Pages

Friday, April 27, 2012

0062 : Value Visions 28-04-2012


วันนี้ขออัพ Blog ไวหน่อยครับ
จะออกเดินทางเย็นนี้แล้ว หลังจากนี้คงไม่ได้อัพอีกหลายวัน

เมื่อก่อนเที่ยงก็ตัดสินใจไปหาหมอมาอีกรอบครับ
โดยหมอท่านนี้ก็ตรวจต่อมน้ำเหลืองที่คอผมแล้วก็บอกว่า
ไม่มีอะไร ไม่ต้องกังวล ไม่ใช่มะเร็งหรือเนื้องอกอะไร
เพราะมันไม่ได้แข็งอะไร แล้วยาที่หมอคนเดิมให้มาก็อ่อนไปนะ
ก็ให้ยาใหม่มา ผมก็โล่งไปไปเลย เที่ยวได้อย่างสบายใจแล้ว
แต่ถ้ายังไม่ยุบจริงๆก็อาจจะต้องไปตรวจอีกรอบครับ
แต่นั่นมันก็เรื่องของอนาคตล่ะเนอะ สู้กันต่อไปนะชีวิต!

เดี๋ยวสักพักคงจะต้องไปจัดกระเป๋าแล้วครับ
แต่ขอพูดถึงเรื่องการตัดสินใจหน่อย
เทรดเดอร์กับการตัดสินใจนั้นเป็นของคู่กันเลย
คือเทรดเดอร์นั้นบางทีก็ต้องตัดสินใจไว แล้วก็แม่นยำ
( ถ้าคิดจะหาจังหวะทำกำไรบ่อยๆ
แต่ Jessie Livermoor เองก็ไม่ได้เก็งกำไรบ่อยๆนะ )
ส่วน Investor นั้นตัดสินใจช้าหน่อยก็ได้
(เพราะต้องมีความอดทนในการรอจังหวะสูง)
แต่ความแม่นยำต้องอยู่ในระดับแม่นยำมากๆถึงมากสุดๆ

การเทรด KZM 4 กอง นั้น มันช่วยฝึก 3 skill ให้เรา คือ
money management , สัญชาติญาณ และ เทคนิคเคิล
เมื่อวานช่วงที่ TDEX ลงมา 8.58 ผมก็ตะหงิดๆใจ
จะเอาไปซื้อแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพราะส่วนนึงก็ทำงานไปด้วย
มองจอไปด้วย ทำให้พลาดโอกาสไป ผมว่าการที่เราหัดเทรด
สัญชาติญาณมันก็มาให้เราจับทางเรื่อย ซึ่งคราวต่อไปเราต้อง
จับมันให้ได้ ไม่ใช่ว่าปล่อยให้มันผ่านไป  อันที่จริงถ้าผมเคาะซื้อ
ผมก็เคาะซื้อแค่ Unit เล็กๆ เท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีสาระสำคัญอะไร
กับพอร์ต แต่ผมก็ปล่อยมันไป คราวหน้าไม่พลาดอีกแล้ว ฮึ่มๆ


ก็ขอลาทุกคนที่หลงมาอ่านตรงนี้ก่อนนะครับ ^ ^
ขอให้ทุกท่านโชคดีและ "มีสติ" ในการลงทุนนะครับ

แล้วพบกันใหม่ครับ
ร้อนกายได้แต่อย่าร้อนใจเน้อ  : )

0061 : Value Visions 27-04-2012


วันนี้วันศุกร์...
ผมทำงานวันสุดท้ายก่อนที่จะหยุดยาวหนีไปพักร้อน
( หรือหนีไปเจอร้อนหว่า ) คือผมจะไปเที่ยวทะเลสักหน่อย
กลับมาก็ปลายสัปดาห์โน่นครับ
ช่วงที่อยู่เกาะก็คงเทรดหุ้นผ่านไอโฟนไปพลางๆ
ซึ่งผมไม่ได้ใช้อินดิเคเตอร์อะไรซับซ้อนนักหนา
ผมเทรดตามโมเดล KZM ซึ่งเป็นการเทรดตามโซนเสียส่วนใหญ่

