุกครั้งว่า Lot ไหน

เราเข้าด้วย Indicators อะไร และ เวลาจะขายเราก็ทำเหมือนกันคือ สิ้นวัน

เราก็มาเช็คกราฟดูว่า หุ้นตัวไหน หรือ Indicators ไหน มี Sell Signal ออกมาครับ

วันรุ่งขึ้นก็สั่งขาย แค่นั้นเองครับ



4. การเทรดแบบ KZM เป้าหมายก็คือ อยู่รอดในทุกสภาวะของตลาด

และสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ และเอากำไรจากกระแสเงินสดมาลงทุนต่อ



สิ่งที่เราให้ความสำคัญผมว่ามี 2 อย่าง นั่นก็คือ

“Cash Flow และ จำนวนหุ้นครับ”



เราจะ Generate Cash Flow จากเงินทุน

แล้วก็เอา Cash Flow มาขยายโซน ให้มีหุ้นครบทุกช่องราคา

แล้วก็เพิ่มจำนวนหุ้นในแต่ละช่อง จากช่องละ 100 เป็น 200 เป็น 300 …

แล้วพอสร้าง Cash Flow ได้มากๆ ก็นำไปต่อยอดอย่างอื่นต่อไปครับ



5. ผลตอนแทน ที่พี่ต้านว่าไว้ Level 1 ประมาณ 10% , Level 2 ประมาณ 20-30%

แต่ที่ผมเทรดมา ผมนับเป็นเดือนก็แล้วกันนะครับ

TDEX ได้ประมาณ 0.5 – 1% ต่อเดือน คุมโซนแบบห่างๆ

CHINA ได้ประมาณ 1 – 3% ต่อเดือน คุมโซนห่างๆแต่เริ่มเพิ่มโซนแล้ว

ส่วนพวก Virus Trade นี่ตกราวๆเดือนละ 1 – 3% ครับ แบบคุมโซนห่างๆนะ



TDEX มันไม่ค่อยแกว่งแรงเท่าไหร่ กว่าจะแกว่งมาโดนก็นาน

มันอยู่ที่ Product ที่เราเลือกด้วยครับ



แต่ถ้าเราเทรดไปเรื่อยๆ สะสมหุ้นเพิ่มโซนมากขึ้นๆ

กำไรมันจะมาของมันเองครับ เพราะราคาแกว่งไปทางไหนก็โดนเรากินเสมอ



6. เวลาแต่ละวันที่ผมใช้ดูพอร์ตนี่ ไม่อยากบอกเลยว่า ไม่ได้ดูเลย

แอบไปดูตอนถึงที่ทำงานด้วยซ้ำครับ เราจะดูแค่ว่าวันนี้จะขาย Lot ไหนบ้าง

จะรับ Lot ไหนกลับเข้ามาในโซนบ้าง และ จะเทรดกอง C , D Indicator ไหน

แค่นี้น่าจะไม่เกิน 15 นาทีครับ แหะๆ



แต่ช่วงแรกที่เรานั่งวางโซนก็ใช้เวลานิดนึงครับ

คำนวณหน้าตัก คำนวณ Lot คำนวณความห่างของแต่ละโซน

พอเราคำนวณลงตัวเริ่ม Run Model มันก็ไปของมันเองตามตาราง excel เลยครับ







แลกเปลี่ยน Idea กันได้นะครับ บางทีผมอาจจะเข้าใจอะไรผิดไป

เพราะนั่งศึกษาคนเดียวมาตลอด อาศัยอ่าน pantip อ่าน Blog พี่ต้านเอาน่ะครับ

ขอให้ลงทุนอย่างมีความสุขนะครับ : )

0106 : Value Journal 15-01-2013



สวัสดีครับ


วันนี้ผมแทบไม่ได้ดู Set Index เลยครับ

มัวแต่โฟกัสเทรดรายตัวครับ แหะๆ

ที่ Generate Cash Flow ได้เด่นของพอร์ตวันนี้ก็มี CHINA กะ HMPRO ครับ

ก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากที่สะสมพลังไว้ในวันก่อนๆนั่นแหละครับ

วันนี้ก็เลยระเบิดพลังออกมา



อีกอย่างก็คือ กอง C ของ CHINA ผมเล่นแบบ P/L Indicators

เข้าตาม Buy Signal มาจนมี Position 31 Lot

ซึ่งถือว่าเยอะไปหน่อย ผมก็เลย Take Profit ไปบางส่วนครับ

ป้องกัน Over Trade อีกอย่างก็คือเป็นการเก็บ Cash Flow เข้ากระเป๋าด้วย

ถ้าขึ้นต่อก็ค่อยว่ากันใหม่ แหะๆ



ผมว่าถ้าเราอยู่ในตลาดแบบไม่ต้องคาดเดา

เราจะมีความสุขมากขึ้นครับ ขึ้นก็ขึ้น ลงก็ลง

เราจะมีทางเลือกให้พอร์ตเราเสมอครับ

 

Monday, January 14, 2013

0105 : Value Journal 14-01-2013



สวัสดีครับ




วันนี้ตลาดบวกแรงอีกแล้ว

หน่วยรบ KZM ของผมต่างก็ทยอยทำกำไรไปหลายกองครับ

ส่วนใหญ่ทำกำไรกอง B , D ได้ Cash Flow มาพอสมควรครับ

ตลาดยิ่ง Swing บ่อยๆ KZM จะยิ่งชอบครับ

Swing กว้างๆ Swing บ่อยๆ เราจะ Generate Cash Flow กันเพลินเลย



ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาก็ย้อนกลับมาคิดวางแผนการเงินของตัวผมเองอีกรอบครับ

ที่ผ่านมานั้นผมออกเงินโดยเอาเงินเก็บใส่ไว้ในพอร์ตลงทุนหมดเลย

ซึ่งอันที่จริง การออมเงินนั้นเราควรจะแบ่งเงินออกเป็นหลายๆกองครับ

ซึ่งแต่ละกองก็มีวัตถุประสงค์แตกต่างกันไป



ที่เค้าแบ่งกันหลักๆก็มี

1. เงินออมเผื่อฉุกเฉิน ตรงนี้จะออมกันไว้ประมาณ 3 – 12 เท่าของเงินเดือน

2. เงินออมเพื่อป้องกันความเสี่ยง
จะออมไว้ในแบบของประกันชีวิตระยะยาว ที่คุ้มครองถึงอายุ 90
ทยอยซื้อไปเรื่อยๆ เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีด้วยครับ
หรือไม่ก็พวกประกันสุขภาพครับ

3. เงินออมเพื่อลงทุน ก็คือนำมาลงทุนในรูปแบบต่างๆนั่นเองครับ



ส่วนผมเพิ่มของตัวผมเองอีกกองนึงก็คือ

4. เงินออมเพื่อการท่องเที่ยวต่างประเทศ



ตอนนี้เนี่ยผมมีแค่เงินลงทุนอย่างเดียวเท่านั้นครับ

ซึ่งต่อจากนี้ก็จะพยายามแบ่งเงินออมออกเป็น 4 ส่วน

เพื่อให้ชีวิตมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้นครับ

โดยเงินออมเผื่อฉุกเฉินนั้น หากผมออมจนครบ 12 เท่าของเงินเดือนแล้ว

ก็จะนำเงินส่วนนี้มาออมไว้ในกองเงินลงทุนต่อไปครับ

หากพร่องลงไปก็หามาเติมให้เต็ม และก็ปรับเพดานทุกๆปีตามรายได้ครับ



ถ้าเราวางแผนว่าจะลาออกครั้งสุดท้ายไปเป็น Full Time เทรดเดอร์

เงิน 4 กองนี้ควรออมไว้ให้ครบถ้วนครับ

เพราะมันช่วยให้ชีวิตเรามั่นคงขึ้น

สมมุติว่า เราอาจจะเจอตลาดแย่ๆ ยาวสักปี สองปี ตรงนี้เงินกอง 1 ช่วยเราได้

แล้ววันไหนที่เราป่วย เงินกอง 2 ที่เราซื้อประกันสุขภาพเอาไว้ก็จะช่วยเรา

เงินกอง 3 ไม่ต้องพูดถึงเลย สำคัญมากเพราะมันคือเครื่องมือหากินของเรา

เงินกองที่ 4 ก็ใช้ในการพักผ่อนท่องเที่ยวครับ



นี่คือแผนการออมเงินของผมครับ

 

