Pages

Sunday, November 27, 2011

0033 : Value Visions 27-11-2011

เมื่อครู่เพิ่งผ่านเหตุการระทึกขวัญมาครับ
เหตุการณ์ที่ว่าก็คือ " ผมติดอยู่ในห้องนอน! " เพราะลูกบิดประตูเสียครับ
คือบ้านพักของผมเนี่ยหลังข้างเคียง เย็นวันอาทิตย์อย่างนี้
ยังไม่มีใครกลับมากันหรอก ผมจึงเหมือนอยู่คนเดียว
ยามที่มีอยู่คนนึงก็มักจะไปหลับไปก็ดูทีวีอยู่แถบๆหน้าออฟฟิศโน่น
หากตะโกนเรียกคาดว่าไม่มีใครได้ยิน
ตอนแรกกะจะไปอาบน้ำ เอาไปเอามานั่งงัดห้องตัวเอง เหงื่อออกชุ่มเลย
รู้สึกว่าตัวเองเป็นไมเคิล สกอฟิลด์เลยครับ
ถ้าติดอยู่จนถึงพรุ่งนี้เช้าผมก็ไม่เดือดร้อนเท่าไหร่นัก
อย่างมากก็มีปัญหาเรื่องเข้าห้องน้ำเท่านั้นเอง
ช่วงเวลาเลวร้ายมันมักจะมาตอนที่เราไม่ทันได้ตั้งรับเสมอ

อย่างผมตอนที่พยายามจะออกจากห้องในห้องแทบไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย
ค้นไปในที่ใส่ปากกาเจอไขควง ไม้บรรทัดเหล็ก แล้วก็เหลือไปเห็นแม่กุญแจ
อันที่ผมใช้ล็อคห้องเวลาออกไปข้างนอก ลองจับดูน้ำหนักพอใช้ได้
ก็เลยเอามาเป็นตัวตอกต่างค้อนครับ
ก็เลยจัดการเคาะ เจาะ ทุบ ลูกบิดเจ้าปัญหา ใช้เวลาไปชั่วโมงครึ่ง!
เหนื่อยโคตรๆเลยครับ แต่ก็โชคดีที่ยังเปิดห้องออกมาได้
ไม่งั้นคงลำบากน่าดูตอนพรุ่งนี้เช้า

" บางทีชีวิตเราไม่ได้มีพร้อมทุกช่วงเวลาหรอกครับ
แต่อยู่ที่ว่าเราจะใช้สิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์กับเราอย่างไรต่างหาก "


ช่วงสุดสัปดาห์นี้หอบหนังสือ Technical Analysis กลับบ้านมาอ่าน
แต่ก็อ่านไม่ถึงไหนเลยครับ วันเสาร์ดันป่วยเป็นเยื่อตาอักเสบ
ไปหาหมอกินยาเสร็จก็นอนพักทั้งวัน ส่วนวันอาทิตย์ก็ได้อ่านนิดนึง
ก็ต้องเตรียมตัวเดินทางกลับมาที่บ้านพักที่ทำงาน
จนมาเจอไอ้ลูกบิดบ้านี่ขังผมอยู่ในห้องนั่นล่ะครับ
ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาของการพักผ่อนก็แล้วกัน
ผมสังเกตุว่าสัปดาห์ไหนที่ผมต้องทำงาน 7 วัน
เสาร์ - อาทิตย์ ไม่ได้หยุดพักผ่อน , วันจันทร์ถัดมาอารมณ์ผมจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
การทำงานหามรุ่งหามค่ำ โดยไม่หยุดพัก ตามความคิดผม มันไม่ใช่เรื่องดีหรอกครับ
หากเราไม่ Relax เสียบ้าง ร่างกายก็จะเหนื่อยล้า สุขภาพจิตก็ไม่แจ่มใส
การทำงานของเราก็จะด้อยประสิทธิภาพลง
สู้ทำงานเต็มที่แต่พอดี เวลาพักก็พักจริงๆ
แบบนั้นจะดีกว่าครับ ดังที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ว่าให้เดิน "ทางสายกลาง" ไงล่ะครับ

สำหรับการลงทุนในวันพรุ่งนี้
ผมก็คงยึดแผนเดิมต่อไป
คือ หาก SET ร่วง พร้อมกับราคาหุ้นในพอร์ตผมลงมาถึง
Trailing Stop ใน Volume หนาๆ ก็เผ่นให้ไว
พร้อมกับไปสอย Put DW ของหุ้นนำตลาดไว้

บางคนอาจจะค่อนขอดผมว่า ไหนบอกว่าเป็นวีไอ
ทำไมหุ้นลงหน่อยเดียวเผ่นซะป่าราบเลย แล้วก็ยังมาเล่น DW อีก
แหม ผมก็อยากจะบอกว่า ที่เจอมาน่ะผมเข็ดแล้วค๊าบ!
นั่งดูเงินหาย กำไรหด จากกำไร +60% เหลือ +10%
แม้จะยังกำไรอยู่ แต่ผมก็ช้ำใจเป็นนะ
ถ้ากำไรหายก็เท่ากับว่าปีนี้ผมเล่นหุ้นฟรีเลยงั้นเหรอ ?
แหม เล่นหุ้นเอากำไรนะ ไม่ใช่เพื่อการกุศล
ถ้าจะเป็นวีไอ ผมก็ขอเป็นวีไอตอนเลือกหุ้น หาหุ้นก็แล้วกัน
แต่การบริหารพอร์ตผมขอบริหารแบบ Trader ดีกว่า
ส่วน DW ก็มีไว้ใช้ Hedge พอร์ต หรือไม่ก็ Leverage เพิ่มผลตอบแทนในอัตราเร่ง
ถ้าเราเข้าใจมันก็ไม่เสี่ยงหรอกครับ
มีเครื่องมือหลายหลากที่ถ้าเราใช้เป็น มันจะมีประโยชน์มาก
อย่าให้คำนิยามมาจำกัดขอบข่าย ขอบเขตของเราดีกว่าครับ
เราไม่ได้ลงทุนเอาโล่ห์สักหน่อย แต่เราลงทุนเพื่อเอากำไรกันไม่ใช่หรือ ?

ณ วันนี้ SET ให้ผลตอบแทน -6.35%
พอร์ตผม +อยู่ราวๆ 32%
เป้าหมายปีนี้ สำหรับกำไรเท่านี้ผมก็โอเคแล้ว
ที่เหลือถ้ามันจะได้มา ก็ถือเป็นโบนัสให้กับตัวเองแล้วก็หุ้นส่วนก็แล้วกันครับ

แต่ถ้าจะให้ทนดูเงินหาย หรือนั่งดูกำไรหายไปเป็นขาดทุน
แบบนั้นผมถือว่าผมทำผิดเรื่องเดิมซ้ำสอง
ซึ่งผมคงรับไม่ได้แน่ๆ...

No comments:

Post a Comment