เรื่องมันมีอยู่ว่า... วันหนึ่งพี่สหายท่านหนึ่งโทรมาถามว่า วิ่ง 11 km ได้ไหม เราก็ตอบไปว่า... ได้นะครับ แล้วพี่เค้าก็ชวนลงแข่ง Toyota Hua Hin Triathlon 2015 ประเภททีม พี่เค้าจะลงตำแหน่งปั่นจักรยาน ส่วนเพื่อนอีกคนจะลงว่ายน้ำ ขาดตำแหน่งวิ่งอยู่พอดี เราก็คิดว่าไม่เป็นไรมั๊ง 11 km เอง อยู่นอก comfort zone ของเราไม่มาก ปกติเราก็วิ่งหลังเลิกงานประมาณ 5-6 km อยู่แล้ว คิดว่าไหวน่า เลยเอาวะ ลองดู
จากนั้นช่วงเย็นก็พยายามวิ่งยืดระยะให้ได้ไกลขึ้น วิ่งต่อเนื่องให้ได้นานขึ้น เพื่อแข่งงานนี้ ทางเพื่อนร่วมทีมก็ช่วยเหลือ ให้ตารางซ้อมมา แต่ก็ไม่ได้ซ้อมเต็มที่เนื่องจากงานเข้าบวกกะป่วย พอมาถึงช่วงแข่งก็เลยรู้สึกว่าต้องเชื่อใจในพลังใจของตัวเองแล้วแหละ 555
เราออกเดินทางไปหัวหินในวันศุกร์ ก็ลางานล่วงหน้า ชิลๆ พาภรรยามาเที่ยวด้วย แล้วก็ลาวันจันทร์อีก 1 วัน เพื่ออยู่บ้านพักผ่อน
เรามาถึงหัวหินประมาณบ่าย 3 ที่พักก็คือฝากเพื่อนจัดการให้ พักใกล้ๆกับที่แข่งเลย แข่งที่ Black Mountain Water Park ส่วนเราพักที่ Tai-Pan Resort and Condominium ห้องพักได้ราคาพิเศษของคนที่มาแข่งไตรฯ คือจาก 1,500 ลดเหลือ 1,200 ก็ ok แฮปปี้ ห้องก็น่าอยู่มากเหมือนกัน
ตกเย็นก็ไปหาข้าวกินที่ตลาดหัวหิน อ้วนกันไป 555
พอวันรุ่งขึ้นช่วงบ่ายๆก็มาฟังบรีฟ รับพวกชิพ เสื้อ อุปกรณ์การแข่งต่างๆ แล้วก็เอาจักรยานมาเช็คอินด้วย
ช่วงกลางคืนก็ต้องมีการเตรียมอุปกรณ์เพื่อที่จะใช้แข่งในวันพรุ่งนี้ นัดกันว่าจะตื่นตี 4 ครึ่ง แล้วก็ออกจากโรงแรมตี 5 ส่วนนี้ก็ชุดเราเอา เราเลือกสายเกรียน ใส่เสื้อกะหมวก Tony Stark 555 เน้นฮาอ่ะนะ ส่วนเจลไนตรัสนั้น เพื่อนนิวให้มาไว้ใช้เพิ่มพลังงานระหว่างวิ่ง ก็ต้องเตรียมไว้กะชุดด้วย
พอตอนเช้าก็การเดินทางราบรื่นดีไปถึงจุดที่ตั้งของเราตามเวลา ฟ้ายังไม่สางเบยยย
การแข่งก็คือจะแข่งว่ายน้ำเป็นอันดับแรก ทีมเราได้ออกตัว Wave 3 ในภาพคือการรอปล่อยตัว Wave 1
นิวทีมเราว่ายไม่อ้อมทุ่น เลยต้องย้อนกลับมา รวมๆแล้วว่ายไปราวๆ 2 km จากระยะ 1.6 km ฮ่าๆ จากนั้นก็มาส่งชิพต่อให้พี่เชษฐ์ ปั่นจักรยาน 43 km พี่เชษฐ์ปั่นกลับมาส่งชิพให้เราตอน 11 โมง จากนั้นเราก็ออกวิ่ง...
