Pages

Tuesday, January 15, 2013

0107 : ตอบคำถาม KZM 2



น้อง Pop Suntiskultam ถามเรื่อง KZM ผมมาใน e-mail อีกหลายคำถาม


ผมขอตอบไว้ใน Blog เลยแล้วกัน เผื่อคนที่สงสัยผ่านมาอ่านจะได้ Get Idea ออกไปด้วย



1. ไฟล์โซนและระบบบัญชี KZM ที่แจกกันใน pantip นั้น

สามารถใช้ได้กับหุ้นด้วยครับ เพียงแต่เราต้องปรับราคาตาม spread ของหุ้น

เพราะ ETF มัน Spread 0.01 ทุกช่อง ทุกช่วงราคาครับ



2. การเทรดแบบ KZM นั้นควรจะเทรดในบัญชีที่ไม่มีค่าคอมฯขั้นต่ำครับ

ผมใช้ของ Asia Plus อยู่ (ถ้าเราแสดงความประสงค์รับเอกสารทาง e-mail เค้าไม่คิดขั้นต่ำ)

ส่วนโบรกฯอื่นผมไม่ทราบครับ ถ้าอยากเปิดพอร์ต ASP ติดต่อเพจ มาร์มึนๆ หรือ

Blog panwasit stock comment ไม่ก็ มาร์เทพ เมพนะจ๊ะ ได้นะครับ

(โฆษณาให้เพื่อนฝูง ฮ่าๆ)



3. การเทรด Offline มันก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่เราจะมาดูกราฟตอนสิ้นวัน

หรือตอนเราว่างๆ ช่วงดึกๆ เท่านั้นเองครับ ถ้าเห็นกราฟมันตัดขึ้น หรือ

เจอ Buy Signal เราก็ส่งคำสั่งในวันรุ่งขึ้น เพียงแต่เราอาจจะใช้ Indicators

หลายๆตัวในการตัดสินใจในแต่ละ Lot ครับ แต่ต้องจดไว้ทุกครั้งว่า Lot ไหน

เราเข้าด้วย Indicators อะไร และ เวลาจะขายเราก็ทำเหมือนกันคือ สิ้นวัน

เราก็มาเช็คกราฟดูว่า หุ้นตัวไหน หรือ Indicators ไหน มี Sell Signal ออกมาครับ

วันรุ่งขึ้นก็สั่งขาย แค่นั้นเองครับ



4. การเทรดแบบ KZM เป้าหมายก็คือ อยู่รอดในทุกสภาวะของตลาด

และสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ และเอากำไรจากกระแสเงินสดมาลงทุนต่อ



สิ่งที่เราให้ความสำคัญผมว่ามี 2 อย่าง นั่นก็คือ

“Cash Flow และ จำนวนหุ้นครับ”



