Pages

Monday, February 4, 2013

0118 : Basic KZM ตอน Cash Flow VS Capital Gain





สวัสดีครับ
วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องของผลตอบแทน
ที่เรารู้ๆกันอยู่ก็คือ ผลตอบแทนจากการเล่นหุ้นมี 2 แบบ คือ
ผลตอบแทนจากเงินปันผล และ ผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคา
นี่คือความรู้ที่เราได้จากตำราเรียนเกี่ยวกับการลงทุนทั่วไปครับ
ที่สำหรับเหล่า Hedge Fund นั่นจะมีผลตอบแทนอีกอย่าง
ตามมุมมองของพวกเค้าครับ ซึ่งพี่เด่นศรีและพี่ MudleyGroup
ได้นำสิ่งนี้มาเปิดเผยให้แก่คนไทยครับ

นั่นก็คือผลตอบแทนที่เรียกว่า กระแสเงินสด ( Cash Flow )
หรือบางทีชอบเรียกกันว่า กระแสเงินสดแฝง ในโมเดล DSM
ซึ่งเป็นผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคาที่เป็นตัวเงินจริงๆ
ไม่ใช่เป็นเพียงกำไรที่ยังไม่รับรู้ หรือตัวเลขเขียวๆที่กระพริบเปลี่ยนแปลงไปๆมาๆ

Cash Flow นั้นอาจจะเป็นตัวเงินจริงๆ
หรือจะจากเหตุการณ์ที่ทำให้เงินของเรามีค่ามากขึ้นก็ได้

เช่น ในโมเดล DSM เวลาเล่นในขาลง เราจะทำการ Short Against Port
เพื่อรักษาและเพิ่มมูลค่าของเงินสดในมือ และสร้าง Cash Flow
จากการด้อยค่าลงของหุ้น ( เล่นขาลง หุ้นตก เงินสดในมือเราจะเหมือนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
เงินเท่าเดิม ซื้อหุ้นได้มากขึ้นนั่นเอง ) โดยจะสร้าง Cash Flow แบบนี้ครับ

หุ้นตัวหนึ่ง ราคา 10 บาท เรามีอยู่ 10,000 หุ้น
พอหุ้นลง เราขายหุ้นออกที่ 9 บาท จำนวน 1,000 หุ้น ได้เงินมา 9,000 บาท
แล้วพอหุ้นลงไปเหลือ 7 บาท เราก็กลับไปรับคืนมา 1,000 หุ้น
แต่เราใช้เงินไปเพียงแค่ 7,000 บาท เหลือเงินสดในมือ 2,000 บาท
2,000 บาท นี่คือ กระแสเงินสดแฝง หรือ Cash Flow ครับ

หรืออย่างในโมเดล KZM จะสร้าง Cash Flow จากหุ้นหลายๆกองทัพที่เราแบ่งไว้
แต่เป็นการซื้อถูก ขายแพง ตามกลยุทธ์ที่เราได้วางไว้ครับ
โดย จะมีกอง A เป็นทัพหลัก อีก 3 กอง คือ B C D เป็นหน่วยรบพิเศษ
มีหน้าที่ ดึง Cash Flow จากตลาดหุ้นมาเสริมกำลังให้แก่ทัพหลักคือกอง A
พอทัพหลักเรามีกำลังทัพมากขึ้นๆ ก็จะสร้างสร้าง Cash Flow ให้แก่เราได้เรื่อยๆ
ตราบเท่าที่ตลาดหุ้นยังคงอยู่ครับ

จะเห็นได้ว่า Cash Flow นั้นเป็นกำไรที่เป็นตัวเงิน หรือมูลค่าของเงินที่มากขึ้น
เหมือนเราดึงกำไรจริงๆออกจากระบบ ซึ่งต่างจาก Capital Gain ที่จะเพิ่มลด
ไปตามภาวะตลาด และทำให้พอร์ตเรามีโอกาสเกิด Drawdown ได้สูง
แต่ Cash Flow นั้น คือเงินในมือเรา
หากเจอตลาดขาลง Cash Flow ยิ่งจะมีค่าเพิ่มขึ้น
เพราะสินทรัพย์ ซึ่งในที่นี้ก็คือ หุ้น ด้อยค่าลง

เพราะงั้น Cash Flow จึงมีความสำคัญครับ

บางทีหากเราไม่ยึดติดกับคำว่ากำไร หรือ ยึดติดในตัวเลขเขียวๆของ Capital Gain
แต่หันมามองในแง่ของการ Generate Cash Flow ในพอร์ต
ในระยะยาว เราจะเจอกับความเสี่ยงที่น้อยกว่า
คนที่ยึดติดใน Capital Gain แล้วอัดหุ้นเต็มพอร์ตตลอดเวลาครับ
ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่กลยุทธ์ของแต่ละคนครับ

บางคนอาจจะรู้ในธุรกิจนั้นๆดีมาก จนแทบทุกซอกทุกมุม
แบบนั้นการ Bet หนักๆ ก็ไม่ใช่ความเสี่ยงอะไร
เพราะเค้าลดความเสี่ยงด้วยความรู้ไปแล้ว
ซึ่งหากเราไม่ถนัดแบบเค้า ก็คงต้องหาวิธีอื่นในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงครับ

อีกอย่างนึงที่เป็นข้อแตกต่างระหว่าง Cash Flow กับ Capital Gain ก็คือ
หากพอร์ตของเราสามารถ Generate Cash Flow ได้เรื่อยๆเนี่ย
เหมือนเราเล่นเกมต่อสู้แล้วไม่มีพลังหมดครับ
Cash Flow จะ Flow มาเติมให้เราเรื่อยจากระบบที่เราวางไว้
เหมือนเล่น Line Pop แบบหัวใจไม่มีหมดนั่นเองครับ
มีเพื่อนส่งมาให้เรื่อยๆ ตลอดๆ

แต่กับพอร์ตที่มีแต่ Capital Gain กับ เงินปันผล
หากเราเล่นพลาด หรือ อยากลงทุนเพิ่ม ถ้าไม่เพิ่มทุน ก็ต้อง Switch หุ้น
หากพลาดหน้าตักก็แหว่งอีก เจอ Drawdown ก็ต้องทนเงินหายอีก
แบบนี้อาจจะเกิดภาระกับจิตใจของเราในช่วงที่หุ้นตกแรงๆได้ครับ


นี่ก็เป็นมุมมองที่ผมคิดขึ้นมาเล่นๆช่วงออกกำลังกายหลังเลิกงานวันนี้ครับ
ก็ลองพูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดียกันได้นะครับ

No comments:

Post a Comment