พอเราออกตัว เราก็ไปวิ่งตามความเร็วของคนข้างหน้า ซึ่งผลก็คือทำให้เราเริ่มเกร็งๆที่ขาซ้าย เหมือนๆจะเป็นตะคริว เพราะไม่ได้วิ่งตามความเร็วของตัวเอง ซึ่งตอนที่วิ่ง Human Run 2014 ก็เป็นอาการแบบนี้เป๊ะเลย แต่รู้ว่าพอเดินๆไปสักพักน่าจะหาย ทำให้ต้องเดินๆวิ่งๆสลับกันจนถึง km ที่ 4 ใจก็คิดแม่งจะไหวรึเปล่าว้าาา สุดท้ายมันก็หายนะ เลยพอวิ่งได้บ้าง แต่เจอแดดร้อนโคตรๆ ทำให้วิ่งไม่ค่อยออก จิบน้ำตลอด โชคดีที่เส้นทางวิ่งมีน้ำ support ตลอดทาง ทำให้เรายังไปได้ พอวิ่งๆไป รู้สึกว่าเท้าจะพอง ปวดๆ ก็เลยเดิน แต่พอเดินก็ดูว่าเราเดินได้ pace เท่าไหร่ ก็อยู่ที่ราวๆ 9.3-9.5 เราก็เริ่มคำนวณว่าจะถึงเส้นชัยทันไหม ถ้าเค้า cut off ที่ เที่ยงครึ่ง นั้นเราไปทันแน่นอน ก็เลยสบายใจ วิ่งบ้าง เดินบ้าง แต่ไม่อยากเสี่ยงวิ่งเยอะเท่าไหร่เพราะ Heart Rate สูงเหลือเกิน 170 up ตลอด เลยไม่ค่อยอยากเสี่ยง เราก็เลยทำงานทีละ 1,000 ก้าว คือนับก้าวแม่งเลย วิ่ง 1,000 ก้าว เดิน 1,000 ก้าว สลับๆกันแต่ด้าวยความที่แดดมันร้อนทำให้วิ่งไม่ออกเท่าไหร่ เดินจะไวกว่า เราก็เลยเดินจ้ำๆๆๆ ตอนเดินนี่แหละที่แซงๆคนที่เดินเหมือนกันได้หลายคน ดูใน endomondo เป็นระยะๆว่ามาได้กี่ % ของระยะ 11 km แล้ว พอมาเกินครึ่งใจมันก็เริ่ม ok ขึ้น ยังไงก็จบแน่ๆ แต่จะทันเที่ยงไหมเท่านั้นแหละ ใจเราเองก็อยากจะให้ทันเที่ยงเหมือนกัน แต่ก็ไม่มั่นใจตัวเองเท่าไหร่ พอเหลืออีกประมาณ 2 km เพื่อร่วมทีมทั้ง 2 คนรอรับ รอมาวิ่งด้วย ช่วยกระตุ้น ให้กำลังใจ วิ่งด้วยกันจนเข้าเส้นชัย ก่อนเที่ยงไป 2 นาที ดีใจสุดๆเลย ... นาทีที่เข้าเส้นชัยนี่มันเหนื่อยมาก หาน้ำและเก้าอี้พักร่างกายอย่างด่วน 555 พอได้น้ำได้นั่งเลยพอจะมีแรงลุกไปถ่ายรูปกะเค้าบ้าง ได้ไปถ่ายรูปกะพี่ตูน ซึ่งปัจจุบันแกเหมือนเป็น icon ของงานวิ่ง งานไตรฯ ไปซะแล้ว ส่วนรูปที่ถ่ายกะน้องๆพริตตี้นั้น ขออนุญาติภรรยาแล้ว และภรรยาเป็นคนถ่ายให้เองแหละ 555
การได้มางานกีฬาแบบนี้ก็ดีไปอย่าง เราได้เห็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง มันทำให้เราได้แรงบันดาลใจอยากจะมีสุขภาพแข็งแรงแบบเค้าเหล่านั้นบ้าง หรือ บางคนก็ทำให้เรารู้ว่าหัวใจแม่งแกร่งโคตร บางคนอ้วนตุบเลย แต่แม่งลงไตรประเภทเดี่ยวนะครัส โห หัวใจพี่มันสุดๆไปเบย พี่เค้าทำได้ยังไง ทำในสิ่งที่เรายังไม่กล้าทำ
การที่ได้ผ่าน exp แบบนี้มันก็ช่วยขยาย comfort zone ของเราเหมือนกันนะ จากนี้ไปเราก็คงไม่คิดว่า 11 km มันยากเย็น เพราะเราผ่านมันมาแล้ว เราแค่ไปซ้อมให้มันวิ่งได้ฉิวๆชิลๆก็น่าจะดี แล้วไปแตะเขตนอก comfort zone ใหม่ ที่ 21 km กัน
เนื่องด้วยวิ่งเหนื่อยและฉุกละหุกเลยไม่ได้ถ่ายรูปกับภรรยาเลย เลยต้องมาถ่ายกันที่ห้องพัก ฮ่าๆ ขอบคุณผู้สนับสนุน ที่ตามมาให้กำลังใจ คอยห่วงใยผ่าน app find my friend 555
เรารู้สึกว่าแรงบันดาลใจต่างๆมันก็ส่งไปถึงภรรยาของเราด้วยนะ ดีจังๆ
No comments:
Post a Comment