Pages

Monday, December 31, 2012

0091: Value Visions 31-12-2012



วันสุดท้ายของปี 2555
จริงๆแล้วมันก็คือวันธรรมดาวันนึงครับ
ผมเองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร (อีกแล้ว)
ไม่คิดจะนับถอยหลังอะไรกับเค้าหรอกครับ
พยายามดำเนินชีวิตไปตามปกติของเรา
ผมชอบความสงบ เรียบง่ายมากกว่า
จะให้ไปปาร์ตี้เหยงๆก็ไม่ค่อยจะไหวแล้ว ฮ่าๆ

มาพูดถึงการลงทุนตลอดปี 2555 ดีกว่า
ต้นปีอัด BLA เกือบเต็มพอร์ต
ผลก็คือตามเกมของ ผบห ไม่ทัน ขายทิ้งไปก่อน
แต่ยังโชคดีที่ไม่เจ็บตัว เพราะเอา KZM
เข้ามาช่วย Generate Cash Flow
ในระหว่างที่หุ้นแกว่งอยู่ 44-46 บาท

กลางปี ลอง Set Model DSM
สร้าง Cash Flow ได้ดีครับ
แต่มันฝืนๆความรู้สึก ซึ่งโมเดลมันเป็นการ
SAP เพื่อสร้าง Cash Flow
เลยคิดว่า KZM จะดีกว่า
ได้ฝึก Skill หลายๆด้วยด้วย

ปลายปีได้ INTUCH เข้าพอร์ต
ที่ทุนราวๆ 60 บาท ก็โอเคครับ

ปีนี้ก็เลยออกมาทรงๆ
ผลตอบแทนๆไม่ได้โดดเด่น

ปี 2555 สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ก็คือ
1. Money Management เป็นสิ่งสำคัญ
ถ้าไม่มีเราจะเป็นเพียงแค่นักพนันกระจอกๆเท่านั้น
2. Traling Stop ต้องกำหนดไว้เสมอ
เพื่อป้องกันกำไรกลายเป็นขาดทุน
3. ตัดสินใจด้วยตัวเอง ผิดเอง เรียนรู้แก้ปัญหาเอง
ดีกว่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ พอเจ็บก็โทษนั่นโทษนี่
แต่ไม่เคยโทษตัวเอง แบบนั้นจะไม่มีโอกาสพัฒนาตนเอง
4. ขับรถ 180 กม. / ชม. แต่ไม่โดนชน
ไม่ได้หมายความว่าไม่เสี่ยง
5. อย่าไปเก็บเหรียญบาทบนทางด่วน
ต่อให้เป็นแบงค์พันก็ไม่คุ้ม
6. พลาดแล้วไม่เป็นไร ลุกแล้วค่อยก้าวไปให้ไกลกว่าเดิม
7. มิตรภาพ ช่วยให้เราได้มุมมองใหม่ๆ
พัฒนาตัวเองได้เร็วขึ้น ได้แบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้กัน
8. สุขภาพดี ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนหนุ่มๆ
ไม่ใช่รอแก่แล้วค่อยมารำไทเก็ก
9. ธรรมะ ก็เช่นกัน
เริ่มศึกษาแล้วนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้เลย
อย่ารอแก่แล้วค่อยเข้าวัด ช้าไป กรรมเก่าไม่เคยรอเรา
10. ศีล 5 คือ ประกันของความสุขสงบในชีวิต


สวัสดีครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขและปลอดภัย
ในค่ำคืนสุดท้ายของปี 2555 นะครับ : )

Sunday, December 30, 2012

0090 : Value Visions 30-12-2012



สวัสดีครับ ขออัพย้อนหลังไปเมื่อวานนะครับ...

วันนี้เข้า กทม เพื่อไปซื้อแหวนแต่งงานครับ
แล้วก็กะจะไปถ่ายรูปไฟเทศกาลสักหน่อย
แหม่... ใครบอกกรุงเทพฯช่วงปีใหม่คนน้อย
ผมขอเถียงเลย แม่งก็แน่นเหมือนเดิมแหละครับ
คือปีก่อนๆ อาจจะไม่แน่น คนหนีออก ตจว หมด
ใน กทม ก็ว่างๆโล่งๆ
ที่นี้พอออก ตจว เจอคนแน่นๆ
เลยพากันอยู่บ้าน ก็เจอกันอีก ฮ่าๆ

ก็ไปเดินพารากอน มานิดหน่อยครับ
แฟนพาไปซื้อเสื้อของอะไรนะ H&M
(ผมไม่รู้จักหรอกนะ) แต่ซุ้มไฟหน้าพารากอน
ตอนกลางคืนน่าจะสวยดีนะครับ
เสร็จแล้วก็ทานข้าวที่ส้มตำนัว (ร้านประจำ)
แล้วก็มาร้าน Aiyara Gems เพื่อเลือกแหวนครับ
เลือกไม่ยาก เพราะเจอแบบ ลองปุ๊บปิ๊งปั๊บ
ก็รูดบัตรจ่ายแล้วรอเค้าแก้ขนาดวงของผมครับ
ของแฟนพอดีเป๊ะ แต่ของผมแน่นนิดนึง

เสร็จเรียบร้อยไปหนึ่งเรื่อง
เหลือพวกจองสถานที่กับ
Package Pre-Wedding
นี่เบื้องต้นนะ ที่จริงใน List ยังอีกยาว
งานแต่งงานที่เราต้องจัดการเอง
มันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ
แต่ก็ครั้งเดียวในชีวิตละเนอะ
ผมโชคดีด้วยที่แฟนจัดการเองหลายๆเรื่อง
เลยแค่คอยตัดสินใจกับดำเนินการบางเรื่อง

ราวเดือนมีนาฯ จะจัดงานหมั้นไว้ก่อนครับ
เป็นงานในครอบครับ
ส่วนงานแต่งประมาณปลายปีครับ


มีความสุขถ้วนหน้านะครับ : )

Saturday, December 29, 2012

0089 : Value Visions 29-12-2012



สวัสดีครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับ
กับปี 2555 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป
บางช่วงดี บางช่วงแย่ สลับกันไป
ความเปลี่ยนแปลงเข้ามากระทบเราตลอด
บางคนพอช่วงดีผ่านเข้ามา
ก็ยึดติดกับความสุขช่วงนั้น
หวังว่ามันจะอยู่กับเราไปตลอด
แต่แท้ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เลยครับ
เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ความทุกข์ก็เช่นกัน

ช่วงดี ต้องพร้อมรับมือช่วงเลวร้าย
ช่วงที่แย่ ต้องมีความหวังและกำลังใจอยู่เสมอ
เพราะชีวิตเรายังไงมันก็ต้องเดินต่อไปครับ

ปีนี้ผลตอบแทนของผมก็พอๆกับตลาดเลยครับ
35% นิดๆ ถือว่าทำได้ไม่ดีเลย
แต่ก็ได้เรียนรู้และเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่าง
รวมถึงการค้นพบสิ่งที่ชอบด้วยครับ
คือแต่เดิมผมเข้ามาลงทุนจากสายพื้นฐาน
แต่พอต้องมาทนดูกำไรหายไปยามหุ้นดิ่ง
ก็เลยหันมาศึกษาเทคนิคฯและ MM
แล้วก็ได้มาเจอ KZM และ DSM
เริ่มศึกษา KZM ก่อนตามด้วย DSM
และก็มาลงตัวที่ KZM

ซึ่งผลตอบแทนที่ไม่เยอะ(เท่าชาวบ้าน)
ก็ไม่ได้ทำให้ผมท้อใจครับ แต่ทำให้
เส้นทางเดินและเป้าหมายผมกลับชัดเจนขึ้นด้วยซ้ำ
และในปี 2556 นี้ผมก็จะมาเขียนบันทึก
อย่างสม่ำเสมอครับ เพื่อเรียบเรียงความคิด
และแบ่งปันสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการเทรด
ให้ท่านผู้อ่านครับ


ส่วนการเทรดเมื่อวาน
ก็ทยอยทำกำไรทั้ง TDEX & CHINA
ได้ตาม Plan ที่ Set ไว้ครับ
CHINA นี่เหมือนจะเป็นเครื่อง
Generate Cash Flow อย่างดีเลยครับ


สำหรับวันนี้ก็ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนครับ
นั่งวางแผนเทรดของปี 2556 เกือบทั้งวันเลยครับ


เที่ยวปีใหม่กันโดยสวัสดิภาพนะครับ : )

Thursday, December 27, 2012

0088 : Value Visions 27-12-2012



สวัสดีครับ


วันนี้ตลาดพุ่งปรี๊ดขึ้นไปเกือบจะ 1,400 จุดเลยทีเดียว

ผมเองก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเท่าไหร่

เพราะคิดว่ายังไงรอบนี้มันต้องไป Test ที่ High เดิมคือ 1,700 จุด แน่ๆ

เพียงแต่ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นแหละครับ



ส่วนการเทรดวันนี้ก็ทำตาม Plan ที่วางไว้เช่นเคยครับ

ปล่อยกอง A ของ TDEX และ CHINA ไปได้กองละ 1 Lot

พี่ต้านเคยพูดไว้ว่า ถ้ากอง A ของเราทำกำไรได้ติดๆกัน

แสดงว่าตลาดกำลังบอกอะไรกับเรา… นั่นก็คือ Up Trend กำลังมานั่นเอง

ช่วงนี้กอง C ที่เข้าตาม Moving Average Cross Over นั่นก็ Hold แน่นๆครับ

ส่วน Position Trading ก็ Hold เรื่อยๆ

หากไม่ลงไปแตะจุด Trailing Stop ก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับมันครับ



ผมว่าตั้งแต่ที่ผมมาฝึกเทรดแบบ KZM รอบนี้

ผมใจเย็นขึ้นเยอะเลยครับ แต่ก็ยังคงต้องพยายามฝึกฝนขัดเกลาตนเองต่อไป

หนทางยังเหลืออีกหลาย Level หลายขั้นหลายตอนครับ



เป้าหมายของผมในปีหน้าก็คือ

เทรด KZM ให้พอร์ตมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น มีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ

ขยายโซนให้ครอบคลุมทุก Digit และ ขยายจำนวน Unit ในโซน ครับ

จากนั่นก็พยายามแบ่งเอาไปกำไรจากกระแสเงินสดไปทำ Virus Trading กับหุ้นตัวที่พื้นฐานดีๆ

แต่ว่าราคาแกว่งตัวเยอะๆหน่อย เพื่อดึงกระแสเงินสดเข้ากระเป๋าเรา

อีกอย่างที่อยากลองทำก็คือ แบ่งกำไรจากกระแสเงินสดมา Bet Option

แบบ Un-expect event ครับ ( พูดง่ายๆก็คือแบ่งกำไรมาแทง Option นั่นเอง ฮ่าๆ )

นี่คือเป้าหมายของผมครับ วางไว้ปีหน้าอยากไปให้ถึง Level 2 ของ KZM

ก็ต้องสู้กันต่อไปครับ



KZM นั้น จะโตเร็วโตช้า พี่ต้านบอกมันวัดกันที่ใครเอา C , D มาใช้ประโยชน์ได้ดีกว่ากัน

ผมก็พยายามจะฝึกเทรด C , D ให้ได้ดีขึ้นเรื่อยๆครับ

เป็นการพัฒนา Skill Trade ของเราไปพร้อมๆกันด้วย ( แถมพอร์ตโตเร็วอีก )



อีกอย่างที่ต้องฝึกก็คือเรื่องของจิตใจ

ในตลาดหุ้นนั้น Greed & Fear มันเข้ามากระทบใจเราตลอดเวลา

ถ้าใจเราแกร่งพอ จนมันไม่มีผลกับการตัดสินใจของเรา

การเทรดเราจะดีขึ้นแน่นอนครับ





ฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับ…

     

Wednesday, December 26, 2012

0087 : Value Visions 26-12-2012



สวัสดีครับ


วันนี้ได้มีโอกาสเทรดนิดหน่อย

ช่วงนี้ CHINA ขึ้นมาแรง เลยได้เทรดแต่ CHINA ครับ

วันนี้ผมทยอยซื้อ Positions ของกอง C , D ขึ้นมาเรื่อยๆ 2 ช่อง 1 Lot

จนมาสุดที่ราคา 6.02 ครับ พอมาย่อลงมา 4 ช่อง ที่ 5.98

ก็เลยปล่อยกอง C ออกเกือบหมดทุก Lot ครับ

ปล่อยออกตั้งแต่ Lot ที่มีทุน 5.68 – 5.92 ครับ

ที่เหลือก็ปล่อยไว้ก่อน ไว้ลุ้นเผื่อวิ่งต่อครับ

ส่วนกอง A วันนี้ก็ปล่อยออกไปได้อีก 1 Lot ครับ

ขายได้กำไรกว่าที่วางเป้าไว้ด้วย เพราะเป้าหมายจะขายที่ 5.94

แต่เปิดจอมาราคาวิ่งไป 5.97 แล้วก็เลย ได้กำไรเพิ่มอีกนิดหน่อยครับ

สำหรับกระแสเงินสดของ CHINA ตอนนี้ก็เกือบจะได้ 1 Lot แล้วครับ

ถ้าสะสม Cash Flow ได้ครบ 1 Lot ก็ตั้งใจว่า

จะนำไปซื้อสะสม Lot ราคาที่ลงท้ายด้วย 9 ครับ

โดยจะยืมเงินกอง B ของเลข 4 มาเข้าเทรดพร้อมกันชั่วคราว

( ทำกำไรเสร็จแล้วจะคืนให้ ฮ่าๆ ) แค่คิดก็สนุกแล้วครับ

เวลาที่เห็นกระแสเงินสดมา pay off ออกมาให้เราได้อย่างสม่ำเสมอเนี่ย

มันจะน่ายินดีขนาดไหนกันนะ : )





ปีนี้เป็นปีที่ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างๆครับ

อยากเล่าให้ฟังถึงช่วงที่ได้เริ่มต้นศึกษา KZM ครับ

วิธีเทรดแบบ KZM นั้นแรกๆอาจจะมองเหมือนมันซับซ้อน

อะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ A B C D ซึ่งผมอยากจะบอกว่า

อันที่จริง ถ้าเทียบกับการเล่นหุ้นแบบ Value Investment หรือ

พวก สาย Pure Technic แล้วเนี่ย เทรดแบบ KZM แม่งง่ายกว่าเยอะครับ

VI เนี่ยกว่าจะเจอหุ้นเด็ดสักตัว คุณต้องนั่งแกะนั่งอ่านงบเป็นกองๆ

( กรณีที่ไม่ได้ลอกหุ้นใครนะครับ ) หรือ กว่าคุณจะเป็นยอดเซียนเทคนิค

คุณต้องอ่าน Chart ฝึกมอง Wave เท่าไหร่กันล่ะ



แรกๆผมเล่นแนว VI ผมก็มั่วๆ เหมือนกันนะ

ผลตอบแทนที่ได้มันก็ลดลงๆ เพราะผมเป็นคนไม่ค่อยขยันอ่านเท่าไหร่

ทั้งงานประจำ ทั้งสุขภาพ กลับมาห้องก็เหนื่อยแล้ว

อีกทั้งยังไม่ค่อยชอบลอกหุ้นใครด้วย ( หลังๆก็ลอกบ้าง ฮ่าๆ )

หรือจะให้ดูกราฟลากเส้น ก็ยิ่งจะพามั่วไปกันใหญ่



ซึ่งตอนนั้นก็ท้อเหมือนกันครับ คิดว่าการลงทุนทำไมมันยากอย่างนี้นะ

พอมาเจอพี่โจ โพสภาพไฟล์ excel เกี่ยวกับการเทรดลดต้นทุนของ BLA

ก็เลยได้รู้จักกับ Model KZM ของพี่ Mudley

นั่งอ่านอยู่ 2 วัน ก็เลยรู้สึกว่าชอบๆ ขยับมาศึกษา DSM ก็ยิ่งชอบ

แต่พอเทรดไปๆ DSM จะฝืนความรู้สึกของผมอยู่นิดหน่อย

เพราะจะมีขายตอนขาลงเพื่อ SAP ด้วย ซึ่งตามความรู้ผมมันจะฝืนๆ

ทำให้ผมรู้สึกว่าชอบ KZM มากกว่า เพราะสามารถฝึก skill ในการเทรด

ไปด้วยได้รอบด้าน ( เผื่อวันหน้าต่อยอดไปเป็นมืออาชีพได้ )

ปีนี้ผมยังไม่พร้อมสมัครเข้าสอบเทรดเดอร์ฝึกหัดของ MudleyGroup ครับ

แต่ปีหน้ารับรองไม่พลาด เพราะอีกความตั้งใจหนึ่งของผมก็คือ

อยากเข้าไปเป็นเทรดเดอร์อาชีพของ MudleyGroup ครับ

บางทีอาจจะขัดตาขัดใจคนรอบข้าง ว่าทำไมมีงานประจำที่มั่นคงอยู่แล้ว

อยากไปเป็นเทรดเดอร์ของ Hedge Fund ก็อย่างที่บอกไว้นั่นแหละครับ

Invest is my way , but Trade is my Life.



ผมตั้งใจแล้วว่าชีวิตนี้จะต้องเลี้ยงตัวและเลี้ยงครอบครัวด้วยการเทรด

ก่อนอื่นพอร์ตของผมเองต้องเลี้ยงตัวผมและครอบครัวได้ก่อน

ไม่งั้นจะมีหน้าออกไปเป็น Trader ให้ Hedge Fund ได้ยังไง จริงไหมครับ ?