Saturday, January 12, 2013

0104 : ตอบคำถาม KZM



Entry นี้ขอพิมพ์ตอบคุณ Pop Suntiskultam
ที่ถามไว้ใน Comment Entry ที่แล้วนะครับ

1. การเทรด KZM เราต้องบันทึก order แต่ละรายการลง excel
ด้วยตัวเองครับ จะออกแบบเอง หรือไปโหลดที่เค้าโพสไว้ใน dsm club
ใน pantip ก็ได้ครับ ส่วนตัวผมใช้แบบที่เค้าออกแบบไว้แล้วเอามาปรับอีกนิดหน่อย

แล้วก็เราจะไม่มองราคาที่มันแสดงในโปรแกรม streaming เลยครับ
เพราะราคาพวกนั้นเค้าจะคิดเฉลี่ยไปเลย

เพราะงั้นการที่เราจะรู้ว่า lot ไหนต้นทุนเท่าไหร่ เป้าหมายที่จะขายเท่าไหร่
เราต้องบันทึกเองเท่านั้นครับ (ถ้าอยากได้ไฟล์ excel ก็ comment e-mail ไว้นะครับ)


2. กอง A ถ้าห่างหน่อยอาจจะเหมือนนานๆได้ออกหมัดที
แต่ถ้าชกโดนนี่เราก็ได้คะแนนเยอะครับ (กำไรเยอะ)
แล้วแต่ความชอบและเงินทุน รวมถึงการวางกรอบที่เราจะเล่นมากกว่าครับ

ถ้าเราวางกรอบราคาที่เทรดไว้กว้าง
ช่องของ A ก็จะห่างๆหน่อย
แต่ถ้าเทรดกรอบแคบๆ A ก็อาจจะชิดๆกันครับ
(แต่ก็อาจจะมีโอกาสที่หุ้นขึ้นทะลุโซนบนได้ง่ายกว่า)

แต่ไม่ว่าจะยังไง สุดท้ายแล้วปลายทางเราก็คือสะสม A ให้ได้ทุกช่อง
ตั้งแต่เลข 0-9 อยู่ดี ลองออกแบบตามที่เราชอบจะดีกว่าครับ

ส่วนตัวผมวางกรอบไว้ทำกำไรที่ 20 ช่อง ( TDEX นะ )
เพราะต้นทุนสูงขึ้นครับ เราก็ต้องเทรดให้ได้ % กำไรแต่ละ Lot เพิ่มขึ้นด้วย
เมื่อก่อนเทรดที่ 3 บาท 5 บาท แต่ตอนนี้เทรดกันที่เกือบ 10 บาท
ถ้าเราจะเอากำไร 10 ช่องมันก็แทบไม่ได้กำไรเลยครับ
เราเลยต้องปรับการทำกำไรตามราคา TDEX ด้วยครับ


3. ถ้าไม่มีเวลาดูจอ ก็คือส่งคำสั่งล่วงหน้าไปเลยครับ
ก่อนไปทำงานส่ง order ทีนึง พักเที่ยงอีกทีนึงครับ
เพราะเราจะรู้อยู่แล้วว่าวันนี้โซนไหนจะต้องขายออกที่ราคาเท่าไหร่
แล้วต้องรับคืนโซนไหนบ้าง ถ้าราคามันเหวี่ยงขึ้นหรือเหวี่ยงลงมาโดน
มันก็ Match ของมันเองครับ

ส่วน c , d ก็สามารถทำได้ครับ
เทรดแบบ offline ที่พี่ต้านให้เทรดเดอร์ฝึก
ก็ต้องส่งคำสั่งนอกเวลาทำการเช่นกันครับ

ส่วนทำตามวินัยได้ตลอดก็ไม่หรอกครับ บางทีก็มีเดาตลาดแล้วปล่อยก่อนบ้าง
ส่วนใหญ่กอง B นี่แหละครับที่แอบปล่อยออกเร็วกว่าที่กำหนดไว้
เพราะกอง B เราปล่อยที่จุดไหนก็ได้หากมีกำไรภายในวัน
บางทีตั้งใจปล่อยที่ 10 ช่อง แต่ตลาดย่อลงมา กำไร 8 ช่องก็ปล่อยแระงี้

แต่ถ้าผมเสียวินัย ผมก็จะจดไว้ทุกครั้งว่าเราทำผิดพลาดเรื่องอะไร เมื่อไหร่
แล้วก็จะไม่ทำผิดซ้ำครับ คือจดเพื่อเตือนตัวเองไว้ตลอด


Friday, January 11, 2013

0103 : Value Journal 11-01-2013



สวัสดีครับ

วันนี้ตลาด swing ร่วม 20 จุดเลยครับ
KZM ทำงานกันแข็งขันเลยทีเดียว
ทั้งรับกลับเข้าโซน ทั้งเทรดแบบฤทธิ์มีดสั้น

ผมว่าการเทรดแบบ KZM
มันช่วยให้เราจับจังหวะได้ดีขึ้นครับ
พอราคาลงมาแรงๆ ถ้าเป็นปกติ
ผมอาจจะมือสั่นเคาะขายทิ้งไปแล้ว
แต่พอเราเทรด KZM ทำให้เรารู้ว่า
จังหวะนี้ควรซื้อ เพราะโอกาสกำไรมีเยอะมาก
อย่าง HMPRO ลงมาผมก็สอยไว้
เข้ากอง C , D ไว้หลาย Lot
ก็ลองเทรดไปเรื่อยๆดูนะครับ
มันจะทำให้เราสนิทกับหุ้นมากขึ้นครับ

ราตรีสวัสดิครับ
พิมพ์ในไอโฟน เลยขออัพสั้นๆนะครับ

Thursday, January 10, 2013

0102 : Value Journal 10-01-2013




สวัสดีครับ




วันนี้ตลาดแดงสะใจ แต่ยังไม่สมใจผมครับ

เพราะยังลงมาไม่ถึงจุดที่จะรับกอง A ของ TDEX เข้าโซน

อีกนิดเดียวเท่านั้น หุหุ แต่ก็มีบางตัวที่รับกลับเข้าโซนได้แล้วครับ

แล้วก็เล่นกอง B ฤทธิ์มีดสั้น Style ด้วยอีกทางหนึ่งครับ

แต่เซ็งตรงที่ ช่วงท้ายตลาดนั้น Streaming เอ๋อ มากครับ

ผมไม่รู้ว่าสั่งซื้อแล้วมัน Match รึยัง เลยต้องโทรไปถามมาร์ฯ ครับ

มาร์บอก Match แล้ว แต่ในโปรแกรมยังไม่มีหุ้นขึ้น แล้วยังไม่โชว์ Status M เลย

ก็เลยชั่งมัน รอเช็คกับ e-mail comfirmation ตอนดึกๆก็แล้วกัน



ตลาดลงไม่ได้ลงทีละน้อยเลยครับ วันนี้ทุบพร้อมโวลุ่มเลย

ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเทมาเซ็คขาย INTUCH รึเปล่า โวลุ่มเลยมากขนาดนี้

แต่ที่แน่ๆ กอง C ที่ Let Profit Run มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