โดยการลงทุนและการเทรดของผมในช่วงนี้
เปลี่ยนไปจากช่วงที่เริ่มต้นลงทุนในปีแรกๆบางส่วน
ปีแรกๆของการลงทุนผมเป็น Long Term Investor เต็มรูปแบบ
ถือหุ้นไว้โดยไม่ขายเลย กินปันผลอย่างเดียว
โชคดีที่ผมเข้ามาลงทุนในช่วงตลาด bottom
พอตลาดเริ่มวิ่งขึ้นทางเดียวผมก็สบายเลย
แต่พอมาเจอกับช่วง sideway ผมกลับทำกำไรหล่นหายไปเยอะ

ผมจึงได้พยายามเสาะหาแนวทางการเทรดที่เหมาะกับจิตใจของผม
ก็เจอแนวเทรดแบบ Trend Follower แบบ A x B = C สูตรของเส้น EMA
และก็ได้มาเจอการเทรดแบบสร้างกระแสเงินสดของพี่ MudleyGroup
ที่เรียกว่า KZM ซึ่งสามารถทำให้พอร์ตเราค่อยๆขยายขึ้นได้
โดยที่เราไม่ต้องนั่งมองกำไรหล่นหายอีกต่อไป
เพราะมันคือการดึงเงินเข้ากระเป๋าเรา แล้วนำมาขยายพอร์ตลงทุนต่อนั่นเอง

ถ้าผมสรุปการเทรดแบบ KZM เสร็จ ผมจะนำมาลง Blog แน่นอนครับ
แต่ช่วงนี้ป่วยๆอยู่ร่างกายยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่
จึงขอผลัดไปก่อน แค่งานประจำก็ดึงพลังไปเยอะแล้ว
ตกกลางคืนอยากอ่านหนังสือหุ้น อยากอ่านงบการเงินยังไม่ค่อยไหวเลย
ส่วนคนที่สงสัยหรืออยากจะศึกษาว่า KZM คือ อะไร เทรดอย่างไร
ก็ลองถามอากู๋ หรือใน pantip ก็ได้ฮะ มีให้อ่านพอสมควร
แต่ต้องอ่านและทำความเข้าใจหลายๆรอบหน่อยเท่านั้นเอง



พูดถึงการทำงานประจำวันนี้
วันนี้ผมขับรถออกไปตรวจที่ดินจำนองครับ
ลูกค้าก็มีน้ำใจให้ปลาช่อนตัวโตๆมา 2 ตัว
ตัวโตมาก โตกว่าแขมผมอีกมั๊งฮะ
ใส่ถุงพลาสติกมา แต่ไม่ได้ใส่น้ำมาให้
คงกะว่าให้เราเอาไปทำอาหารกินเลย
ปกติผมไม่กินปลาสดแบบนี้อยู่แล้วครับ
แม่ผมสอนตลอดว่าให้เอาไปปล่อยลงน้ำไป
แต่ผมเห็นมันยังดิ้นอยู่ก็ เห้ย! ต้องรักษาชีวิตมันไว้ให้ได้
พี่อีกคนที่ไปด้วยกันก็ทำท่าอยากได้ไปทำแกงส้มเต็มที่
ผมก็เลยขอไว้ ผมบอกว่า
" ปลาสองตัวนี้ผมขอนะ เด๋วผมเลี้ยงข้าวล่ะกัน "
พี่เค้าก็ยอมผมอยู่ (อาจเป็นเพราะว่าลูกค้าที่ให้ปลาเป็นลูกค้าผม)

จากนั้นผมก็ขับรถหาแหล่งน้ำที่จะปล่อยปลา
และต้องหาแม่น้ำที่ใหญ่ที่จะให้มันไม่โดนจับซ้ำสองด้วย
ปลาสองตัวนี้ก็นอนพงาบๆอยู่ที่วางเท้า Cap หลัง
ก็ตัดสินใจขับรถเข้าไปที่สระน้ำของอำเภอ
อุ้มไปปล่อยกับมือ มันก็ว่ายหายไป

ผมก็อธิษฐานขอให้ผลบุญกุศลในครั้งนี้
ส่งผลให้ผมหายป่วยมีสุขภาพแข็งแรง
หวังว่าผมจะหายป่วยในเร็ววันนี้นะ สาธุ