 

Tuesday, December 25, 2012

0086 : Value Visions 25-12-2012



สวัสดีครับ


Merry X’ Mas ครับ



วันนี้ตลาดไทยน่าเบื่อชวนหาวมากทีเดียว

น่าจะเป็นเพราะฝรั่งปิดออฟฟิศหนีเที่ยวกันหมดแล้ว

TDEX เลยนิ่งสนิทครับวันนี้ แต่ก็ยังดีที่ตลาดจีนวิ่งขึ้น 2-3% เลยทีเดียว

ส่งผลให้ ETF CHINA ที่ผม Set Model ไว้สามารถสร้างกระแสเงินสดได้

โดยวันนี้การเทรด CHINA หลักๆก็เป็นการปล่อยกอง B , D

เพื่อดึง Cash Flow ครับ อีกทั้งยังปล่อยกอง A ได้อีก 1 ไม้ด้วยครับ

ส่วนกอง C นั้นผมยัง Hold Position เพื่อ Let Profit Run ยาวๆครับ

อ้อ วันนี้ผมได้ขยายพื้นที่โซนบนของกอง A เพิ่มด้วยครับ

เพราะมองว่าปีหน้าที่ซื้อรวบไว้ไม่น่าจะเอาอยู่



บางทีการกำหนดโซนมันก็อยู่ที่การเดาเหมือนกันนะครับ

จะให้บอกว่าใช้เทรดตามโมเดลเพื่อไม่ต้องเดา ก็ไม่ถูกทั้งหมด

เพียงแต่การเดาของเรานั้น จะเดาภายใต้ Plan กว้างๆที่เราวางไว้

ถ้าเดาแบบไม่ Over Trade ผมว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ



ปัญหาของ KZM Trader ที่พบก็คือ

หุ้นนิ่งเกินไป ( เซ็ง Generate Cash Flow ไม่ได้ )

หุ้นหลุดโซนบน วิธีแก้มีหลายวิธีครับ Let Profit Run C , D

เอา C , D เข้าเทรด หรือ เอาเงินสดที่มีมาจัดโซนเล่น A , B ใหม่

ส่วน หุ้นหลุดโซนล่าง ก็คือ เอา C , D มาเล่นเป็น Zone Extra

หรือเรียกง่ายๆว่า Super Sub นั่นเองครับ

นอกนั้นน่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับตัว Trader แล้วล่ะครับ

พวกเสียวินัยในการเทรด หรือ ใจร้อน เห็นคนรอบข้างได้ผลตอบแทนมากๆ

แต่เราสร้าง Cash Flow ได้น้อย พาลอยากเลิกเทรดกันไป

อันที่จริง ช่วงแรกๆเราอาจจะสร้าง Cash Flow ได้น้อยครับ

เพราะพลังแห่งการทบต้นมันยังไม่แสดงออกมานั่นเองครับ

ต้องรอจนเราเพิ่มโซน ขยายเลยไปสักเลข สองเลข ดูครับ รับรองว่า ไม่น้อยแน่ๆ

อาจจะ Generate Cash Flow ได้เกือบทุกวันเลยทีเดียวครับ



แล้วก็อีกอย่างนึงที่ผมได้เรียนรู้ก็คือ การเทรดแบบ KZM

ส่วนที่จะได้กำไรเป็นน้ำเป็นเนื้อนี่ก็กอง C นี่ละครับ ถ้าเรา Let Profit Run ให้เป็นนะ

อีกอันนึงก็กอง A โซนบนๆที่โซนรวบไว้ครับ





อีกเรื่องนึงครับ

ผมว่าตอนนี้ CHINA เหวี่ยงแรงดีเหลือเกิน

เหวี่ยงกว่า TDEX เยอะเลยครับ แลหะเหวี่ยงมากที่สุดใน ETF ของไทยเลยด้วยครับ

สภาพคล่องพอประมาณ เพียงพอจะรับ Order ไม้ละ 400-500 หุ้นไหว

แต่มากกว่านี้ก็ไม่แน่ใจครับ จะวิ่งแรงไปหรือเปล่า แหะๆ

Plan ของผมก็คือสะสม Unit , Generate Cash Flow ไปเรื่อยๆครับ

ถ้ามีครบเลขเมื่อไหร่ก็ค่อยขยับไป Virus Trading กับหุ้น



หุ้นมีให้เราเทรดทุกวัน อย่าใจร้อน

ความใจร้อนนั้นทำให้เราเหยียบพลาดได้ง่ายๆ

พยายามสร้างผลตอบแทนในระยะยาว ที่มั่นคงและยั่งยืนจะดีกว่าครับ

 

Saturday, December 22, 2012

0085 : Value Visions 22-12-2012



สวัสดีครับ วันนี้อัพ blog ผ่าน iPhone ครับ
อาจจะเขียนสั้นนิดนึง เพราะพิมพ์ไม่ค่อยสะดวก
สำหรับวันนี้ก็ได้ใช้เวลาว่างค้นความรู้ใน google
เจออะไรน่าสนใจก็ Capture Screen ไว้ก่อน
แลเวก็ค่อยมาเรียบเรียงลงสมุดบันทึกภายหลัง

ช่วงหัวค่ำดูบอล AFC รอบชิง นัดที่สอง
ทีมชาติไทยชนะ
แต่ประตูรวมไม่เพียงพอที่จะเป็นแชมป์
แต่ผมว่า ผลเป็นยังไง ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่
แต่ขอเพียงเราเต็มที่กับมัน สู้สุดใจ
ก็เท่ากับเราชนะแล้ว...

ในชีวิตของเราก็เหมือนกัน...
ถ้าเราเต็มที่แล้ว แต่ผลออกมาเราไม่ชนะ
ไม่เป็นไร สู้ใหม่อีกครั้ง เพราะใจเรายังสู้อยู่
สักวันชัยชนะต้องตกเป็นของเรา

แต่ถ้าเราแพ้เพราะเราคิดว่าจะแพ้แต่แรก
เลยไม่สู้เต็มที่ แบบนั้นแย่กว่า
เพราะเราจะไม่มีโอกาสพัฒนาตัวเอง
หยุดอยู่กับคำว่า "ทำไม่ได้" อยู่ร่ำไป

ใจต้องสู้ไว้ก่อน
สร้างกำลังใจให้ตัวเอง
แม้ทางจะมืดขนาดไหน
หากกำลังใจเราสองสว่าง
หนทางย่อมแจ่มชัดขึ้นเองครับ

"mind over matter"

Friday, December 21, 2012

0084 : Basic KZM 4



KZM ที่ผมเทรดอยู่ตอนนี้นั้นเป็นเพียง KZM Level 1 เท่านั้นครับ
พี่ Mudley แกเคยเกริ่นเอาไว้ว่า KZM นั้นมีถึง 5 Level ด้วยกันครับ

โดยแบ่งเป็นแต่ละ Level ดังนี้ครับ

Level 1 : Zone Trading เทรดตามโซนและสะสม Unit จนครบทุกโซนจากกระแสเงินสด
Level 2 : Virus Trading คือการแบ่งกำไรจากกระแสเงินมาซื้อหุ้นแล้วเทรดตามโซน
ดึงกระแสเงินสดเข้ากระเป๋า จะหุ้นพื้นฐานหรือหุ้นปั่นก็ได้ แต่ต้องแน่ใจว่า บ.ไม่เจ๊งง่ายๆ
Level 3 : TDEX & Option เทรด TDEX คู่กับ Option สร้างกระแสเงินสดได้ทั้งสองทาง
ตรงนี้ผมเรียนได้นิดหน่อย เรื่องของการ Short Option + TDEX ครับ
แต่ลูกเล่นอื่นยังหาเรียนไม่ได้ครับ
Level 4 : ลุยตลาด Future ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นยังไง พี่ต้านแกยังไม่เคยพูดถึง
Level 5 : บุกตลาด ตปท. ยังไม่มีการพูดถึงเช่นกันครับ


โดยทั้ง 5 Level นั้นต่างก็เริ่มต้นจาก Level 1 ทั้งหมดครับ
Level 1 Zone Trading นั้นเป็นเหมือน Base Line ของการเทรดครับ
เป็นทั้งการฝึก Skill , mental , money management
รวมถึงการที่ Zone Trading นั้นสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ
ทำให้พอร์ตเราแข็งแกร่ง ไม่ตามง่ายๆนั่นเองครับ
คือ สมมุติว่าเราอาจจะพลาดเทรด Future ในส่วนของ Level 4 เจ๊ง
แต่พอร์ตเราก็ยังไม่กระทบ เพราะเราแบ่งเอากำไรจากกระแสเงินสดใน Level 1
มาเทรดนั่นเองครับ ซึ่งกำไรที่มาจาก Cash Flow เราก็สามารถ Generate
ขึ้นมาใหม่ในทุกๆวันอยู่แล้ว เพราะในกรณีที่เรามี unit ในทุกช่อง ทุกโซน
หากราคาขยับแค่ 1 ช่อง เราก็สามารถจะ Generate Cash Flow ได้ทันที
นั่นเป็นเหตุที่เราควรทำให้ Level 1 ของเราเป็นฐานที่แน่นสุดๆ
เพราะมันถือว่าเป็นจุดสำคัญที่สุดของพอร์ตเราเลยทีเดียวครับ

0083 : Value Visions 21-12-2012



วันนี้ไม่ได้ทำอะไรกับ KZM Fund เท่าไหร่ครับ
จะมีก็แต่เก็บ GLD เข้า C , D อีกไม้นึง ที่ 2.30 ครับ
เพราะผมกะสะสมไว้ขายหากราคามันดีดีขึ้นช่วงตรุษจีนครับ
ซึ่งเป็นความเห็นของผมเองว่า ช่วงตรุษจีนทองน่าจะกลับมา
มี Demand จากเหล่าคนจีนมากกว่าปกติครับ
กราฟนั้นยังเป็นขาลงอยู่เลยครับ >_<
ไม้นี้จึงเป็นการ bet expect event เต็มๆครับ : )


วันนี้มีคนโทรมาปรึกษาเรื่องอยากจะเล่นหุ้นอีกแล้วครับ
โดยบอกว่าถ้าผมซื้อตัวไหนให้บอกด้วย จะซื้อตาม
โอ้ว แม่เจ้า เอาจมูกมาฝากตรูหายใจอีกแล้ว
ผมก็บอกไปว่าไว้มีไอเดียเจอหุ้นถูกแล้วจะบอกก็แล้วกัน
(เอาเข้าจริง ถ้าเค้าไม่โทรมาถาม ใครจะไปกล้าโทรไปบอกล่ะ)
แล้วก็ถามว่าตอนนี้ซื้อหุ้นตัวอะไรดี
ไอ่เราก็ไม่รู้จะตอบอะไร เลยบอกตัวที่มีในพอร์ตและคิดว่ามันยังไปต่อได้
ก็เลยบอก INTUCH ไป เพราปันผลค่อนข้าง ok
และคิดว่า down side น้อยกว่า CPALL & HMPRO