ก็จัดการ Take Profit หมดแล้วครับ ไม่อยู่เถียงกับตลาดแล้ว

จะเด้งหนีค่อยโดดขึ้นรถใหม่ ซื้อตั๋วแพงขึ้นอีกหน่อย

ยังดีกว่าขึ้นรถที่ไม่รู้จะพาเราไปไหน อิอิ



การเทรดวันนี้ก็มีผิดพลาดนิดหน่อยครับ

คือผมดันเอากอง D ไปเทรด ฤทธิ์มีดสั้น ด้วย

อันที่จริง ที่ผม Set ไว้ก็คือใช้แต่กอง B เท่านั้น

ก็เลยเสียเสียกระสุนกอง D ไปนิดหน่อย ( 3 Lot )



ช่วงนี้ถ้าหากหุ้นปรับฐานแรงๆ

ก็คงเป็นจังหวะสะสมกำลังพลของ KZM อย่างดีเลยครับ

แล้ววันนึงพลังของ Compound Cash Flow มันจะแสดงผลออกมาให้เราเห็นครับ





ยังไงก็ขอให้มีสติในการลงทุนนะครับ

 

Wednesday, January 9, 2013

0101 : Value Journal 09-01-2013



สวัสดีครับ




วันนี้เขียวเข้ม แต่หน่วยรบ KZM ของผมทำอะไรไม่ค่อยได้เลยครับ

ปล่อยแค่กอง D ของ HMPRO ไป 1 Lot



หลังเลิกงานก็ไปออกกำลังกายครับ

ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง นั่นก็คือ

ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 4 วัน วันละ 1 ชั่วโมง

สำหรับวิธีออกกำลังกายของผมก็จะใช้วิธี “เปลี่ยนไปตามเพลง” ครับ

คือที่สวนสาธารณที่ผมไปออกกำลังกายนั้น

มันจะมีเครื่องออกกำลังกายอยู่ราวๆ 10 กว่าอย่าง

ผมก็จะเปิดเพลงฟังแล้วก็ออกกำลังกายไปด้วย

โดยจะออกกำลังกายเครื่องละ 1 เพลง

เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้านาฬิกาปลุกที่ตั้งนับถอยหลังไว้ 1 ชั่วโมงดังเมื่อไหร่

ก็คือเสร็จสิ้นภารกิจครับ



ผมแอบได้ยินคนที่เค้ามาออกกำลังกายคุยกัน

มีคนนึงเมื่อก่อนผอมมาก ตอนนี้อ้วนระดับธิดาช้าง

ผลมาจากการกินน้ำอัดลมครับ จับใจความได้ว่ากินวันละ 4-5 ขวด

เป็นเวลาหลายปี ก็เลยอ้วนขึ้นมาเรื่อยๆ

ตอนนี้เลยคิดจะมาออกกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก



ผมโชคดีที่เป็นคนไม่กินน้ำอัดลม ไม่งั้นช่วงที่อ้วนก็คงหนักกว่านี้



ผมไม่ได้ชอบหรอกครับ ไอ่การออกกำลังกายเนี่ย

เพียงแต่ผมคิดว่าการออกกำลังกายในวัยหนุ่มเนี่ย

มันเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งเหมือนกันครับ

เพื่อที่วันหน้าเราจะได้เจ็บป่วยยากๆหน่อย

แล้วสุขภาพแข็งแรง เดินทางท่องเที่ยวไปไหนมาไหนได้สะดวกหน่อย



ผมโชคดีที่ผมรู้สึกตัว และตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพเร็ว

สาเหตุก็มาจากการที่โหมทำงานหนักจนป่วยเมื่อต้นปี 2555 ครับ

สาเหตุก็น่าจะมาจากความเครียด และนั่งทำงานเป็นเวลานาน

ก็รักษาหลายหมอ รวมถึงวิธีทางแผนโบราณและการนั่งสมาธิด้วยครับ

พออาการทุเลาก็เลยคิดว่า เวลาเราอาจจะเหลือน้อยก็ได้ใครจะไปรู้

หากจะทำงานหนักเกินไป เป็นอะไรไปคงไม่มีใครเหลียวแล

หันมารักษาสุขภาพ สะสมบุญกุศล ไว้ด้วยจะดีกว่า



จากนั้นผมก็เริ่มหันมาเอาใจใส่ครอบครัวมากขึ้นครับ

รักษาสุขภาพ ศึกษาธรรมะ เริ่มทำตามความฝันทีละอย่างๆ

ไม่รอว่าต้องรวยก่อน หรือต้องพร้อมก่อนแล้วครับ

เพราะบางที ช่วงเวลาทีเรารอ มันอาจจะมาไม่ถึงก็ได้

สู้ทำวันนี้ให้เต็มที่ไปเลยดีกว่า





วันนี้อยากบ่นครับ ฮ่าๆ ไม่เกี่ยวกับการลงทุนเลย

ยังไงก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพกายและสุขจิตที่ดีทุกวันนะครับ : )

Tuesday, January 8, 2013

0100 : Value Journal 08-01-2013



สวัสดีครับ


วันนี้ Index Future ฝรั่งยัง Net Short ต่อนะครับ

ฝรั่งคงแอบ Short มาเรื่อยๆ แบบไม่ให้เรารู้ตัวครับ

แล้วก็คงสะสมไปอีกสักระยะหนึ่งครับ

และเวลาเอาลงก็คงจะเอาลงไปสัก 100 จุด

ถึงจะได้กำไรเป็นน้ำเป็นน้ำเป็นเนื้อครับ

และเพื่อเป็นการเล่นกับใจรายย่อยในตลาดด้วย

ก็คงต้องเอาลงจนรายย่อยยอมมอบตัว

เค้าถึงจะได้เก็บของถูกจากเราๆอีกรอบนึงครับ

นี่เป็นการเดาของผมล้วนๆนะครับ อย่าเชื่อมากนักก็แล้วกันครับ

เพราะผมเดาทีไรผิดตลอดๆ ฮ่าๆ



สำหรับการเทรดวันนี้ก็เทรดกอง C , D เก่าที่รบค้างไว้ครับ

ตีแล้วชิ่งออกมาได้บางส่วน เพื่อเก็บแรงไว้ลุยอีกรอบนึงครับ

เห็นตลาดแบบนี้แล้วโลภไม่ลง อิอิ

วันนี้ก็มีผิดพลาดนิดหน่อยครับ ที่กอง C , D ของ CHINA

คือเห็นราคา CHINA มันย่อลงมาก็เลยเข้าไปรับ

ทั้งๆที่ ยังไม่ถึงเวลาของ Follow Buy Positions

แล้วก็ไปรับตอนมันลงต่ออีกหน่อย สรุปแล้ว เทรดพลาดไป 4 Lot ครับ

พอรู้ตัวก็เลยจดบันทึกไว้ในสมุด คราวหลังจะได้ไม่ทำอีก…

   

Monday, January 7, 2013

0099 : Value Journal 07-01-2013



สวัสดีครับ


วันนี้ตลาดบวกต่อ แม้จะย่อลงมาท้ายตลาดนะครับ

( แต่ยอด Net Index Future ฝรั่ง S นะครับ ยังไงระแวดระวังตัวไว้หน่อยก็ดี )

