Pages

Tuesday, October 6, 2015

0408 : Diary 7 ต.ค. 2558


วันนี้ตื่นตี 4:50 ไปวิ่ง วิ่งได้ 1 ชั่วโมงเต็ม พักจิบน้ำทุก 800 เมตร วิ่งประมาณ Pace 10 นิดๆ ซึ่งก็เป็นการฝึกที่พี่สหายแนะนำ โดยให้วิ่งช้าๆให้ Heart Rate อยู่แถวๆ Zone 2-3 เพื่อสร้างความอึดก่อน โดยให้วิ่งแบบนี้ไปเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยให้สลับระยะเวลาการวิ่งระหว่าง 1 ชั่วโมง วันถัดไป 1 ชั่วโมงครึ่ง สลับกันไป

เราเองก็จะตื่นให้เช้าขึ้นอีกนิดในวันพรุ่งนี้ ปกติถ้าวันไหนวิ่งก็จะตื่นตี 5 แต่หากฝึกแบบนี้ก็ต้องสลับวัน อีกวันต้องตื่นให้ไวขึ้นครึ่งชั่วโมงเป็นตี 4 ครึ่ง เพื่อที่จะกลับมาให้ทันขับรถไปทำงานพร้อมภรรยาตอน 7 โมง เราเองไม่ได้คิดว่าเหนื่อยอะไร คิดว่าเป็นสิ่งที่เราอยากทำ เป็นเป้าหมายของเรามากกว่า เราอยากมีสุขภาพแข็งแรง อยากออกนอก comfort zone อยากวิ่งมาราธอน อยากลงไตรกีฬา

ที่ต้องออกวิ่งตอนตี 5 ก็เพราะมันเป็นเวลาที่อิสระดี ตอนเช้าไม่ค่อยมีอะไรมารบกวน ถ้าเราวิ่งช่วงเย็น มันควบคุมไม่ค่อยได้เท่าไหร่ บางวันอยากออกกำลังกาย แต่ดันงานเข้าช่วง 4 โมงเย็น ต้องทำงานต่อเนื่องถึง 6 โมง ถึงทุ่ม พอเลิกงานค่ำ บวกกะภาระต่างๆ ก็เหนื่อยไม่อยากวิ่งแล้ว ก็เลยคิดว่าวิ่งตอนเช้าเป็นหลัก แต่หากวันไหนได้วิ่งช่วงเย็นก็ถือเป็นโบนัสแบบนี้ดีกว่า จะได้วิ่งอยากมีความสุขและไม่เครียด

ส่วนตอนช่วงดึกก่อนนอนก็จะเล่นโยคะเพื่อยืดกล้ามเนื้อ เพราะเรามีปัญหาเรื่องออฟฟิศซินโดรมอยู่ ก็อาการปวดคอ ปวดบ่า ไหล่ สะบัก นั่นแหละ ก็ต้องยืดมันทุกวัน มันก็ช่วยได้ดีเลยแหละ ส่วนใหญ่ก็เปิดใน youtube ของโยคะครูเจี๊ยบ แล้วก็ฝึกทำตาม พอโยคะเสร็จก็จะเปิดพวกคลิป core exercise แล้วก็ทำไปพร้อมๆกับคลิปเลย ไอ่พวก no rest นั่นแหละ ส่วนใหญ่คลิปนึงก็ 5-10 นาที แรกๆเราก็ทำตามได้แค่ 2 นาที เมื่อคืนก็ตามได้เป็น 5 นาทีครึ่งแระ ฮ่าๆ เห็นความพัฒนานิดนึง

นี่ก็คือการเดินทางด้าน Physical Health ของเราแหละ ซึ่งเราก็ยังมีสิ่งที่ควรปรับปรุงอีกหลายเรื่องเลย เช่นพวกการอาหารการกิน รวมถึงการนอนด้วย ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป


วันนี้เขียนแต่เรื่องสุขภาพเลย จริงๆว่าทำ spin off blog ออกไปเขียนเรื่องการเดินทางด้าน Physical Health ของเราโดยเฉพาะเหมือนกัน แต่กำลังคิดชื่ออยู่ ฮ่าๆ กะจะเขียนเกี่ยวกับการฝึกฝนออกกำลังกายประจำวัน การเดินทางจนถึงไตรกีฬาหรือฟูลมาราธอนอ่ะนะ จะได้เป็นการ focus กะเป้าหมายด้วย

No comments:

Post a Comment