ผมว่าเวลาให้คำปรึกษาแก่คนที่ไม่คิดจะศึกษา
แต่อยากได้กำไรจากหุ้นนี่มันโคตรลำบากใจเลย


กลับมาที่เรื่องของผมดีกว่า
หลังจากที่ได้ตอบ comment ของคุณ Tawan
เลยอยากเรียบเรียงแนวทางในการเทรดของผมอีกที
โดยที่ผมคิดว่าการเทรด KZM ของผมควรจะเรียบง่ายที่สุด
ไม่ซับซ้อน ที่เขียนเยอะแยะนั่นเป็นช่วงรวบรวมไอเดียครับ
พอไอเดียที่เรารวบรวมไว้มันผสมกันลงตัว
ค่อยนำมาลดทอนให้มันเรียบง่ายที่สุดครับ

โดยหลักๆก็มีแผนการเทรดดังนี้ครับ

A เทรดตามโซน เพื่อฝึกวินัยในการเทรด
และมีการทำ Zone Review ทุกๆปีครับ

B เข้าเทรดพร้อม A พอ Take Profit แล้ว
หาจังหวะ Day Trade หรือ Position Trading
โดยที่จำนวนไม้ที่ใช้เทรดต้องไม่เกินโซนบนของกอง A ที่ได้ซื้อรวบไว้

C เทรดตาม Buy Signal ตาม Indicator ที่ใช้
ที่ใช้ก็มี 2 แบบ คือ moving average ใช้ตอน Offline trade
ส่วน Position trading จะใช้ตอน Online (มีเวลาเฝ้าจอ)

D เข้าพร้อม C แล้วก็เล่นแบบ B คือหาจังหวะ day trade
และ positions trading

และจะขยายโซนจาก กระแสเงินสด เท่านั้น ไม่มีการลงเงินทุนเพิ่ม

นี่คือไอเดียการเทรดแบบคร่าวๆของผมนะครับ : )

Thursday, December 20, 2012

0082 : Value Visions 20-12-2012



วันนี้ตลาดปิดลบนิดหน่อยครับ


กอง KZM ของผมทั้ง 3 กองก็เลยยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ

อีกทั้งวันนี้ก็ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ด้วย ตกเย็นยังมีประชุมอีก



สิ่งที่ผมนึกได้อีกเรื่องนึงในการปรับปรุงโมเดลก็คือ

การขยายโซนจากกระแสเงินสด

สำหรับต้นฉบับของพี่ต้าน MudleyGroup ที่ให้เพื่อนพี่เค้าคือคุณ kfc_m

ได้ทดลองเทรดจริงตอนเผยแพร่แนวการไว้ที่ Pantip นั้น

พี่เค้าเวลาจะขยายโซนจะแยก Account ออกไปอีก Account นึงเลยครับ

เช่น เรามี File Excel ที่ซื้อเฉพาะราคาที่ลงท้ายด้วย 2 เช่น

9.32 , 9.42 , 9.52 ไปจนสุดโซนบน ทีนี้พอเรามีกำไรประมาณนึง

เราก็จะแบ่งเอาเงินกำไรตัวนี้มาเทรดใน Account ใหม่

ทำไฟล์ Excel แบบเดียวกันอีกไฟล์นึง โดยที่เราอาจจะกำหนดว่า

Account นี้เราจะซื้อแต่ราคาที่ลงท้ายด้วยเลข 7 เท่านั้น

เช่น 9.37 , 9.47 , 9.57 ทยอยสะสมหรือถ้าแบ่งกำไรมาเยอะ

ก็สามารถซื้อรวบไปจนสุดโซนบนได้เลยครับ

พอสะสมกำไรได้อีกก้อน ก็นำมาทำแบบนี้ต่อไปโดยเปลี่ยนเลขลงท้าย

อาจจะไล่ซื้อโซนที่ลงท้ายด้วย 5 พอสะสมครบก็อาจจะไปไล่ซื้อเลข 9

จนเราสะสมได้ครบทุกเลข ตอนนี้เราอาจจะยังมีโซนละ 100 หุ้น

แต่พอเรามีครบเลขตั้งแต่ช่องลงท้ายด้วย 0-9 เลย แล้วงานต่อไปของเราก็คือ

เพิ่มจำนวนหุ้นในแต่ละช่องจาก 100 หุ้น เป็น 200 หุ้นทุกช่อง

จาก 200 เป็น 300 , 400 , 500 เพิ่มเรื่อยๆ เพื่อสร้างกระแสเงินสดได้มากขึ้นๆ

สร้างกระแสเงินสดได้ทุกวัน ถ้าถึงวันนั้นลองคิดดูว่าจะเป็นยังไงครับ

Wednesday, December 19, 2012

0081 : Value Visions 19-12-2012



วันนี้ตลาดหุ้นไทยพุ่งแรงไม่หยุดไม่หย่อน


ปิดท้ายตลาดยังอุตส่าห์ปิดโดดส่งอีกด้วย

หุ้นขึ้นแรงๆแบบนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่หน่วยรบ KZM

ของผมหลายหน่วยเผด็จศึกทำกำไรออกมานั่งพักครับ

โดยในวันนี้ผมก็ได้ปล่อยกอง B ออกไปที่ 9.43 หมดทุกไม้ครับ

ส่วนกอง C , D ก็เล่นแบบ Positions Trading คือใช้ P / L Indicators

ทยอยรับช่องละไม้ไปจนมันนิ่งแล้วย่อ

ก็ปล่อยไม้ที่รับมาเมื่อวันก่อนเก็บ Cash Flow เข้ากระเป๋าครับ

ส่วน Lot ที่เข้าจากเส้น Moving 3 x 6 = 18 และ 5 x 10 = 50

ยัง Let Profit Run จนกว่าเส้น 3 ตัด 6 ลงมา และ 5 ตัด 10 ลงมาครับ



ผมพบปัญหาอย่างนึงในการเทรด Position Indicators ก็คือ

จุดขายเราจะอยู่ตรงที่มันย่อตัวลงมาในราคารองสุดท้าย

ทีนี้ถ้าเราซื้อช่องละไม้เล็กๆ มันมีโอกาสค่อนข้างสูง

ที่มันจะสวิงลงมาที่ราคารองสุดท้าย เลยทำให้เราขายหมูได้ง่าย

ทางแก้ก็คือ ผมควรกำหนด Technical Position ให้ห่างนิดนึง

อาจจะ 2 ช่องก็ได้ ( เด๋วต้องลองดู ) ซึ่งจะทำให้เราไม่โดนจังหวะ

Swing ของราคาหลอกให้เราขายหมู…





อีกอย่างนึงของ KZM ที่ผมคิดว่าในแต่ละปีต้องทำก็คือ

ตอนต้นปี เราควรจะทำ Zone Review ว่า

ในปีนี้เราจะเทรดที่กรอบราคาเท่าไหร่ ?

ผมใช้วิธีคิดง่ายๆก็คือ สำหรับกรอบบน ผมจะเอาราคา ณ สิ้นปี

บวกไปอีกสัก 30% ( เผื่อไว้หากตลาด Peak มากๆ )

กรอบล่างก็เอาแนวรับใหญ่ๆของปีนี้ ก็น่าจะไม่หลุดครับ



ส่วนอีก 2 กองทัพ ก็คือ GLD กับ CHINA วันนี้นิ่งสนิทเลยครับ





ช่วงนี้ตลาดขึ้นมาแรง ยังไงก็มีสติและวินัยในการเทรดนะครับ : )





PS : วันนี้วันเกิดแฟนผมครับ สุขสันต์วันเกิด(อีกรอบ) ขอให้มีแต่ความสุขนะค้าบ

สุขภาพดี ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน เงินไหลกองทองไหลมา

และจะเป็นคนรักที่ดีอย่างนี้ตลอดไป : )

 

Tuesday, December 18, 2012

0080 : Value Visions 18-12-2012



วันนี้ตลาดเหวี่ยงหลอกซะ…


คนที่เข้าไป Short ตอนมันลงไป ถ้าปิดไม่ทันน่าจะจุกเอาการครับ

ส่วนผมวันนี้ KZM ยังรบยืดเยื้ออยู่ ยังไม่สามารถเก็บกำไรเข้าพอร์ตได้

แต่ก็ส่งหน่วยรบ C , D ไปเพิ่มนิดหน่อย ตอนมันลงไป -6 จุด

ทาง GLD ก็นิ่งสนิทเลย ( ตามนิสัยของมัน )



วันนี้ผม Set KZM อีก 1 Account ครับ

เป็นการเทรด KZM กะ ETF อีกกองนึงก็คือ CHINA

ผมไล่เปิดกราฟดูย้อนหลังเห็นว่าในวันนึงมันเหวี่ยงเยอะดี

เหวี่ยงกว่า TDEX เยอะเลย และย้อนหลังไปกรอบ Swing ค่อนข้างกว้าง

คิดว่าน่าเป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างกระแสเงินสดได้ดีกว่า TDEX และ GLD ครับ

โดย Set Budget ไว้ที่ 50,000 บาท

จากราคาแถวๆปัจจุบัน ซื้อรวบโซนบนไว้อีก 11 ไม้ (ถ้าหลุดกรอบบนค่อยว่ากันใหม่)