Wednesday, April 25, 2012

0060 : Value Visions 25-04-2012


ฝรั่งขายสุทธิ 2 วันแล้ว แต่ตลาดหุ้นไทยก็ยังคงขึ้นไหว
เป็นสิ่งที่ผมแปลกใจ ทั้งๆที่ทางฝั่งยุโรป อมเริกา ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

แต่อันที่จริงแล้วผมไม่ควรพยายามลุ้น เชียร์ หรือ แช่ง ตลาด ด้วยซ้ำ
เพราะนั้นแสดงถึงการพยายามคาดเดาตลาดของตัวเราอยู่นั่นเอง
( แต่อันที่จริง มันก็อดไม่ได้ที่จะเดา เรียกได้ว่าเดาเอามันส์นั่นเอง)
การทำตามแผนที่วางไว้ต่างหากที่เราควรจำไว้ให้แม่น


ตลาดจะขึ้นหรือจะลง อย่าไปใส่ใจให้มาก
แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญก็คือ หากตลาดขึ้นไปจะทำอย่างไร
หรือตลาดปรับฐานจะรับมือด้วยแผนไหนมากกว่า



ชีวิตผมในช่วงนี้โหยหาความยุติธรรมครับ
เพราะรู้สึกว่าไม่ค่อยได้รับความยุติธรรมสักเท่าไหร่
ก็อย่างที่ บิล เกตต์ เคยว่าไว้เดี๊ยะเลยแหละครับ
" โลกนี้ไม่เคยมีความยุติธรรมหรอก จงทำควาคุ้นเคยกับมันไว้ซะ "

Monday, April 23, 2012

0059 : Value Visions 23-04-2012

ตลาดหุ้นมักจะพาคุณเตลิดไปกับความโลภและความกลัวเสมอ
วันนี้ก็เช่นกัน ช่วงเช้าทุกอย่างเหมือนยังคงสดใส
แต่พอช่วงบ่ายกลับไหลลงซะอย่างนั้น

มนุษย์ Trand Follower อย่างผมก็ไม่ได้เดือดร้อนใจอะไรหรอกครับ
เพราะไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือจะลง ผมก็วางแผนเอาไว้แล้ว
( ไม่ได้พูดทำเท่นะ แต่ผมพูดจริงๆ )
ตั้งแต่ผมหัดเทรดแบบ KZM มาเนี่ย
ทุกครั้งที่หุ้นขึ้นแรงๆ ผม Happy กะชาวบ้าน
และทุกครั้งที่หุ้นตกแรงๆ ผมก็ Happy ยิ่งกว่าตอนหุ้นขึ้นเสียอีก
เพราะนั้นหมายถึงผมมีโอกาสกลับมาซื้อหุ้นเข้าโซนเดิมที่ขายไป
( ไว้เรียบเรียงเรื่อง KZM สไตล์ผมเสร็จจะมาเล่าให้ฟังนะครับ )


ส่วนข้อผิดพลาดในการเทรด 2 วันนี้ก็คือ
ผมลืม Key ซื้อ Unit ของกอง C
สัญญาณซื้อของระบบ บอกให้ซื้อตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ผมก็มัวแต่ยุ่ง
ก็เลยลืม Key ซื้อไป เซ็งเป็ดไปนิดหน่อย
 ไม่เป็นไรพรุ่งนี้ว่ากันใหม่



ส่วนเรื่องการทำงานมีเรื่องน่าผิดหวังนิดหน่อยครับ
แต่ก็ช่างแม่งมัน! เพราะยังไง สักวันผมก็จะไล่เจ้านายออกจากชีวิตผมอยู่แล้ว
สู้ต่อไปเพื่อชีวิตที่อิสระของเราดีกว่า!