TDEX ผมก็สามารถทำกำไรกอง A ไปได้อีก 1 ไม้ครับ

แล้วก็เทรดกอง C , D เช่นเคย รวมถึงเทรด Virus Trading กับหุ้นด้วยครับ

ช่วงนี้ก็ไม่ได้อ่านหนังสือหุ้นสักเท่าไหร่ครับ

แต่จะหันไปอ่านพวกหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง

และหนังสือธรรมะ เป็นส่วนใหญ่ครับ

ซึ่งผมว่ามันสามารถช่วยในเรื่องของการจัดการกับสภาพจิตใจของเราได้ครับ

อีกอย่างก็คือหนังสือหุ้นไทยที่ออกมากันเต็มแผงช่วงนี้นั้น

ผมว่าส่วนใหญ่เป็นหนังสือที่เหมาะกับมือใหม่ไปเสียส่วนใหญ่

สิ่งที่ผมอยากอ่าน อยากเรียนรู้ นั้นผมอยากเรียนรู้ในเรื่องที่ลึกๆลงไปมากกว่าครับ

ซึ่งก็ไม่ค่อยจะมีออกมาเลย ก็มีหนีไปอ่าน Text Book บ้างครับ

แต่กว่าจะอ่านได้แต่ละหน้ามันก็นานครับ ( Eng ผมไม่แข็งเท่าไหร่ )

ซึ่งมันเปลืองเวลาไปเยอะ ก็เลยหันไปอ่านหนังสือที่เราอ่านเข้าใจได้ง่าย

และสามารถนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวันเลยจะดีกว่าครับ



และก็พยายามจัดเวลาออกกำลังกายให้ได้วันละ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยครับ

ตั้งใจไว้ว่าอาทิตย์ละ 4 วัน จันทร์ ถึง พฤหัส ต้องไม่พลาด

ยกเว้นติดประชุมตอนเย็น ก็ไปออกกำลังที่สวนริมคลองเจอพวกอาม่า อาเจก ตรึมเบย

ผมว่าสุขภาพนั้นเป็นพื้นฐานของชีวิตที่ดีครับ

หากกายเราแข็งแรง แล้วจิตใจเราสดใส

เราก็สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไม่ต้องกังวลครับ

แต่ลองป่วยดูสิ ห่อเหี่ยวจนไม่อยากทำอะไรเลยแหละครับ

ช่วงที่ผมป่วยก็แทบไม่ได้เทรดหุ้นเลย หนังสือก็ไม่อ่าน

แต่ก็ยังดีที่ว่าหันมาศึกษาธรรมะเพื่อฝึกจิตใจไม่ให้กังวลครับ

ก็เลยไม่วิตกจริตสักเท่าไหร่ แต่ถ้าให้เลือกขอไม่ป่วยจะดีกว่าครับ - -“



สำหรับการรักษาสุขภาพอย่างง่ายของผมนะครับ

1 ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

2 ทานอาหารแบบควบคุม Cal วันนึงไม่ควรทานเกิน 2,000 Cal

3 กำหนดลมหายใจ เข้า-ออก ลึกๆ แบบสมาธิ บ่อยๆ ( ทำให้เป็นนิสัยไปเลยยิ่งดี )

ข้อ 3 นี่ช่วยปรับสมดุลของร่างกายและจิตใจครับ





แล้วพบกันใหม่ครับ : )

0098 : KZM ฉบับจับมือทำ




วันนี้มีเพื่อนโทรมาถามเรื่องจะเริ่มต้นเทรด KZM เริ่มยังไง ?

ก็อธิบายไปเสียยาวเลย เลยมาย้อนดูว่า ตอนที่ผมเขียนถึงกอง A , B

ผมอาจจะเขียนไม่ละเอียดรึเปล่าหว่า เพราะเขียนรอบเดียวแล้ว Post เลย

ไม่ได้เขียนแล้วเกลาแบบนักเขียนมืออาชีพ คือเขียนตามที่อยากเล่าว่างั้น

วันนี้ก็จะลองมาเขียนอธิบายอีกรอบนะครับ

เอาแบบตั้งแต่แรก เหมือนจับมือเขียน ก ไก่ ข ไข่ กันเลยดีกว่า



เริ่มต้นนะครับ


1. เราต้องกำหนดก่อนว่า การเทรด KZM ครั้งนี้เนี่ย เรามีงบประมาณเท่าไหร่

สมมุติว่าเรากำหนดไว้ 100,000 บาทก็แล้วกัน


2. จากนั้นก็มาดูว่า เราจะเลือก Product อะไรในการเทรด

จะยกตัวอย่าง TDEX แล้วกันนะครับ TDEX ณ วันนี้ราคาอยู่ที่ ~ 9.70 บาท / หุ้น


3. คำนวณดูว่า เงิน 100,000 บาท ซื้อ TDEX 9.70 บาท ได้กี่ไม้ ( กำหนดไม้ละ 100 หุ้น )

100,000 / 970 = ประมาณ 100 ไม้


4. KZM แบ่งเป็น 4 กอง คือ A , B , C , D เราก็จะมีจำนวนไม้ที่ใช้เล่นในแต่ละกอง กองละ 25 ไม้


5. จากนั้นก็มาจัดโซนกอง A ว่าเราจะเทรดในกรอบเท่าไหร่

สมมุติเรากำหนดไว้ว่าจะเทรดในกรอบ 8.92 – 11.32 จะแบ่งไม้แล้วเข้าซื้อตามจุดดังนี้ครับ

Zone A1 8.92 buy 100 หุ้น

Zone A2 9.02 buy 100 หุ้น

Zone A3 9.12 buy 100 หุ้น

Zone A4 9.22 buy 100 หุ้น…

ไปปเรื่อยๆจนถึง 11.32 ก็จะได้ 25 ไม้พอดีครับ



6. จากนั้นก็จะมากำหนดจุดขายของกอง A ครับ โดยตรงนี้แล้วแต่เรากำหนดนะครับ

อย่างผมก็จะกำหนดว่าไม้ปล่อยทำกำไรกอง A เมื่อขึ้นไปจากโซน 20 ช่อง เช่น

Zone A1 เราเข้าซื้อที่ 8.92 ก็จะปล่อยออกที่ 9.12 ครับ

Zone A2 เราเข้าซื้อที่ 9.02 ก็จะปล่อยออกที่ 9.22

Zone A3 เราเข้าซื้อที่ 9.12 ก็จะปล่อยออกที่ 9.32 แบบนี้ไปเรื่อยๆครับ



และสมมุติว่าเราปล่อยโซน A3 ออกไปที่ 9.32 แล้วราคามันลงมา 9.12 อีกรอบ

ก็ให้ซื้อ A3 กลับเข้ามาไว้ในโซนเช่นเดิมครับ รอทำกำไรในรอบต่อไป



ถ้าราคาลงมาที่ 9.02 ก็รับ A2 กลับเข้ามาในโซนต่อ A1 ก็เหมือนกันครับ

นี่คือ Zone Trading Style กอง A ครับ…


7. จากนั้นเราก็จะเริ่มซื้อหุ้นเข้ากอง A ครับ โดยหากวันนี้ TDEX ราคาอยู่ที่ 9.70

เราก็จะซื้อรวบโซนทั้งหมดตั้งแต่โซนของ 9.72 ขึ้นไปถึง 11.32 เลยครับ

ซึ่งทั้งหมดก็จะเป็น 17 ไม้ครับ

ต้นทุนเราจะเป็นดังนี้ครับ

A9 – 9.70

A10 – 9.70

A11 – 9.70

A12 – 9.70

…จนถึง A25 ทุกโซนของเราจะมีต้นทุน 9.70 เท่ากันหมดครับ

การซื้อแบบนี้เค้าเรียกว่า “การซื้อรวบโซน” ครับ

ข้อดีของมันก็คือ ในโซนบนๆ เราจะได้กำไรมากครับ


8. จากนั้นก็จะเป็นของในเรื่องการเข้าซื้อ กอง B ครับ

จำไว้เลยครับว่า กอง B ให้เข้าซื้อพร้อมกอง A ในจำนวนเท่ากอง A ครับ


9. สมมุติเราซื้อ A , B มาอย่างละ 1,700 หุ้น ที่ราคา 9.70 ( ซื้อรวบ 17 ไม้ )