วันนี้ Swing เกือบ 10 ช่องเลยนะครับ ( กอง A , B ทำกำไรสบายเลย )

ใครที่สนใจ KZM แบบ Basic กับ ETF ตัวนี้น่าสนใจนะครับ

โดยเป็น ETF หุ้นตลาดจีน 300 ตัว ดูแลโดย KTAM ครับ

ข้อดีอีกอย่างนึงก็คือ ตัวที่ Swing เยอะๆ มันจะทำให้เราเทรดแบบ

P/L Indicators ได้ง่ายขึ้นครับ ถ้าจับทางมันถูก

แต่ถึงผิดก็ไม่เป็นไรก็ไม้เล็กๆของเรา แค่อย่าใช้กระสุนเกิน Limit เป็นพอครับ



อีกตัวที่ผมตามๆอยู่แต่สภาพคล่องไม่ค่อยมีก็เลยไม่ได้ตัดสินใจเทรด

ก็คือ HK ครับ เป็น ETF ของ ฮั่งเส็ง ฮ่องกง นั่นเองครับ

ไว้รอสภาพคล่องเยอะๆ ถ้าราคาเหวี่ยงไว ค่อยว่ากันครับตัวนี้





การเทรด KZM นั้นจะให้ดี ต้องเทรดด้วยบัญชีที่มีค่าคอมฯ ต่ำที่สุดครับ

บัญชี Cash Balance ป่าวหว่า ที่ค่าคอม 0.15%

ซึ่งตอนนี้ผมใช้บัญชี Credit Balance อยู่ เดี๋ยวคงต้องหาเวลาไปเปิดใหม่ครับ

แล้วค่อยโอนหุ้นไปไว้ในบัญชีใหม่

ที่ค่าคอมฯ ต่ำได้เปรียบก็เพราะ เราเทรดน้อย เทรดบ่อย

แค่ต่างกัน 0.01 ในระยะยาวก็ต่างกันมากนะครับ

พี่ Mudley บอกว่า ค่าคอมฯ เหมือนเป็นต้นทุนในการทำสงคราม ของ KZM




วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ

ยังไงก็เทรดกันอย่างมีสติ และมีวินัย นะครับ : )

   

Monday, December 17, 2012

0079 : Basic KZM 3



วันนี้ผมจะมาต่อเรื่องกอง B ครับ


หลังจากดองไว้ซะนาน แหะๆ

กอง B ที่เราเรียกเล่นๆว่า หน่วยรบคุ้มกันกอง A

เอาจริงมันก็คือกองกำลังที่มีไว้ป้องกันกอง A นั่นเองครับ

ป้องกันอย่างไร ป้องกันโดยการเข้าออกให้ไว

เพื่อเอากำไรมาลดต้นทุนให้กอง A นั่นเองครับ

แต่เราจะเน้นออกในวันเพื่อฝึก skill Day Trade ของเราไปด้วยครับ



ยกตัวอย่างง่ายๆเลยนะครับ สมมุติว่า…

เราเข้าซื้อหุ้นที่ 10 บาท โดยเข้าซื้อทั้งกอง A และ กอง B พร้อมกัน

จำนวนกองละ 100 หุ้น รวม 200 หุ้น เราจะมีหุ้นดังนี้

กอง A 100 หุ้น ที่ราคา 10 บาท รวมมูลค่า 1,000 บาท

กอง B 100 หุ้น ที่ราคา 10 บาท รวมมูลค่า 1,000 บาท

จากนั้นในระหว่างวันหุ้นอาจจะแกว่งขึ้นบ้างลงบ้าง

กอง B มีหน้าที่ของมันก็คือ หากว่าราคาหุ้นแกว่งขึ้นไปพอมีกำไร

จะมากจะน้อยก็แล้วแต่เรา ให้เราขายออกมาในราคาที่เราพอใจครับ

อาจจะขึ้นไป 10.2 หรือ 10.5 ก็แล้วแต่เราจะขายเลยครับ

ทีนี้ สมมุติเราขายกอง B ที่ 10.2

เราก็จะมีกำไรจากการขายกอง B 0.2 x 100 หุ้น = 20 บาท

ซึ่งเราจะเรียกกำไร 20 บาทนี้ว่า “กระแสเงินสด หรือ Cash Flow” ครับ

คำว่า Cash Flow นี้จำไว้ให้ดีนะครับ เพราะเราต้องอยู่กับมันตลอด อิอิ

จากนั้นให้เอากำไรมาหักกับต้นทุนกอง A

กอง A เราก็จะมีต้นทุน = 980 บาท

คิดแล้วตก 9.8 บาทต่อหุ้น พอทุนต่ำลง พอร์ตเราก็จะปลอดภัยขึ้นครับ : )



แต่ไอ่ 20 บาทที่ได้มานั้น ไม่ได้ให้เอาไปกินหนมนะครับ

แต่เราจะสะสมไว้เพื่อขยายโซน สะสมหุ้นจากกระแสเงินสดต่อไปเรื่อยๆครับ

ลองคิดดูว่า 20 บาทหลายๆครั้งก็กลายเป็นร้อยเป็นพันได้นะครับ

นี่คือกอง B แบบ Basic นะครับ





ขยับขึ้นมาอีกหน่อยก็คือ การเทรดกอง B แบบ ฤทธิ์มีดสั้น ( ผมบ้า ลี้ คิม ฮวง น่ะครับ หุหุ )

ซึ่งการเทรดแบบ ฤทธิ์มีดสั้น นั้นเริ่มมาจาก

พอกอง B คุ้มกันกอง A เสร็จเรียบร้อยแบบที่เล่าให้ฟังข้างบนแล้วเนี่ย

มันก็จะว่าง รอกอง A เข้าต่อสู้ ถ้า A ยังรบไม่เสร็จ ( ยังขายไม่ออก )

B ก็ไม่มีอะไรจะทำ ผมก็เลยเกิดไอเดียให้กอง B กลายเป็นหน่วยรบพิเศษกินิว เอ๊ย

หน่วยรบพิเศษ เน้นรุกเร็ว จบเร็วเช่นที่มันเคยทำมา

โดยสมมุติเมื่อกี้เรารับ B มาที่ 10 จ บาท ปล่อยไปที่ 10.20

ส่วน A นั้นอาจจะรอปล่อย 11 อะไรก็แล้วแต่ ทำให้เงินสดส่วนของ B ยังว่างอยู่

ทีนี้พอราคาแกว่งลงมาจาก 10.20 มาที่ 10 บาทอีกรอบ

ถามว่าเราจะทำอย่างไร… ก็ซื้อ B อีกรอบสิครับ!

ซื้อแล้วก็เอามาปล่อยที่ 10.20 อีกรอบ มันจะเป็นไรไป

หรือว่าถ้ารับได้ต่ำกว่า 10 บาท ก็ยิ่งดี

นี่ก็คือการทำกำไรในกอง B ของผมอีกวิธีหนึ่งครับ



สรุป การเทรดกอง B นะครับ

1. เข้าพร้อมกอง A

2. ออกเมื่อมีกำไร เน้นออกภายในวันเพื่อฝึก skill Day Trade ของเรา

3. เมื่อออกแล้วก็สามารถหาจังหวะทำกำไรใหม่ได้อีกรอบ

4. เหมือนข้อ 3 ( ทำข้อ 3 ต่อไปเรื่อยๆ )



วันนี้มีนี้ครับ หากมีตรงไหนสงสัยก็สามารถถามได้เลยนะครับ

หรือถ้าเห็นว่าผมเข้าใจตรงไหนผิดไป ได้โปรดแนะนำผมด้วยนะค้าบบ



0078 : Value Visions 17-12-2012



แม้ว่าเราจะแผนการเทรดที่ดียอดเยี่ยมเพียงใดก็ตาม


หรือมี Indicator เทพๆ ที่โอกาสถูกสูงๆ

แต่นั้นจะไม่มีความหมายเลยหากว่าเราไม่สามารถทำตามแผนนั้นได้

เพราะฉะนั้นวินัยจึงเป็นเรื่องสำคัญครับ



ช่วงนี้ผมก็ลองใช้วิธีฝึกวินัยตามที่พี่ Mudley เคยเขียนเล่าให้ฟัง

สมัยตอนเป็นเทรดเดอร์ฝึกหัดที่ USA

ซึ่งจะถูกปรับเงินหากว่าละเมิดข้อตกลงที่ห้ามอ่านการ์ตูน



ผมก็เลยเอาวิธีนี้มาใช้กับตัวผมบ้าง

โดย List เรื่องที่เราอยากจะปรับปรุงตัวออกมา

ตอนนี้ List ออกมาได้ 7 ข้อครับ

จากนั้นผมก็มาทำตารางใน Excel ไว้



ครั้งที่ 1 ถ้าทำไม่ได้ปรับ 50 บาท

ครั้งที่ 2 ปรับ 50 บาท

ผมจะเพิ่มจำนวนเงินไปเรื่อยๆจนถึงครั้งที่ 10 ปรับ 500 บาท

และมีแถมครั้งสุดท้าย ครั้งที่ 11 ปรับ 2,000 บาท

อารมณ์ประมาณว่าถ้ามึงยังทำไม่ได้ถึงครั้งนี้ต้องมานั่งคุยกันหน่อยว่าเป็นเพราะอะไร

ต้องคุยต้องวิเคราะห์ตัวเองดูแล้วว่าทำไมถึงทำไม่ได้

ก็ลองดูครับ ว่าวิธีฝึกนี้จะเปลี่ยนแปลงผมได้รึเปล่า : )