เราจะ Generate Cash Flow จากเงินทุน

แล้วก็เอา Cash Flow มาขยายโซน ให้มีหุ้นครบทุกช่องราคา

แล้วก็เพิ่มจำนวนหุ้นในแต่ละช่อง จากช่องละ 100 เป็น 200 เป็น 300 …

แล้วพอสร้าง Cash Flow ได้มากๆ ก็นำไปต่อยอดอย่างอื่นต่อไปครับ



5. ผลตอนแทน ที่พี่ต้านว่าไว้ Level 1 ประมาณ 10% , Level 2 ประมาณ 20-30%

แต่ที่ผมเทรดมา ผมนับเป็นเดือนก็แล้วกันนะครับ

TDEX ได้ประมาณ 0.5 – 1% ต่อเดือน คุมโซนแบบห่างๆ

CHINA ได้ประมาณ 1 – 3% ต่อเดือน คุมโซนห่างๆแต่เริ่มเพิ่มโซนแล้ว

ส่วนพวก Virus Trade นี่ตกราวๆเดือนละ 1 – 3% ครับ แบบคุมโซนห่างๆนะ



TDEX มันไม่ค่อยแกว่งแรงเท่าไหร่ กว่าจะแกว่งมาโดนก็นาน

มันอยู่ที่ Product ที่เราเลือกด้วยครับ



แต่ถ้าเราเทรดไปเรื่อยๆ สะสมหุ้นเพิ่มโซนมากขึ้นๆ

กำไรมันจะมาของมันเองครับ เพราะราคาแกว่งไปทางไหนก็โดนเรากินเสมอ



6. เวลาแต่ละวันที่ผมใช้ดูพอร์ตนี่ ไม่อยากบอกเลยว่า ไม่ได้ดูเลย

แอบไปดูตอนถึงที่ทำงานด้วยซ้ำครับ เราจะดูแค่ว่าวันนี้จะขาย Lot ไหนบ้าง

จะรับ Lot ไหนกลับเข้ามาในโซนบ้าง และ จะเทรดกอง C , D Indicator ไหน

แค่นี้น่าจะไม่เกิน 15 นาทีครับ แหะๆ



แต่ช่วงแรกที่เรานั่งวางโซนก็ใช้เวลานิดนึงครับ

คำนวณหน้าตัก คำนวณ Lot คำนวณความห่างของแต่ละโซน

พอเราคำนวณลงตัวเริ่ม Run Model มันก็ไปของมันเองตามตาราง excel เลยครับ







แลกเปลี่ยน Idea กันได้นะครับ บางทีผมอาจจะเข้าใจอะไรผิดไป

เพราะนั่งศึกษาคนเดียวมาตลอด อาศัยอ่าน pantip อ่าน Blog พี่ต้านเอาน่ะครับ

ขอให้ลงทุนอย่างมีความสุขนะครับ : )

7 comments:

  1. ขอบคุณครับบ

    ReplyDelete
  2. ผมลอง backtest ดูแล้วครับ ปรากฏว่าผมลืมรับคืนบ่อยมาก ทำให้เวลาหุ้นไปสูงๆ แล้วเราไม่มีหุ้นติดมือเลยครับ

    อยากทราบว่าวิธีการซื้อแบบรวบโซนเนี่ย พี่มีเทคนิคไงครับ

    เพราะถ้ารวบแล้วมันดันต่ำกว่าเดิมเยอะเนี่ยจะกลายเป็นดอยหลายไม้เลยหนิครับ

    ReplyDelete
  3. การซื้อรวบโซนมันทำให้เรามีต้นทุนที่ราคาถูกครับ
    อย่างสมมุติโซน 10 บาท เป้าขายที่ 11 บาท
    ถ้าเราไม่ซื้อรวบ เราต้องซื้อ 10 บาท กำไร 1 บาท
    แต่ถ้าเราซื้อรวบตอน 5บาท เรากำไร 6 บาทนะครับ
    ซึ่งหน้าที่ของโซน 10 จริงๆแล้วมันคือการสร้าง Cash Flow
    ให้เรา 1 บาท

    พอเราซื้อรวบไว้ก็เหมือนเราได้โบนัสมา 5 บาท ครับ

    แต่ถ้าราคาลงก็ปล่อยมันสิครับ
    เพราะเราแบ่ง Position ที่เล็กมากๆ
    และเราได้คำนวน budget ในกรอบการเล่นไว้อยู่แล้ว

    ลองคิดดีๆว่าแต่ละช่องแต่ละโซนหน้าที่ของมันคืออะไร

    แล้วเราจะไม่สนใจกับมูลค่าพอร์ตเลยครับ

    ยิ่งหุ้นลงหนักเท่าไหร่
    เรายิ่งได้ซื้อหุ้นสะสมถูกเท่านั้น
    พอราคามันกลับมา เราก็จะสามารถสร้าง Cash Flow ได้มากครับ

    ReplyDelete
  4. อยากได้ตาราง Exel อ่ะครับ รบกวนส่งให้ด้วยนะครับ
    kaenclassicjazz@gmail.com ครับ ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  5. อยากได้ตาราง excel ครับ ไม่ทราบหาได้จากไหนครับ

    ReplyDelete
  6. อยากได้ตาราง excel ครับ ไม่ทราบหาได้จากไหนครับ

    ReplyDelete
  7. เจ๋งครับ.... ไม่ทราบว่าจะหาตาราง excel ได้จากไหนได้บ้างครับ
    ขอรบกวนส่งให้หน่อยได้ไหมครับ
    apichart1972@gmail.com

    ReplyDelete