การเทรดกอง B ก็คือ ให้เราหาจังหวะทำกำไรภายในวันครับ

อย่างผมตั้งกฎง่ายๆเลยก็คือ จะขายกอง B เมื่อกำไร 10 ช่อง

หากซื้อมา 9.70 ผมก็จะพยายามหาจังหวะขายออกที่ 9.80 ครับ

หากขายได้ เราก็จะมีกำไร 10 สตางค์ เท่ากับว่า กอง A ของเรานั้น

มีต้นทุนเพียงแค่ 9.60 บาท เท่านั้นครับ ( นี่แหละ เหตุผลที่เรียกกอง B ว่าหน่วยรบคุ้มกัน )

แต่ถ้าขายไม่ได้ในวันก็ไม่เป็นไรนะครับ วันต่อๆไปค่อยหาจังหวะใหม่ก็ได้


10. จากนั้นก็หาจังหวะขายกอง A ออกตามโซน แล้วก็รับกลับมา (อย่าลืมซื้อพร้อมๆกอง B)

ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆเพื่อสร้าง Cash Flow ให้กับพอร์ตเราครับ


11. พอเราสร้าง Cash Flow ได้จำนวนนึง ก็นำมาขยายโซนต่อไปครับ

จำได้ไหมครับว่าเมื่อกี้เราไล่เก็บ TDEX ในราคาที่ลงท้ายด้วย 2

( 8.92 , 9.02 , 9.12 , 9.22 ไปจนถึง 11.32 )

จากนี้เราก็จะนำ Cash Flow มาขยายโซนที่ลงท้ายด้วยเลขอื่นบ้างครับ

เช่นอาจจะเก็บในโซนเลข 7 ก็ได้ ( ผมก็ทำแบบนี้ เพราะมันห่างกัน 5 ช่องพอดี )

พอได้เลข 7 ครบ ตั้งแต่ 8.87 – 11.37 ก็ไล่เก็บเลขอื่นต่อไปครับ


12. พอเราเก็บเลขท้ายได้ครบทุกเลข ตั้งแต่ 0 – 9 แล้ว

สิ่งที่เราจะทำต่อไปก็คือ เพิ่มจำนวนหุ้นในแต่ละไม้ครับ

จากเดิมที่เราซื้อโซนละ 100 หุ้น ก็เพิ่มเป็น 200 หุ้น

เป็น 300 , 400 , 500 หุ้น … เพิ่มไปเรื่อยๆครับ



แต่เราต้องคำนึงไว้อย่างนึงก็คือ เราต้องเทรดภายใต้งบประมาณที่เรามีนะครับ

อย่า Over Trade เด็ดขาดนะครับ เพราะอาจจะทำให้พอร์ตขาดสภาพคล่องได้





นี่ก็คือตัวอย่างคร่าวของการเริ่มต้นเทรดกอง A , B นะครับ

ส่วน C , D นั้นคิดว่าอ่านได้จาก Entry Basic KZM 5 น่าจะเข้าใจได้นะครับ





ขอให้ทุกท่านมีความสุขและความมั่งคั่งจากการลงทุนนะครับ : )

Sunday, January 6, 2013

0097 : Basic KZM 5



สวัสดีครับ ,




วันนี้จะมาอัพ Blog ในเรื่องของ Basic KZM ต่อนะครับ

หลังจากเคยเขียนเรื่องกอง A , B ค้างไว้เมื่อนานมาแล้ว ฮ่าๆ

คราวนี้จะมาพูดถึงกอง C , D มั่งนะครับ



กอง C , D เนี่ย อย่างที่เคยบอกไว้ว่ามันคือกองกำลังหน่วยรบพิเศษ

ใช้จู่โจมและรบแบบกองโจร โดยใช้ Skill Trade ทาง Technical



A , B เปรียบเหมือน ศาสตร์ของ Money Manangment

ส่วน C , D ก็จะเป็นเด็กศิลป์ เข้า-ออก ตาม Buy-Sell Signal

โดย D ก็จะเข้าเทรดพร้อม C ( เหมือนกอง B ที่เข้าพร้อม A นั่นเอง )

โดย Signal ในการเข้าซื้อของ C , D เนี่ย ไม่จำกัดครับว่าเราจะใช้เทคนิคอะไร

เอาที่เราถนัดก็แล้วกันนะครับ บางคนอาจจะชอบ Moving Average CrossOver

หรือบางคนอาจจะใช้ MACD RSI ก็ตามสบายครับ

หรือว่าจะใช้การเทรดแบบ Multiple Indicator ก็ได้ไม่ว่ากันครับ

เพราะเราแบ่งกอง C , D เป็น Lot เล็กๆอยู่แล้ว

สัญญาณแต่ละแบบมันมาไม่พร้อมกัน

Moving อาจจะมาก่อน แล้วตามด้วย MACD ก็เข้าไปอย่างละ Lot

แบบนี้ก็ได้ครับ หรือจะใช้แบบ Multiple Timeframe ก็ได้ครับ

ตรงนี้แล้วแต่เราจะสร้างสรรค์ระบบขึ้นมาครับ



ทีนี้ลองมาดูตัวอย่างการเทรดกอง C , D ของผมนะครับ

ผมยกเป็นตัวอย่างเฉยๆนะครับ อย่าเลียนแบบเลย

เพราะผมว่า คุณทำได้ดีกว่าผมอีก เรื่องเทคนิคเคิลเนี่ย

ผมจัดว่ามึนสุดๆแล้ว กราฟเกริฟ แนวรับแนวต้านอะไรลากไม่ค่อยจะเป็นหร๊อก

ผมจะใช้ Technic 2 แบบ ก็คือ Moving Average Crossover และ P/L Indicators

แบบแรกก็คือใช้แบบ Multiple Timeframe

Moving 5 ตัด 10 , 5 ตัด 20 , 3 ตัด 18 ประมาณนี้ครับ

เวลาเราเข้าเราก็เข้าตรงจุดที่

5 ตัด 10 Buy 1 Lot

5 ตัด 20 Buy 1 Lot

3 ตัด 18 Buy 1 Lot

หรือแล้วแต่ Timeframe ที่เรากำหนดไว้ครับ

แต่เวลาเข้าด้วย Timeframe ไหนก็ต้องจดไว้ทุกครั้งครับ

ว่า Lot นี้เราเข้าด้วย Timeframe อะไร จะ Exit เมื่อไหร่

การใช้ Technical แน่นอนครับว่าต้องมี Error กันบ้าง

ถ้าเจอ Error ติดดอยก็ปล่อยมันไปครับ Lot เล็กๆ ติดบ้างจะเป็นไรไป

อย่าลืมนะว่า KZM ไม่มี Cut loss เน้อ



ซึ่งการเทรดแบบ Moving Average CrossOver หรืออาจจะ Indy อื่นๆ

ผมจะใช้เป็น Offline trade ครับ คือ จะตัดสินใจซื้อขายในเวลาตลาดปิดทำการ

เพื่อพัฒนา skill trade ของผมครับ เห็นเมื่อก่อน Trainee Trader MudleyGroup รุ่นแรกๆ