ส่วนการเทรด KZM วันนี้

ราคา TDEX กับ GLD ไม่ค่อยแกว่งเท่าไหร่ครับ

GLD นี่นิ่งเลยก็ว่าได้ ส่วน TDEX ยังพอมีจังหวะบ้าง

ผมก็ปล่อยกอง B ออกไปได้ 2 ไม้ครับวันนี้

แล้วก็ลองเข้ากอง C , D ไปด้วย ก็ดอยไปตามระเบียบ

( เล่น Technic ไม่เคยแม่นกับเค้าเล๊ย )

แต่ก็ไม่เป็นไร ดอยไม้เล็กๆตามจำนวนที่เราคำนวณไว้ ย่อมไม่กระทบพอร์ตรวม

กอง C , D ผมจะมองเป็นกระสุนครับ

เช่น เรามีกอง C , D จำนวน 25 กอง ผมก็จะมองเป็นเรามีกระสุน 25 นัด

เพียงแต่ว่านัดที่เราจะสามารถยิงออกไปได้ก็คือกระสุนของโซนบนเท่านั้น

( ตรงนี้ผมยึดโซนบนของกอง A เป็นหลักครับ )

เช่น ผมมีกอง A โซนบนที่ซื้อรวบไว้ 10 ไม้

ผมก็จะกำหนดว่า ผมสามารถเทรด C , D ได้ไม่เกิน 10 ไม้เช่นกัน

แต่ถ้าราคาหุ้นปรับตัวลงมา ทำให้กอง A มีโซนบน 15 ไม้

ผมก็จะสามารถเทรด C , D ได้ 10 นัดครับ

Model KZM พี่ Mudley ออกแบบมาให้เราสามารถฝึกทุกด้านแบบอิสระ

เราก็ควรนำมาต่อยอด Set การเทรดให้ตัวเราเองครับ

จะ Set แบบไหนก็แล้วแต่เราว่าเราอยากจะเรียนรู้อะไร จะฝึกอะไรครับ





วันนี้ฝรั่งซื้อสุทธิ แต่ Short Index Future

ไม่รู้ว่าจะแค่ปิดรอบทำกำไรหรือว่าเตรียมตัวทุบ

แต่ผมจะไม่เดาตลาด เพราะเดาทีไรผิดตลอดเบยยย

ตลาดมันจะไปทางไหนก็ได้ครับ ผม Happy ทั้ง 2 ทาง

แต่ว่าผมชอบให้มันลงมากกว่า เพราะยิ่งลงเราก็ยิ่งเก็บหุ้นเข้าโซน

พอกลับตัวขึ้นมาก็ปล่อยออกตามโซน

กระแสเงินสดจะไหลเข้าพอร์ตเราครับ




Sunday, December 16, 2012

0077 : Value Visions 16-12-2012



สวัสดีครับ ไม่ทันไรปีแห่งเสียงหัวเราะ สอง-ฮ่า-ฮ่า-ฮ่า ก็จะผ่านไปเสียแล้ว


ปีนี้สำหรับการลงทุนของผม ช่วงต้นปีพลาดไปหน่อยก็เลยได้ผลตอบแทน “ย่ำแย่”

มาตีโต้คืนช่วงปลายปี แต่ก็ดันมีเหตุการณ์ที่ทำให้พอร์ตหดไปอีก (เศร้า…แต่ก็ไปก้าวต่อไป)

ตอนนี้ก็เลยต้องวางแผนใหม่ครับ

ผมกลับมา Set Up Model KZM ใหม่อีกรอบ

เรียกว่าเป็นการศึกษาใหม่ตั้งแต่ต้น (เรียนซ้ำนั่นเอง)

ซึ่งก็น่าแปลกนะครับ พอเรามาตั้งใจเรียนรู้ใหม่อีกรอบ

การเรียนซ้ำนั้นจะทำให้เราได้อะไรใหม่ๆขึ้นมาด้วย

และก็รู้อีกว่า KZM ที่ทำไปเมื่อหลายเดือนก่อนนั้นมันไม่ค่อยถูกเท่าไหร่

คือผมเล่นเก็บทุกช่อง ทำให้ต้นทุนสูงมาก

ต้นทุนสูงค่าเสียโอกาสของเงินที่จมอยู่ก็ยิ่งมากตามไปด้วยน่ะครับ

อันที่จริงพี่ Mudley นั้นต้องการให้ขยายโซนจากกำไร ( Cash Flow )

ผมตีความตรงนี้ผิดไป คิดว่า KZM คือการซื้อ-ขายตามโซน

แล้วก็ขยายตัวให้แต่ละช่องมีจำนวนหุ้นเยอะๆ

ซึ่งมันก็ถูก แต่มันยังไม่ครบถ้วน

พอกลับมาเรียนใหม่อ่านใหม่ ก็เลย Get Idea อะไรมากขึ้นครับ

โดยครั้งนี้ผมเริ่ม Set Model กับ TDEX ก่อนครับ

ใช้เงินทุน 100,000 บาท เล่นได้ราวๆ 25 โซน ในแต่ละกอง

แล้วก็ Set Model กับ GLD โดยใช้เงินทุน 10,000 บาท

เล่นได้ 10 โซน ในแต่ละกอง

โดยแต่ละกองมีหน้าที่ดังนี้ครับ

กอง A ซื้อขายตามโซน โดยได้ซื้รวบโซนบนไว้หมดแล้ว

กอง B ซื้อพร้อมกอง A ออกตามใจเมื่อมีกำไร เน้นออกภายในวัน เพื่อป้องกันความเสี่ยง

พอออกกอง B ได้ก็สามารถนำกอง B มาเล่นต่อได้โดย…

ถ้าราคาลงมาจุดที่เราซื้อเดิมหรือต่ำกว่า ก็สามารถรับกลับมาได้

เพื่อรอปล่อยเอา Cash Flow อีกรอบ ผมเรียกว่า “ฤทธิ์มีดสั้น”

กอง C ซื้อขายตาม Signal ไม่มี Cut loss ซึ่งผมใช้สูตรของ Edward Burke

คือสูตร A x B = C แบบ multiple timeframe เช่น

บางทีผมอาจจะเข้าจากสัญญาณ MA 3 ตัด 6 ขึ้น เทรดเหนือ 18

บางทีผมก็เข้าตาม 5 , 10 , 50 ก็ได้ครับ

แต่เข้าทีละไม้

อีกวิธีนึงก็คือถ้ามีเวลาดูจอ ผมจะใช้การเทรดแบบ P/L Indicators

ที่พี่ต้าน MudleyGroup ได้สอนไว้ใน pantip เมื่อครั้งกระโน้นครับ

ยกตัวอย่างก็คือ ราคาหุ้นอยู่ที่ 10.00บาท

แล้วกระพริบไปที่ 10.01 เราก็ซื้อหุ้นที่ 10.01 จำนวน 100 หุ้น

พอไปที 10.02 ถือว่า Signal มาอีกครั้งก็ Buy 10.02 อีก 100 หุ้น

10.01 , 10.02 ไม้เล็กๆ 100 หุ้น นี่เรียกว่า Indicators position

จากนั้นถ้าราคาไปที่ 10.03 Signal มาอีกครั้ง เราก็เข้าหนักหน่อย

อาจจะ 1,000 หุ้น ก็ได้ครับ ถ้าเขียวอีก 10.04 ก็เข้าอีก 1,000 หุ้น

สองไม้หลังนี่เราเรียกว่า Follow Position ครับ

จากนั้นถ้าเขียวต่อไปก็เก็บ Indicator Position ทีละ 100 หุ้นตามช่องไป

ถ้าเกิดแดงขึ้นมาเมื่อไหร่ ให้เราขายในราคาที่ไม้รองสุดท้ายครับ

เช่นอาจจะขึ้นไปถึง 10.80 พอลงมา 10.79 , 10.78 ให้เราขายที่ 10.78 ได้เลยครับ

เพราะถือว่า Indicator Position ส่ง Sell Signal ออกมาแล้ว

อันนี้คือการเล่นกอง C ของผมนะครับ

ส่วนกอง D ก็เล่นเหมือนกอง B เพียงแต่เข้าพร้อม C แค่นั้นครับ





วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ จากนี้ผมจะพยายามเข้ามาอัพบ่อยๆนะครับ

เพื่อเป็นการจดความคิดตัวเองด้วย

ใครที่ผ่านมาอ่านสามารถแลกเปลี่ยนความรู้กันได้นะครับ



ราตรีสวัสดิ์ครับ

Sunday, October 21, 2012

0076 : Value Visions 21-10-2012


สวัสดีครับ

1. พรุ่งนี้วันจันทร์แล้ว
ตลาดเปิดมาคงแดงตาม DJ แหงๆ
( ผมเดาทีไรหน้าแหกทุกที )
แต่ไม่ว่าตลาดไปทางไหน
โมเดลที่ผมออกแบบไว้ก็ทำเงินได้อยู่ดี
DSM หุ้นลง ซื้อคืนถูกกว่าขาย เงินเหลือ
KZM หุ้นขี้น ขายแพงกว่าซื้อ ได้ตังค์

สำหรับผมแล้ว หุ้นแต่ละไม้ มีหน้าที่ของมัน
เราเป็นแม่ทัพ เราต้องกำหนดหน้าที่ให้มัน
ไม่ใช่ปล่อยกองกำลังของเราลงไปรบ
แบบมั่วๆ มึนๆ ตัดสินใจตามเหตุการณ์เฉพาะหน้า


2. ตอนนี้ผมทำงานประจำอยู่
แต่ก็มีความฝันที่อยากจะมีอิสระภาพทางการเงินครับ
หนทางสู่ Financial Freedom ของผมก็คือ
การสะสม Asset ที่ให้ Passive income กับผม
โดยที่ passive income นั้น Cover ค่าใช้จ่าย
ของครอบครัวผม 2 เท่าเป็นอย่างน้อย
ผมถึงจะเรียกว่า อิสระภาพทางการเงิน ของผม
( ของแค่ละคนไม่เท่่ากันนะครับ
แล้วแต่แผนชีวิตของแต่ละคน )

ผมมาคิดดู การที่ผมสะสม Asset ให้มี
Passive income ก็เหมือนผมจ่ายเงินเดือน
ให้ตัวผมเอง ซึ่งเงินจำนวนนี้มันก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น
ทุกปีๆ ถ้ามันมากกว่าเงินเดือนจากงานประจำ
ของผมเมื่อไหร่ เท่ากับว่าผมมีอิสระภาพแล้ว

ผมอยากให้คุณลองหาทางจ่ายเงินเดือนให้ตัวเองดู
บางทีในวันข้างหน้า...
มันอาจจะกลายเป็นรายได้หลักของคุณก็ได้
ใครจะไปรู้...


โชคดีและมีสติในการลงทุนครับ

Thursday, October 18, 2012

0075 : Value Visions 18-10-2012


ช่วงนี้้เนตกากมากครับ
เลยต้องอัพ Blog ผ่านทาง iPhone แทน


มุมมองของผมในตอนนี้
ผมมองว่าหุ้นเป็นพาหนะเพื่อความมั่งคั่ง
เราไม่ควรยึดติดกับหุ้นที่ไม่ทำเงินให้เรา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นที่นิ่งสนิทในตลาดกระทิง
เพราะช่วงตลาดกระทิงนี้
เป็นช่วงที่เราควรจะโกยเงินเข้าพอร์ตเข้ากระเป๋า
ให้มากที่สุด เพราะโอกาสชนะมีมาก
มากกว่าไปหาหุ้นที่จะขึ้นในช่วงตลาดหมีแน่ๆ
เพราะงั้นเราจคงไม่ควรยึดติดกับหุ้นนิ่ง
ในยามที่ตลาดวิ่งแรง
เพราะจังหวะที่ตลาดมีแรงส่ง
ถ้ายังวิ่งไม่ออกแล้วจะไปวิ่งเมื่อไหร่
แล้วเมื่อไหร่คนถือจะรวย จริงไหมครับ


ราตรีสวัสดิ์ครับ : )

Wednesday, October 17, 2012

0074 : Basic KZM 2


เมื่อคราวที่แล้วผมพูดถึง Concept คร่าวๆของการเทรดแบบ KZM ไปแล้วนะครับ
คราวนี้ผมจะมาต่อในเรื่องของ " กอง A "  ซึ่งถือเป็นกองกำลังหลักของโมเดลครับ
กอง A อย่างที่บอกเอาไว้ในคราวที่แล้วว่า
กอง A มีหน้าที่ เป็นกองกำลังหลัก โดยจะรบแบบยึดครองพื้นที่ ( Zone Trading )
และก็มีหน้าที่อีอย่างก็คือ เพื่อให้เราได้ฝึก " วินัย " ในการเทรดนั่นเอง

เริ่มแรกในการ Set กอง A นะครับ
เริ่มจากการที่เราต้องรู้ก่อนว่า เรามีงบประมาณในการรบเท่าไหร่ ?
เอ๊ะ หลายคนอาจจะงงว่า งบประมาณในการรบอะไรของแก ?
งบประมาณในการรบ ก็คือ เงินในหน้าตักของเรานั่นเองครับ

สมมุติว่าเรามีเงิน 100,000 บาท
ถ้าเอามาเทรดแบบ KZM ก็จะแบ่งเงินก้อนนี้เป็น 4 ส่วน สำหรับกองกำลัง 4 กองของเรา
ก็ตกอยู่ กองละ 25,000 บาทครับ

25,000 บาท นั่นคืองบประมาณการรบของแต่ละกองนั่นเองครับ

ที่นี้เราก็เอา จำนวนเงิน 25,000 บาท
มาคำนวนดูว่า จากจุดที่ราคาหุ้นต่ำสุดไปหาสูงสุด
เราจะเอาเงิน 25,000 นี้มาเล่นอย่างไร ให้เล่นได้ตลอด
ไม่มีเงินหมดหน้าตัก ไม่มีหุ้นหมดมือ
เทรดสร้างระแสเงินสดแฝงไปอีกนานเท่านาน

เราก็แบ่งโซนสิครับ
จากราคาหุ้นตั้งแต่จุดที่เราคิดว่าต่ำที่สุด ไปหาสูงที่สุด
25,000 บาทนี้ จะซื้อหุ้นได้ทั้งหมดกี่ไม้

สมมุติได้ 100 ไม้
เราก็จะแบ่งโซนที่ราคาต่ำสุดไปจนถึงโซนสูงสุด ดังนี้ครับ
ราคา 1.01 - 1.05 บาท เราก็จะเรียกโซนนี้ว่าโซน A1
ราคา 1.06 - 1.10 บาท คือ โซน A2
ราคา 1.11 - 1.15 บาท คือ โซน A3
...ไปเรื่อยๆจนถึงช่วงราคาที่เราคิดว่าสูงสุด
( เผื่อไว้สำหรับ New High ที่เราคาดไม่ถึงสักนิดก็ได้นะครับ )

ที่ต้องแบ่งโซนก็เพื่อเป็นการเทรดแบบค่อยๆยึดครองพื้นที่ไปทีละส่วน
โดยไม่เสี่ยงครับ เรียกว่ามี Money Management นั่นเอง
เสี่ยงทีละน้อย เข้าซื้อเป็น Unit ที่เล็กๆ เวลาเราคิดผิดเราจะไม่เจ็บตัวครับ
พอถูกขึ้นมาก็ค่อยซื้อเพิ่ม เสี่ยงเพิ่ม ยังไง จริงไหมครับ


ทีนี้เวลาเราเข้าซื้อ เราก็จะเข้าซื้อ " โซนละ 1 ไม้ " ก่อนครับ
เช่น สำหรับผม ผมมักจะกำหนดไว้ว่าผมจะจะซื้อแต่ไม้กลางโซน
คือ ที่ราคาที่ลงท้ายด้วย 3 กับ 8 เช่น
ซื้อที่ 1.03 จำนวน 100 หุ้น เป็นโซน A1
ซื้อที่ 1.08 จำนวน 100 หุ้น เป็นโซน A2
ไปเรื่อยๆครับ

แล้วพอเรารับหุ้นเข้าโซน ก็ต้องมีการ Generate CashFlow
สร้างกระแสเงินสด เพื่อเป็นรายได้ให้พอร์ตใช่ไหมครับ
เราจะ Generate CashFlow โดยการขายเมื่อข้ามโซนครับ
อย่าง A1 ผมซื้อที่ 1.03 บาท ผมก็จะไปปล่อยที่ 1.13 บาท ( ปล่อยเมื่อราคาหุ้นวิ่งข้ามไปโซน 3 )

แล้วพอตลาด Swing ลงมาที่ 1.03 อีกรอบ
ผมก็เก็บหุ้นเข้าโซน A1 ใหม่
ถ้าไปที่ 1.13 ผมก็ปล่อยไปเพื่อเก็บ CashFlow
หากเจอตลาด Sideway นานๆ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่เดือดร้อนครับ


การเทรดแบบ KZM นั่น เราเริ่มต้นเทรดเมื่อไหร่ก็ได้
เพราะ ไม่ว่าหุ้นจะไปทางไหน เราก็มีแผนรับมือไว้หมดแล้ว

เช่น เราอาจจะเข้าในราคาที่สูงหน่อย
เอาสักราคา  1.88  ก็แล้วกัน โดยที่เราซื้อ 100 หุ้น
ถ้าลงไป 1.83 , 1.78 เราก็รับเพิ่มไม้ละ 100 หุ้น
หากมัน Swing ขึ้นก็เทรดตามโซนเบกระแสเงินสด
ต้นทุนของหุ้นในมือเราที่เหลือก็จะต่ำลงด้วยครับ

แล้วถ้าหุ้นลงมากๆ จนนิ่งแล้วเริ่มกลับตัว หรือ หุ้นทำท่าว่าจะวิ่ง
เราก็สามารถซื้อรวบโซนบนๆไว้ ในราคาต่ำ ก็ได้ครับ
เช่น ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.03 เราก็ซื้อ 1.03 รวบไว้เลย 10 ไม้
ก็เป็นจำนวน 1,000 หุ้น สำหรับเล่นในโซน A1 - A10 ได้เลยครับ
นี่ก็เป็นเทคนิคลูกเล่นอีกแบบของ KZM ครับ


แล้วพวกกระแสเงินสดที่เราทำได้จาก Zone Trading
พอได้มากๆเข้าเราก็จะเอามาขยายโซนครับ
เช่น A1 ปกติเราซื้อไม้ 100 หุ้นที่ 1.03
เราก็จะเอากระแสเงินสดมาซื้อเพิ่มที่ 1.02 หรือ 1.04 อีกไม้ละ 100 ก็ได้ครับ
ที่นี้พอเรามีหุ้นครบทุกช่องในโซน เช่น
1.01 ไม้ละ 100
1.02 ไม้ละ 100
1.03 ไม้ละ 100
1.04 ไม้ละ 100
...   เราแทบจะสร้างกระแสเงินสดได้ทุกวันเลยครับ
จากนั้นก็เอากระแสเงินสดที่ได้ มาเพิ่มจำนวนหุ้นในแต่ละช่อง
จาก 100 หุ้น ก็เพิ่มเป็น 200 , 300 , 400 , 1,000 , 10,000
ลองจินตนาการดูว่า CashFlow ที่ได้มันจะขนาดไหนกันครับ ?
เรียกได้ว่ากอง A จะกลายเป็นเครื่องปั้มเงินหลักของเราเลยทีเดียวครับ

