Pages

Sunday, October 9, 2011

0025 : Value Visions 26-09-2011

วันนี้เป็นวันที่ตลาดแดงเดือนติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว
หุ้นหลายตัวเริ่มราคาลดลงจนอัตราเงินปันผลแตะ 10% บ้างแล้ว
แต่ตลาดในสภาพนี้เรายังไม่ควรเข้าไปยุ่ง
แม้ตลาดจะเด้งจาก -80จุด ขึ้นมาเหลือ -50จุด และ
ยอดฝรั่งจากตอนกลางวันที่ขายสุทธิ สี่พันกว่าล้าน
แต่ตอนปิดตลาดช่วงเย็นเหลือยอดแค่ขายสุทธิ สามพันกว่าล้าน
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเค้าจะกลับมาซื้อหนิ

ตอนนี้พอร์ตผมก็ยังโล่งอยู่ ไม่ได้รีบร้อนเข้าเก็บหุ้นแต่อย่างใด
เพราะผมตั้งใจว่า หากหุ้นยังไม่ถึงจุดกลับตัวผมจะเป็นแค่ผู้ชม
เมื่อไหร่ที่หุ้นถึงจุดกลับตัว แล้วเปลี่ยนเทรนด์เป็นขาขึ้น
ผมจะเริ่มเก็บหุ้น แม้จะไม่ได้หุ้นในราคาถูกสุด
แต่ถ้าเป็นราคาที่มี MOS 30 - 50% ก็ยังถือว่าเราได้เก็บของถูกอยู่ดี

บางทีเราอาจจะใช้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล
ในการดูความถูกแพงของหุ้นก็ได้นะครับ
อย่างเมื่อตอนปี 2008 หุ้นใหญ่ หรือ หุ้นดีๆหลายตัว
ให้ผลตอบแทน 10-15% up เสียส่วนใหญ่
ส่วนหุ้นระดับพระรอง ก็มักให้ผลตอบแทนราวๆ 20% up

ในตอนนี้หุ้นตัวใหญ่หลายตัวแม้ราคาจะปรับตัวลงมา
แต่ก็ยังถือว่าให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลน้อยอยู่ดี
ส่วนหุ้นตัวเล็กก็ยังไม่ได้ให้ Div. Yield สะใจเท่าไหร่นัก
อย่าง CSL Div. Yield ตอนนี้คิดเป็น % ตกราวๆ 10% เท่านั้นเอง

หากเราเอาไปเทียบกับ Subprime จะเห็นได้ว่า
โอกาสที่หุ้นจะถูกลงก็ยังมีอยู่อีกมาก (ในสภาวะที่ฝรั่งยังไม่หยุดขาย)

ภาวะตลาดที่ผันผวนแบบนี้
หลายคนสติแตกไป เที่ยววิ่งไล่ตามหาผู้ที่จะพยากรณ์ตลาด
ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ
และควรเอาเวลาไปทำอย่างอื่นจะเป็นประโยชน์กว่า

มีคำที่นักลงทุนระดับเซียนกล่าวไว้ว่า
" การคาดเดาตลาดเป็นเรื่องไร้สาระ "
เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่าพรุ่งนี้ตลาดมันจะเป็นยังไง
จะขึ้น จะลง จะขึ้นแล้วโดนตบลง จะเปิดลบปิดบวก
ไม่มีใครเดาได้หรอกครับ ถึงคุณจะเดาถูกวันนี้ พรุ่งนี้ก็เดาผิดได้

สิ่งที่ควรทำก็คือ การเร่งศึกษาหาข้อมูลบริษัทที่จะลงทุนให้มากที่สุด
วัดมูลค่า , วางแผนการลงทุน เพื่อคว้าโอกาสในวิกฤติ
ในช่วงที่ตลาดมันลงไปสุดๆแล้ว
คุณต้องใช้จังหวะที่ของถูกเต็มตลาดเลือกหุ้นเข้าพอร์ต
เพื่อเตรียมเกาะไปกับ Cycle ขาขึ้นอีกครั้ง...

ในภาวะตลาดที่ผันผวน เราต้องเป็นผู้เลือก ว่า Mr. Market เป็นอะไรกับเรา
เป็นผู้รับใช้เรา หรือเราตกเป็นเหยื่อของ Mr. Market
อยู่ที่ตัวเรานั่นแหละครับ ว่าเราจะเลือกเป็นอะไร...

No comments:

Post a Comment