เค้าฝึกกันแบบนี้เลยฝึกมั่ง แหะๆ การฝึกแบบ Offline เหมือนการที่เราเล่น Poker

แล้วเรารู้ไพ่ในมือเรา กับไพ่บนโต๊ะอีก 3 ใน

มันอยู่ที่เราเลือกว่าเราจะ หมอบ จะ Bet หรือจะ Check

กับตลาดก็คือเรารู้ข้อมูลต่างๆ เห็นกราฟ เห็นข่าว

อยู่ที่เราเลือกเช่นกันว่าเราจะเล่นไหม หรือ Wait & See ยังไงต่อไป

ผมก็เลยใช้ตรงนี้เพื่อฝึก skill trade ของผมครับ



การเทรดอีกแบบ ผมเอาไว้ใช้เมื่อมีโอกาสดูจอ

เป็นการเทรดแบบ Online นั่นเอง

โดยผมเลือกใช้วิชา P/L indicators ที่พี่ต้านเคยสอนไว้ใน Blog และ Pantip

โดยจะเข้าซื้อจากสัญญาณราคา เช่น

ราคาเปิดอยู่ที่ 10.00 บาท

แล้วกระพริบมาที่ 10.01 บาท – Buy Signal 1

ต่อมาที่ 10.02 บาท – Buy Signal 2

10.03 – Buy Signal 3

แล้วก็เขียวมาเรื่อยๆอาจจะมาอยู่ที่ 10.10 – Buy Signal 10

จากนั้นหุ้นไม่เขียวต่อ ลงมาที่ 10.09 – ตรงนี้ถ้าเป็นพี่ต้านจะบอกให้ขายทำกำไรหมดเลย

แต่ผมขอใช้เป็นจุด Wait & See ก่อน

ของผมจะรอให้มาลงมาที่ 10.08 ก่อนผมค่อยเทหมดทุกไม้ครับ

ตรงนี้ก็แล้วแต่ว่าใครจะออกแบบยังไงนะครับ



นี่คือการเทรดกอง C คร่าวๆของผมนะครับ

ส่วน กอง D นั้น ให้เราพยายามหาจังหวะออกให้ได้ภายในวันครับ

แต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร วันต่อๆไปก็หาจังหวะใหม่ก็ได้



จะเห็นได้ว่ากอง C , D นั้นเราค่อนข้างจะมีอิสระให้การออกแบบการเทรดครับ

พี่ต้านบอกไว้ประมาณว่า พอร์ตจะโตเร็วโตช้า

อยู่ที่ใครใช้ C , D ได้มีประสิทธิภาพกว่ากัน

ยังไงก็ควรให้ความสำคัญกับมันเยอะๆหน่อยนะครับ

เพราะถ้าเราสร้าง Cash Flow จาก C , D ได้บ่อยๆ

A , B เราก็จะแข็งแกร่งและยึดครองพื้นที่ได้เร็วขึ้นครับ



อีกเรื่องนึงก็คือ ให้เรามอง C , D แต่ละ Lot เหมือนกระสุน 1 นัดครับ

เราต้องดูด้วยว่าเราใช้กระสุนมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด

แต่ละนัดที่เรายิงออกไปนั้นมัน โดน หรือไม่

ถ้ายิงโดนบ่อยๆก็คงจะดี แต่ถ้ายิงออกไปเยอะๆ แล้วไม่โดน ( ยิงไปติดดอย )

อันนี้ก็ต้องดูว่า เรายิงพลาดเพราะอะไร



และที่สำคัญอีกอย่างนึงคือต้องไม่ Overtrade ครับ





อ้อ มีการใช้ C , D อีกแบบนึงนะครับ

นั่นคือการเล่นแบบ Zone Extra ครับ

การเล่นแบบ Zone Extra ก็ไม่มีอะไรมากครับ

คือหากเราเจอช่วงที่หุ้นลงแรงๆ ลงแรงจนหุ้นหลุดกรอบล่างของ กอง A

อาจจะหลุดไปเยอะมากๆ ถ้าเราเหลือกระสุนใน C , D

ก็สามารถเอามาเล่นเป็น A , B แทนได้ครับ

แต่ต้องกำหนดกรอบ และแบ่งโซนให้ดีๆนะครับ

เพราะ Zone Extra ที่เราเอา C , D มาเล่น นั้นเป็นเหมือนท่าไม้ตายของเราแล้ว

ต้องหวังผลชัวร์ๆเท่านั้นครับ ซึ่งถ้าเราไม่เทรดแบบยิงทิ้งยิงขว้าง

หากเจอขาลงแรงๆ สัญญาณเทคนิคคงเจอแต่ Sell Signal

เราคงไม่ได้ใช้กอง C , D เท่าไหร่ ซึ่งก็คงเหลือไว้เล่น Extra ครับ





วันนี้ก็ขอแชร์เท่านี้ก่อนนะครับ

แล้วพบกันใหม่นะครับ : )

 

Friday, January 4, 2013

0096 : Value Journal 04-01-2013



สวัสดีครับ

เมื่อวานต้องเข้านอนเร็วหน่อยครับ
เพราะเช้านี้ต้องขับรถมาประชุมที่ปากช่อง
ก็ขออัพเดทของเมื่อวานก่อนนะครับ

ตลาดเมื่อวานลบไปในช่วงเช้า
ก่อนมาบวกแรงในช่วงบ่ายจนถึงปิดตลาด
ผมก็เทรดอยู่กับ HMPRO ครับ
โดยปล่อยกอง A ได้ 1 ไม้
จากนั้นก็มารบกันที่ C , D ครับ

การเทรด KZM นั่นอย่างที่บอกไว้ครับ
ว่าหากินอยู่กับราคาตลาด
เพราะงั้น ช่วงที่ตลาดวิ่งขึ้นแบบม้วนเดียว
ก็ไม่แปลกที่อาจจะสร้างผลตอบแทนได้น้อย
เพราะเราทยอยขายตาม Plan ที่วางไว้
ตรงนี้ผลแทนจะแพ้คนที่เล่นแบบ
Buy & Hold แบบอัดเต็มครับ
แต่หากดูกันยาวๆแบบรอตลาดจบรอบ

ตลาดจบรอบในที่นี้หมายถึง
Peak - ปรับฐานใหญ่ - กลับมา Peak อีกรอบ
ตรงนี้แหละครับ KZM จะแสดงพลังออกมาให้เราเห็น
พลังจากการเอา Pay off Cash Flow
มาขยายกองกำลังเพื่อชัยชนะในสงครามระยะยาว

ผมมองว่าวิธีนี้ช่วงแรกนั้น
Port ผมอาจจะได้ผลตอบแทนน้อยกว่าชาวบ้าน
แต่ช่วงแรกนั้นมันคือช่วงที่เราเน้นสะสมกำลังพลครับ
พอกองทัพเราแข็งแกร่ง เราก็สามารถไปรบได้ทุกที่ครับ
และสามารถขยายโซนยึดครองพื้นที่ไปได้ทุกพื้นที่ครับ
ผมจึงให้ความสำคัญกับชัยชนะในระยะยาวมากกว่าครับ


ผมมีอุดมการณ์อีกอย่างนึงเกี่ยวกับการยึดครองพื้นที่
นั่นก็คือผมอยากสะสมพื้นที่ป่า ซึ่งอาจจะไล่ซื้อที่ดินไว้
ตามกำลังทรัพย์ แล้วก็ปลูกเป็นสวนผลไม้ หรือ
ปล่อยให้มันกลายเป็นป่าไปเลยครับ แล้วแต่สภาพพื้นที่ด้วย
ซึ่งผมเคยอ่านเจอว่ามี บ. ในต่างประเทศ ทำแบบนี้อยู่เหมือนกัน
น่าจะเป็นที่ไต้หวันนะครับ ถ้าจำไม่ผิดนะ

นี่ก็คือความฝันของผมครับ คืออย่างน้อยที่ดินที่อยู่ในมือผม
ก็จะเป็นปอดของโลกต่อไปแน่นอนครับ ซึ่งจะปลูกฝังต่อไปยัง
รุ่นลูกรุ่นหลานของผมต่อไปด้วยครับ

ซึ่งมันอาจจะใช้เวลาสักหน่อย
อยา่งน้อยก็ต้องให้พอร์ตของผมแข็งแกร่งและ
Pay Off Cash Flow ออกมาให้ได้ระดับนึงก่อนครับ
ซึ่งก็ต้องสู้กันต่อไปครับ...!