Sunday, April 22, 2012

0058 : Value Visions 22-04-2012

ผมหายไปจาก Blog แห่งนี้นานมาก
เนื่องด้วยงานประจำอยู่ในช่วงปิดบัญชี
พอปิดบัญชีเสร็จก็ดันมาป่วยอีก
สถานะตอนนี้ผมก็ยังจัดอยู่ในหมวดหมู่ของคนป่วยอยู่ครับ

การป่วยครั้งนี้เหมือนจะน่าตกใจที่สุดในชีวิจของผม
หนักหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ผมไม่เคยเจอมาก่อน
ปกติผมป่วยเป็นแค่ไข้หวัด ตาแดง แมลงกัด ประมาณนั้น
แต่คราวนี้อาการก็คือจู่ๆหน้าก็ชาเริ่มจากซีกซ้ายแล้วก็ซีกขวา
จากนั้นแขนขาหมดแรง รีบไปโรงพยาบาล(โรงบาลรัฐแห่งนึง)
หมอตรวจดีมาก(ประชด) ให้วิตามินบีกลับมา 1 ซอง แล้วไล่ผมกลับไปนอน
วันรุ่งขึ้นผมไปหาหมอคลินิกอีกรอบ หมอบอกผมเป็นต่อมน้ำเหลืออักเสบ
ตกเย็นผมก็เลยกลับบ้านไปหาหมออีกที่นึง
หมอคนนี้เป็นหมอประจำของแม่ผม
แกตรวจแล้วแกบอกขอส่งต่อให้หมอสมอง
ไอ่เราก็ เห้ย! กูจะเป็นอะไรเปล่าวะเนี่ย ?
ก็ไปตรวจกับหมอสมอง เค้าก็วินิจฉัยว่าเป็นปลายเส้นประสาทอักเสบ
และอาการเริ่มต้นของไมเกรน
แล้วก็พ่วงด้วยต่อมน้ำเหลืออักเสบอีก

การป่วยครั้งนี้ทำให้ผมตระหนักถึง " เวลา " ว่า เวลาของเราที่ยังหนุ่มแน่น
บางทีเราอาจจะคิดว่ามันเหลืออีกมาก
แต่จริงๆแล้วใครจะไปรู้ ว่าเรามีเวลาเหลือมากน้อยเพียงใด

ผมคิดย้อนไปแล้วผมรู้สึกแย่มาก
ถ้าผมเป็นอะไรไปในวันนั้น ผมคงตายตาไม่หลับแน่
เพราะยังมีหลายสิ่งที่ผมอยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ
ยังไม่ได้ทดแทนบุญคุณพ่อแม่
ยังไม่ได้ดูแลท่านให้สมกับที่ท่านเลี้ยงดูเรามาอย่างดี
ยังไม่ได้บวชให้พ่อแม่เห็นผ้าเหลืองเลย ฯลฯ

พอชีวิตเคลื่อยที่เข้าใกล้ความตาย
สิ่งที่เราคิดว่าจำเป็น เช่น เงินทอง วัตถุต่างๆ
กลับไม่มีค่า เงินที่ผมเทรดหุ้นมาได้
ผมรู้สึกว่า มันแทบไม่มีค่าอะไรเลยถ้าผมไม่มีสุขภาพดี
ตรงกันข้าม ผมยอมแลกเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของผมกับสุขภาพด้วยซ้ำ
(ถ้าแลกได้นะ)

ตอนนี้ผมก็อยู่ในช่วงรักษาตัวอยู่
แต่ก็ไปทำงานปกติ ทานยาไปด้วย
การไม่มีอิสรภาพทางการงินนี่มันแย่นะ
ถ้าผมมีอิสรภาพทางการเงินนะ วันพรุ่งนี้ผมคงไปเขียนใบลาออก
แล้วนอนพักรักษาตัวอยู่บ้านจนหาย
แล้วก็ใช้ชีวิตต่อจากนี้แบบให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีสุดๆ
อยู่ใกล้ๆคนที่ผมรัก ดูแลพ่อแม่

แต่ก็ความจริงกับความฝันมันไม่ได้บรรจบกันบ่อยครั้งนัก
แต่... ผมต้องทำให้มันบรรจบกันให้
ด้วยชีวิตที่ยังเหลือลมหายใจอยู่เนี่ยแหละ

สู้ต่อไป
จะเจ็บเพียงไหนก็ตาม
ก็จะสู้ต่อไปครับ!


บทเรียนชีวิตเนี่ย ไม่ได้มาทีละหมัดสองหมัดเลยนะ
มาทีเป็นชุด เราได้แต่ยืนรับหมัดนั้นให้อยู่เท่านั้น
ยืนให้มั่น อย่าล้มเด็ดขาด แต่ถึงล้ม ก็จงลุกขึ้นมา
ตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจ!