Pages

Wednesday, January 30, 2013

0115 : Value Journal 30-01-2013



สวัสดีครับ




วันนี้ SET50 แตะ 1000 จุดเป็นครั้งแรก

ส่วน TDEX ก็ทะลุ 10 บาทเป็นทีเรียบร้อยครับ

การเทรด KZM คนที่กำลังเริ่มก็อาจจะเหนื่อยหน่อยครับ

เพราะต้องใช้ทุนสูง ถ้า Lot ละ 100 หุ้น ก็พันกว่าบาทแล้ว

ส่วนคนที่คุมโซนซื้อรวบไว้ยาวๆก็ยิ้มครับ


แต่ผมก็ไม่ได้รับคืนเข้าโซนนานแล้วนะ กอง A เนี่ย

เอาจริงๆก็อยากให้ปรับฐานแล้วเหมือนกันครับ

เพราะอยากรับ TDEX กลับเข้าโซน กอง A แล้วเหลือเกิน

จะได้ Generate Cash Flow ได้บ่อยๆ



ส่วนใครที่กำลังจะหลุดกรอบบน

ถ้าหลุดไปพี่ต้านก็เคยแนะนำไว้หลายวิธีครับ

1. ตั้งโซนเล่นใหม่เลย set กรอบเทรดใหม่อีกรอบ แต่อาจจะได้กรอบแคบลงเพราะทุนสูงขึ้น

2. Hold C , D ไว้แน่นๆ

3. Wait & See รอมันกลับลงมาในกรอบ

4. Hedge ด้วยการ Long Call Option เพื่อรักษาผลประโยชน์ของเราไว้

คือ model KZM เนี่ย เราจะได้ประโยชน์จากการที่ราคามันอยู่ในกรอบที่เราวางไว้

ถ้าเกิดมันหลุดกรอบบนไป ถือว่าเราเสียประโยชน์ เราก็เลยต้อง Long Call Option

แก้ไป โดยพี่ต้านแนะนำให้ถือ Call จนหมดอายุ แล้วก็นำกำไรที่ได้มาเฉลี่ยเพื่อลดต้นทุน

แล้วเล่น TDEX ต่อในกรอบใหม่





ก็อยู่ที่เราเลือกนะครับว่าเราจะทำอย่างไร…







KZM ผมนะวันนี้ลองมาดูใช้ทุนไปราวๆ 60% ของทุนทั้งหมดเท่านั้นครับ

โดยที่เดือนนี้นั้นสามารถ Generate Cash Flow ได้ราวๆ 1.7% ไม่รวม XD

ซึ่งที่สามารถ Generate Cash Flow ได้มากก็เพราะได้อานิสงค์ตลาดด้วยครับ

หากเจอตลาดขาลงก็ต้องมาดูกันครับว่า จะสามารถสร้าง Cash Flow ได้

มากน้อยเพียงได้ เพราะตลาดขาลงอาจจะไม่มีจังหวะแกว่งขึ้นให้เก็บ Cash Flow

เลยก็เป็นได้หากเจอสภาพตลาดเลวร้ายสุดๆ ( ซึ่งจะแก้ได้ด้วยพวก Invert ETF ครับ

เพียงแต่ว่าเมืองไทยไม่มี T T ต้องรอเลื่อน Level ไปเทรดคู่กับ Option โน่นถึงจะสบาย)



ผมลองมาคิดเทียบแล้ว Cash Flow ที่ได้มาถ้าเทียบกับการเล่นแบบ Buy & Hold

แล้วแม้ว่าผลตอบแทนอาจจะน้อยกว่า แต่ว่าความเสี่ยงน้อยกว่ามากครับ

การที่ผมใช้เงินทุนไป 60% นั่นหมายความว่าผมเหลือ Cash อีก 40% ในมือ

แต่ถ้า Buy & Hold ส่วนใหญ่จะจัดเต็มและอัด Margin ด้วยซ้ำ



หากตลาดเปลี่ยน Trend เร็ว ผมว่า KZM เจ็บน้อยกว่า

แต่ก็อย่างว่าแหละครับ บางทีเอามาเทียบกันไม่ได้

เพราะจุดประสงค์การเล่นมันคนละอย่างกัน



KZM เน้น Survive First

แต่ Buy & Hold นั้นเน้น Maximize Profit



ก็อยู่ที่เราครับ ว่าเราต้องการอะไรจากการเทรดครับ







ตลาดแบบนี้ต้องคิดให้เยอะหน่อยครับ

ตลาดขึ้นเยอะมันก็ดีครับ

แต่ที่สำคัญกว่าคือเราควรจะคิดเอาไว้ล่วงหน้าว่า

ตลาดขึ้นไปเราจะทำอะไร

หรือ หากตลาดลงแรงๆเราจะทำอะไร





ขอให้ทุกท่านมีความสุขและมีสติในการลงทุนครับ

No comments:

Post a Comment