Thursday, January 3, 2013

0095 : Value Visions 03-01-2013



สวัสดีครับ ,


การเทรด KZM วันนี้ส่วนใหญ่อยู่ที่ C , D ครับ

อาจเป็นเพราะสภาพตลาดอยู่ในช่วงเก็งกำไร(อย่างบ้าคลั่ง)ด้วย

หน้าที่ในสนามรบจึงไปตกอยู่กับหน่วยจู่โจมอย่าง C , D เป็นส่วนใหญ่

ส่วน A ก็คอยชิงจังหวะทำกำไรแบบไม่ให้รู้ตัวครับ

ช่วงนี้ผมเริ่มเก็บกำไรของ Position Trading แล้วล่ะครับ

ถ้าตกลงมาถึง Trailing Stop Position ผมก็จะทยอยเก็บทันที

แต่ถ้าราคาวิ่งต่อก็เริ่ม Position ใหม่ครับ

เพราะผมรู้สึกว่าตลาดที่ทุกคนต่างก็ได้กำไรนี่มันน่ากลัว

อย่างคำของกองทุนฝรั่งที่พี่ต้านเคยโพสไว้ประมาณว่า

“ขุนมันให้อ้วน ก่อนที่จะกินมัน” ซึ่งในแง่ของผลประโยชน์แล้ว

เหมือนเราเล่น Poker แหละครับ หากไพ่เราดีโคตรๆแล้วเนี่ย

เราจะทำยังไงต่อไปครับ… เราก็ต้องทำยังไงก็ได้ให้คนในวงไม่รู้สึกว่าเราได้ไพ่ดี

ตรงกันข้าม ยิ่งทำให้เค้ามั่นใจได้ว่าเค้ามีโอกาสชนะมาก

เค้าก็จะยิ่ง Bet มามาก จากนั้นก็ตลบหลังกินตังค์รวดเดียวครับ

กรณีตลาดหุ้นก็เหมือนกันครับ ยิ่งมั่นใจ ยิ่งใส่เงินเข้ามาเยอะๆ

หรือบางคนใช้ Margin อีกต่อนึง พอโดนทุบหุ้นลงมาติดๆกัน

เค้าจะทำให้เรามากกว่าจุกอีกนะครับ , บ่นมานานไปเรื่องตลาดอีกแล้ว ฮ่าๆ

คือผมชอบเล่นเกมที่ผมได้เปรียบมากกว่าครับ

ก็เลยชอบมองภาวะตลาดไปด้วย เพราะภาวะตลาดเหมือนเป็นแรงส่งของราคาหุ้นครับ

หาหุ้นเขียวในช่วงขาขึ้นย่อมมีโอกาสเจอมากกว่าขาลง

ผมก็กลัวไปอย่างนั้นแหละครับ ผมทายตลาดทีไรผิดตลอดเลย

อย่างผมเนี่ยอาจจะมี Bias Short ด้วยซ้ำ

แต่ถึงผมจะทายผิดหรือถูกก็ไม่ได้มีผลอะไรกับการเทรดครับ

อย่างมากผมก็แค่ติดดอยกอง C , D ไม่กี่ไม้

ส่วน A , B ผมได้ประโยชน์ด้วยซ้ำเพราะจะได้ถือโอกาสรับกลับเข้าโซน

KZM นี่ไม่ได้มี Mr. Market เป็นเพื่อนหรอกนะครับ

แต่ KZM นี่คือการทำตัวเป็น Mr. Market เลยแหละ

เพราะมันคือ Market Model ที่หากินกับราคาตลาดครับ





ฝันดีราตรีสวัสดิ์นะครับ

แล้วพบกันใหม่ครับ : )

 

Wednesday, January 2, 2013

0094 : Value Visions 02-01-2013



สวัสดีครับ


เป็นยังไงกันบ้างครับ กันวันทำการวันแรก

ตลาดหุ้นไทยก็เขียวปี๋รับปีใหม่กันเลยทีเดียวนะครับ

วันนี้ผมก็มีโอกาสเทรดนิดหน่อยครับ

TDEX ทำกำไรกอง D ออกไป 1 ไม้

CHINA ทำกำไรกอง A กะ กอง D กองละ 1 ไม้ครับ

และวันนี้ก็ได้ลองจัดโซนแบ่งเงินมาทำ Virus Trading กับ RS ดูครับ

ปรากฏว่าถูกจังหวะพอดี ซื้อรวบได้ที่ Low ของวัน

ก็สามารถทำกระแสเงินสดจากกอง B , D ได้เป็นที่น่าพอใจครับ

ต่อไปดูหาจังหวะดึงกระแสเงินสดออกจากกอง A , C ครับ



ช่วงนี้กำลังจะเริ่มต้น Paper trading ETF ของ S&P 500 ครับ

พอดีโหลด App iOS มาอันนึงมีให้ลองเทรดเล่นๆ

โดยผมจะเลือก Product SPXL เทรดคู่ไปกับ SPXS ครับ

โดย ETF 2 กองนี้เป็น ETF ของ S&P 500 index

เพียงแต่ว่าจะเป็น ETF ที่มี Leverage ครับ คือจะวิ่ง x 3 ของ S&P

เช่น S&P วิ่ง 1% สองกองนี้อาจจะวิ่ง ~3% ครับ

แต่จะวิ่งคนละฝั่งกัน SPXL คือตัว Long วิ่งตาม Index

ส่วน SPXS คือตัว Short จะวิ่งสวน Index

แรกเริ่มก็คงจะคุมโซนตัว Long ก่อนครับ

แล้วพอปล่อยตัว Long ได้ก็จะซื้อตัว Short เข้าโซนไว้

พอหุ้นลงก็ขายตัว Short ออก รับตัว Long กลับเข้าโซน

แบบนี้เราจะสามารถสร้าง Cash Flow ได้สม่ำเสมอมากยิ่งขึ้นครับ

เสียดายที่เมืองไทยยังไม่มี ETF แบบนี้ครับ

ก็เลยถือเงินสดแทนการ Short

( อย่างน้อยก็ออก Leverage ETF มาก็ยังดีนะท่านจรัมพรฯ )

