Pages

Friday, October 2, 2015

0405 : Review หนังสือ Decide สิ่งไม่สำคัญ 'ควรทำ' กว่า!


ตอนแรกที่เห็นหนังสือเล่มนี้ในร้าน ก็หยิบขึ้นมาดูเพราะสงสัยในชื่อของมัน ทำไมสิ่งไม่สำคัญ ถึงควรทำกว่าวะ ? พอมาเปิดอ่านๆดูก็เลยได้รู้ว่า อ๋อ มันเป็นแบบนี้นี่เอง
  
คือคนเขียน คุณ Steve McClatchy เนี่ยเค้าแบ่งสิ่งที่เราทำในชีวิตจากแรงจูงใจ
  
1. แรงจูงใจที่ก้าวไปหาผลประโยชน์
2. แรงจูงใจเพื่อป้องกันความทุกข์
  
อันแรก แรงจูงใจเพื่อก้าวไปหาผลประโยชน์ก็เช่น การออกกำลังกายให้รูปร่างดูดี ฝึกวิ่งมาราธอน ทำธุรกิจ เรียนภาษา หรือฝนฝน skill ต่างๆ หรือสิ่งที่เป็นเป้าหมายในชีวิตของเรา
  
อันที่สอง ก็พวกกิจวัตรประจำวันของเรา รวมถึงงานประจำวัน เช่น ซักรีดเสื้อผ้า เอาขยะไปทิ้ง ตัดหญ้าในสวน ล้างรถ จ่ายบิลต่างๆ เป็นต้น
  
เค้าบอกว่า งานแบบแรกที่เป็นงานที่ได้ประโยชน์ นั้นเป็นตัวที่ทำให้ชีวิตเราก้าวหน้า ส่วนงานแบบหลัง หรือ งานป้องกันความทุกข์ นั้นทำเพื่อรักษาสภาพเอาไว้
  
แต่งานทั้ง 2 แบบล้วนสำคัญ ซึ่งทำให้ชีวิตเราดำเนินต่อไปได้ ทีนี้หากเราทำงาน 2 ตลอด ไม่มีงานแบบที่ได้ประโยชน์ให้ชีวิตเลย ก็จะทำให้ชีวิตเรานิ่ง ไม่ก้าวหน้า หรือ ทำแต่งานแบบแรก ไม่ทำงานป้องกันความทุกข์เลย ความทุกข์ก็จะไล่ล่าเราอยู่ดี สิ่งที่ต้องมีก็คือ balance
  
งานแบบที่ 2 หรือ งานป้องกันความทุกนั้น เราสามารถกระจาย หรือ จ้างคนอื่นทำแทนได้ เช่นจ้างแม่บ้านมาช่วยทำงานบ้าน หรือ ให้คนเอารถไปล้างแทนเรา ต่างจากงานที่ได้ประโยชน์เชิงบวกซึ่งเราไม่สามารถให้คนอื่นทำแทนเราได้ ตัวอย่างก็คือ เราคงให้คนอื่นไปเรียนภาษาแทนเราไม่ได้ หรือจ้างคนมาศึกษาพฤติกรรมตลาดหุ้นแทนเรา ก็ไม่ได้อีกนั่นแหละ มันเป็นงานที่เราต้องลงมือทำด้วยตนเอง
  
ทางแก้ก็คือจ้างคนมาทำงานป้องกันความทุกข์แทนเรา แล้วเราเอาเวลาที่ได้กลับมาไปทำงานที่ได้ประโยชน์ เพื่อให้ชีวิตเราก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป
  
ทีนี้เค้าก็บอกต่อว่า งานที่ได้ประโยชน์ ไม่เคยเร่งด่วน เราถึงผลัดวันประกันพรุ่งความฝันของเราออกไปเรื่อยๆๆๆ แต่ไอ่งานป้องกันความทุกข์น่ะ deadline มันก็เข้ามาเรื่อยๆ เช่น ไม่ได้เอาขยะไปทิ้ง 3 วันขยะก็จะเน่าส่งกลิ่น แล้วไงต่อ เมียด่า ก็ต้องเอาไปทิ้งอยู่ดี แต่ความฝันอยากทำธุรกิจ อยากเรียนภาษา ฯลฯ นั้นไม่เคยมีใครมาว่าหรอกว่ามันถึงเวลาแล้ว เพราะงั้นมันจึงมักจะถูกผลัดออกไปเรื่อยๆ
  
ทางแก้ก็คือ จับมันมาใส่ใน ปฏิทิน หรือ ตารางเวลาาของเราแม่งเลย จงนัดหมายงานที่ได้ประโยชน์กับตัวเอง ใส่มันลงไปในตารางนัดของตัวเองซะ เช่น 20.00 น. วันพรุ่งนี้ เราจะอ่านหนังสือเกี่ยวกับการทำธุรกิจ , 10.00 น. วันถัดไปเราจะหาข้อมูลใน internet
  
ถ้าเราทำแบบนี้งานที่ได้ประโยชน์ของเราจะก้าวหน้าไปวันละนิดๆ
  
ซึ่งขั้นตอนแรกสุดแล้ว เค้าจะให้เรานัดหมายกับตัวเอง ใช้เวลานั้นเขียนเป้าหมายออกมา จากนั้นคิดหาส่วนประกอบว่า ทำอย่างไรเราจึงจะทำมันได้สำเร็จ แล้วก็กระจายงานออกมาเป็นส่วนๆ นั่นก็คืองานที่ได้ประโยชน์สำหรับเรา แล้วก็นัดหมายตัวเองซะ ลงในตารางเวลาว่าจะทำขั้นตอนไหน วันไหน กี่โมง ... ขั้นต่อไปก็ลงมือทำตามขั้นตอน ซึ่งมันจะพบปัญหา หรือไอเดียใหม่ๆเพิ่มเติมมาเรื่อย นั่นจะแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเรา ... เราไม่ได้อยู่ที่เดิมแล้ว
  
หนังสือเล่มนี้ผมชอบนะ อาจะเป็นเพราะช่วงนี้รู้สึกยุ่งๆ แต่เหมือนชีวิตนิ่งๆอยู่พอดีเลย พอได้อ่านก็ทำให้ตระหนักถึงปัญหาที่สะกิดใจขึ้นมา ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น รายละเอียดในหนังสือจะเยอะกว่าที่เขียนในนี้มาก มันมีไปถึงการทำงานของสมองโน่น ยังไงก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ
  

No comments:

Post a Comment