อันนี้เป็น KZM Level 1 แต่เป็น 1 เกือบๆ 2 ครับ



ผมอยาก Paper Trade ไว้ก่อนเพื่อที่จะได้เจอปัญหาก่อน

หากวันหน้าข้ามไปเทรดด้วยเงินจริงจะได้ประหยัดเวลา

ในการปรับปรุงโมเดลครับ



ที่ผมเลือก ETF ที่มี Leverage นั่นเป็นเพราะมัน Swing แรงดีครับ

แต่มันจะเหมาะกับการสะสมรึเปล่าเด๋วต้องมาวิเคราะห์ดูอีกทีครับ

ว่าเทรดไปๆ หรือสะสมไว้เยอะๆจะมีข้อเสียอะไรหรือไม่ครับ





อีกอย่างที่จะฝึกก็คือ Sniper Trading แบบ Time Penelty ครับ

โดยจะฝึกกับ Product EURUSD ครับ ที่ผมเปิดพอร์ตไว้มีแต่ค่าเงินกับทอง

ซึ่งทอง Spread เยอะเกินไป เลยคิดว่าเทรดค่าเงินดีกว่า

ผมเปิดพอร์ตเงินจริง แต่เป็นบัญชี Cent ครับ เทรด Lot น้อยๆ ไม่มีหมด ฮ่าๆ

ซึ่งระบบที่จะใช้ก็เป็นระบบที่ผมถนัดอันนึงครับ moving 3 เส้น นั่นเอง

อีกอันจะเป็น Number Trading แบบที่พี่ต้านเคยจุดไอเดียไว้ครับ

ก็คือเวลาเราเทรด ให้เราลากเส้นขึ้นมาเส้นนึง หรือ 2 เส้น

ขึ้นเหนือเส้น Long ลงใต้เส้น Short แล้วก็ปิดตามใจ

ผมก็เลยว่าจะเอามาลองฝึกดูครับ เพราะมันได้ฝึก Gut ไปด้วย

โดยที่ผมคิดไว้นั้น ผมจะใช้เส้น 2 เส้นครับ

ขั้นตอนแรก เปิด Short ไปก่อน 1 Lot ที่เล็กที่สุด

ตรงนี้จะเป็นเส้นล่างของผมครับ เป็น Short Signal

หากมันลงใต้เส้นไป ก็ Short ไป อาจจะแบ่งโซนเพื่อเปิด Order ครับ

แต่ถ้าหากเดาผิด เปิด Short เส้นแรกไปแล้วผิดทาง กราฟสวนขึ้นไป

ก็ทิ้งห่างจากเส้นแรกสักนิดนึงค่อยเปิด Long เส้นที่สองครับ

เส้นนี้จะเป็น Long Signal ของผมครับ

ขึ้นเหนือเส้นนี้ Long อย่างเดียว

และพื้นที่ว่างระหว่างเส้นสองเส้นนี้จะเป็นจุด Wait & See ครับ

ที่คิดไว้ก็มีอีกอย่างนึงครับ คือ

เส้น Long จะเป็นจุด Cut Loss ของ Order ฝั่ง Short

เส้น Short จะเป็นจุด Cut Loss ของ Order ฝั่ง Long

แต่ข้อนี้ไม่รู้ว่าจะเอามาใช้ดีไหมเพราะตลาดมันแกว่งแรง

กลัวจะโดนทุบให้ชน Stop ไปซะก่อนครับ เด๋วลองของจริงค่อยปรับกันอีกทีครับ





แล้วเจอกันใหม่คับ

ขอตัวไปอ่านหนังสือก่อนนะครับ : )

 

Tuesday, January 1, 2013

0093 : Value Visions 01-01-2013



สวัสดีปีใหม่ครับ

วันนี้ไปวัดพระแก้วมาครับ
ไม่สนุกเลย คนเยอะเกินไป
เบียดเสียดกัน ถ้าพาเด็กไปด้วยอันตรายมากครับ
ไปทำบุญแต่เจอนักท่องเที่ยวที่เห็นแก่ตัว
พาลจะทำให้จิตเราหมองป่าว
ผมคิดว่าปีต่อๆไปคงจะอยู่บ้าน
หรือไปวัดที่สงบๆคงจะดีกว่าครับ
จากนั้นก็ไปที่บางปู กะจะไปทานข้าวกลางวันกัน
และดูนกนางนวล แต่ก็เจอคนเยอะอีก
สรุปเป็นการท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยรื่นรมณ์เท่าไหร่
ก็ต้องจำไว้เพื่อเป็นบทเรียน
เพื่อวางแผนในปีถัดๆไปครับ

เมื่อหัวค่ำก็ขุดสิ่งที่ตั้งใจในปี 2555 มาดู
ปรากฏว่าทำได้หลายข้อเหมือนกันครับ
ทั้งๆที่เขียนทิ้งไว้แล้วก็ลืมมันไป
บางทีมันอาจจะเป็นการตั้งโปรแกรมไว้ในจิตใต้สำนึก
อย่างที่เหล่ากูรูด้านพัฒนาตัวเองแนะนำไว้ก็ได้ครับ
ปีนี้ก็ขอเขียนเป้าหมายของปี 2556 ไว้สักหน่อยครับ

1. ลดน้ำหนักเหลือ 65 กก.
2. มีรายได้จาก Cash Flow 3 เท่าของเงินเดือน
3. บวชทดแทนบุญคุณปาปามามา
4. ออมเงินให้ได้ตามเป้าหมาย
5. เขียน Blog ทุกวัน
6. ฝึกเทรดแบบ Sniper Trading (Time Penelty) ทุกวัน
7. อ่าน Text Book เพื่อเพิ่มความรู้ให้ตัวเอง

ที่เหลือยังคิดไม่ออกครับ
แต่ก็ยังยึดของปีที่แล้วอยู่นะครับ เรื่อยๆสม่ำเสมอต่อไป : )

ข้อ 6 นั้นผมพยายามจะฝึกเทรดเพื่อเพิ่ม skill trading
โดยให้ครบตามกฏ 10,000 ชม. ครับ
หรือพี่ Mudley บอกไว้ว่าเทรดอย่างมีคุณภาพ 30,000 order
ความเก่งมันก็จะมาเองครับ

และในปี 2556 นี้พยายามแบ่งปันความรู้ด้านการลงทุนให้มากขึ้นด้วย
อาจจะมี Project โดยจับเอาเพื่อนที่อยากลงทุนเพื่ออิสรภาพทางการเงิน
แต่ยังไม่ได้มีความรู้ด้านการเล่นหุ้นมาเทรนให้้ใช้ Model KZM ครับ
แบบที่พี่ Mudley จับ พี่ kfc_m มาเป็นหนูทดลอง ฮ่าๆ
ก็คงต้องลองดูว่าจะมีคนสมัครใจสมัตรเข้าร่วม Project หรือไม่ครับ

ราตรีสวัสดิ์ครับ
สู้ต่อไปกับวันทำงานวันแรกของปี 2556 ครับ
แต่ก็ดีใจนะ เพราะตลาดเปิดเสียที
คิดถึงจะแย่แล้ววว...


ภาพประกอบครับ
อะไรไม่ดี อะไรแย่ๆ
นิสัยอะไรที่แย่ๆของเรา
ทิ้งไปครับ : )

0092 : สรุปผลสิ่งที่ตั้งใจปี 2555

สิ่งที่ตั้งใจในปี 2555

1. อ่างหนังสือดีๆ สัปดาห์ละ 1-2 เล่ม ให้จบ พร้อมสรุป Short Note
2. จัดเวลาการทำงานประจำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ต้องไม่
นั่งเคลียร์งานจนดึกช่วงที่ผ่านมาเป็นประจำ เพื่อที่จะได้มีเวลาไปทำ
อย่างอื่นเช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หาความรู้เรื่องหุ้น เรื่องการ
เทรด หรือ เรื่อง ธุรกิจ
3. ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 4 วัน ( ครั้งละ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย )
4. ออมเงินให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
5. ให้เงินป๊ากะม๊าให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านๆมา
6. ออกท่องเที่ยว และ เขียนบันทึกการเดินทางกลับมาให้ได้ 2 ครั้ง / ปี
7. ทานอาหารดีๆ มีประโยชน์ และ ไม่ดื่มแอลกอฮอลล์
8. ทำบุญให้มากขึ้น
9. จัดงานหมั้น
10. ลงมือทำ!


นี่คือสิ่งที่ผมเขียนไว้เมื่อตอนวันสิ้นปี 2554 ครับ
มาดูผลกันว่าผมได้ทำอะไรแต่ละข้อไปตามที่ตั้งใจไหม

1. ทำไม่ได้ อ่านสัปดาห์ละ 1-2 เล่มจริงแต่ไม่ได้ทำ Short Note เลย
2. ทำได้ งานเริ่มลงตัวมากขึ้นครับ เลิกงานไม่เกิน 17.30 น. แล้ว
3. ทำได้ ~80% บางวันติดประชุม ก็ไม่ได้ออกกำลังกาย
4. ทำไม่ได้ ปีที่ผ่านมาออมเงินได้น้อยกว่าเป้าหมายครับ
5. ทำได้
6. ทำไม่ได้ เที่ยวแบบรีบๆ ไม่ได้เขียนเลย
7. ทำได้
8. ทำได้
9. กำลังจะทำ (มี.ค. 2556)
10. ทำต่อไป!

ก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง
แต่ก็ถือว่ามีความก้าวหน้า
สู้ต่อไป ไม่ใช่เพื่อใคร
แต่เพื่อตัวเรานั่นเอง...