 

กอง A เท่าที่นึกออกก็มีเท่านี้อยู่นะครับ
ถ้านึกอะไรออกก็จะมาเพิ่มเติมในตอนหน้าครับ
ตอนหน้าจะมาพูดถึง กอง B คู่ กองกำลังป้องกันกอง A ครับ

Wednesday, October 10, 2012

0073 : Basic KZM



วันนี้ผมจะมาพูดถึงการเทรดแบบ KZM แบบ Basic นะครับ
ซึ่งเจ้าตำหรับการเทรดแบบนี้ก็คือพี่ต้าน Mudley Group นั่นเอง
ซึ่งผมเองก็อาศัยเรียนรู้จากสิ่งที่พี่ Mudley เค้าได้เผยแพร่ไว้
ตาม Pantip หรือใน Blog ของพี่เค้าครับ

การเทรด KZM นั้น หากเรามองผิวเผินอาจจะดูเหมือนยุ่งยาก
เพราะมีตั้ง 4 กอง แถมยังให้แบ่งการเข้าซื้อเป็น Unit ย่อยอีก
ซึ่งอันที่จริงแล้วหากเราตั้งใจมองและทำความเข้าใจดีๆ
เราจะพบว่าการเทรดแบบนี้ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่เราคิดเลยครับ
ตรงกันข้าม มันกลับง่ายมากๆด้วย ง่ายจนผมเอาไปสอนแฟนผม
เค้าเข้าใจ concept ใน 5 นาทีด้วยซ้ำ

ก่อนอื่นต้องแนะนำก่อนว่า KZM คืออะไร
KZM ย่อมาจาก Killer Zone Model by MudleyGroup ครับ ยาวม่ะ : )
อันที่จริงมันคือการเทรดแบบ Fraction Trading ซึ่งพี่ Mudley
เค้าอธิบายว่ามันคือ "การต่อสู้โดยสัดส่วน"
เหมือนตลาดหุ้นเป็นสงคราม
ตัวนักลงทุนแต่ละคนก็คือแม่ทัพ
เงินของนักลงทุนแต่ละคนก็คือกองทัพ
การต่อสู้โดยสัดส่วน ็คือ การแบ่งเงินของเราเป็นส่วนย่อยๆ
เหมือนเป็นกองทัพเล็กๆ เพื่อส่งไปต่อสู้กับกองทัพของคนอื่น
( เช่น นลท. สถาบัน , นลท. ต่างประเทศ ) ในสถานการณ์ต่างๆ
โดยเงินที่เราแบ่งไว้เป็นส่วนย่อยๆ จะเรียกว่า "กอง"
แต่ละ "กอง" ก็จะมีหน้าที่แตกต่างกันไป

พี่ Mudley เค้าจะให้แบ่งเงิน เป็น 4 กอง เท่าๆกัน นะครับ ดังนี้ครับ
กอง A   เป็นกองกำลังหลัก ( Zone Trading )
กอง B   เป็นหน่วยรบคุ้มกันกอง A ( Day Trade )
กอง C   เป็นหน่วยรบแบบกองโจร ( Technical Trading )
กอง D   เป็นหน่วยอารักขากองโจร ( Day Trading )

โดยทั้ง 4 กอง ก็จะมีหน้าที่ต่างกัน บทบาทต่างกัน
และแต่ละกองยังช่วยฝึกฝน Skill ในการเทรดให้กับเรา ดังนี้ครับ

กอง A ช่วยฝึกเรื่องวินัยในการเทรด ( เทรดตามโซน )
กอง B เป็นการฝึกสัญชาติญาณในการเทรด ในการหาจุดออกทำกำไร ใน Zone
กอง C เป็นการฝึกอ่านกราฟ เทคนิคคัล Skill รวมทั้ง Trading Skill
กอง D เป็นการฝึกสัญชาติญาณในการเทรด ในการหาจุดออกทำกำไร

ครั้งต่อไปผมจะมาพูดเจาะลงไปในแต่ละกอง ทีละกองนะครับ

อ้อ ผมลืมพูดถึงเรื่องวัตถุประสงค์ของ KZM
KZM นั้นพี่ต้ามเค้าออกแบบมาเพื่อให้อยู่รอดในตลาด
แม้ว่าจะเจอสถานการณ์ร้ายเพียงใด ก็จะสามารถอยู่รอดได้
ออกแบบมาเพื่อสร้างกระแสเงินสดครับ
แล้วก็เอากำไรในรูปกระแสเงินสดเนี่ย ไปต่อยอดอย่างอื่น
พี่ต้านให้ใช้แค่ครรึ่งนึงของกำไร ไปลงทุนแบบอื่นๆที่หวังผลตอบแทนมากๆ
อาจจะ KZM กับหุ้นปั่น ( เรียกว่า Virus Trading ) เพื่อเร่งกระแสเงินสด
ไม่ก็ Bet Unexpect Event กับพวก Call หรือ Put Option
หรือเก็งกำไรอย่างอื่นที่เราถนัดครับ เพราะถึงจะพลาด เราก็จะพลาดแค่กำไร
ไม่เกี่ยวกับทุนของเราครับ เพราะเราเอาแค่กำไรส่วนนึงมาเสี่ยง

นี่คือ KZM Basic Level 1 นะครับ
ซึ่งจริงๆแล้วพี่ต้านให้เทรดกับพวก ETF เท่านั้น
( แต่ผมแอบเอามาใช้กับหุ้น แหะๆ )
สาเหตุที่ให้เทรดกับ ETF ก็เพราะว่า ETF โอกาสเจ๊งน้อยมากๆๆๆ
ไม่ว่าตลาดจะถล่มยังไง หุ้นเจ๊งไปตัว ก็จะมีตัวอื่นที่เข้ามาใน ETF แทน
( เช่น SET50 เจ๊งไปตัวก็เหลือ 49 เสร็จก็มีตัวอื่นมาแทนให้ครบ 50 )
Level อื่นเด๋วค่อยพูดถึงก็แล้วกันนะครับ ผมก็เรียนถึง Level 2 อยู่เบยยยย > <

Sunday, October 7, 2012

0072 : Value Visions 07-10-2012


สวัสดีครับ

ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าตลาดบูมมาก
ยังไงก็เทรดกันอย่างระมัดระวังด้วยนะครับ

สัปดาห์ที่ผ่านมา
ผมปรับโมเดล DSM นิดหน่อย
ซึ่งเคยสงสัยตะหงิดๆในใจ
เกี่ยวกับ ส่วน 8 ของโมเดล

ที่ผ่านมาจะเข้าใจว่า DSM นั้น
มีหัวใจของโมเดลอยู่ที่การ ขายแพงกว่าซื้อ
ง่ายๆก็ขายแล้วไปรับคืนต่ำกว่า 5 ช่อง
หรือไม่ก็รอหุ้นกลับตัว
(จริงๆมีการรับคืน 3 แบบนะครับ)

แล้วส่วน 8 นั้น
ที่ผ่านมาผมก็รับคืนที่ 5 ช่องเช่นกัน
แบบนี้ก็เท่ากับว่า เราได้กำไรแค่ 5 ช่อง
ผมก็เลยตะหงิดๆใจว่า แล้วจะกำไรเยอะๆยังไง
ก็เลยหาคำตอบจากเวบบอร์ดส่วนตัวของคุณเด่นศรี
ซึ่งผมจำได้ว่าเคยอ่านผ่านตาแว๊บๆ
เลยเข้าไปอ่านอีกครั้งนึง
ไล่อ่านหลายกระทู้เลยครับ
ได้ความว่า DSM นั้นคือการพาหุ้นไปให้ไกล
แล้วเปลี่ยนส่วน 8 ให้เป็นเงินสด
แล้วกลับมารับหุ้นในราคาถูกที่สุด
ง่ายๆก็ตั้งไว้ว่าจะรับคืนส่วน 8
เมื่อราคาลงมา 100 ช่องก็ได้(ถ้าคิดอะไรไม่ออกนะ)
ผมก็เลย Get ว่า ที่ทำอยู่นั้นมันผิด
เลยเปลี่ยนใหม่ คือ ส่วน 8 ต้องรอรับตอนหุ้นถูกๆ
แม้จะรอนาน แค่ก็สามารถใช้ "ช่องว่าง"
"แปลงร่าง" ไปเล่นตัวอื่นไปพลางๆได้

DSM มีลูกเล่นหลายแบบจริงๆ
ยิ่งมีหุ้นหลายๆตัวยิ่งสนุก เพราะได้ตังค์ทุกวัน
ผมเลยชอบเทรดตามโมเดลครับ
ไม่ว่าจะ DSM หรือ KZM
เพราะเหมือนเราเล่นตามแผน
ตามเกมที่เรากำหนด
ไม่ใช้ไปดิ้นตามเกมที่เค้ากำหนด
พอโดนเค้าตบก็ตายไรงี้ : )

Friday, September 28, 2012

0071 : Value Visions 28-09-2012


ไม่ทันไร Q3 ก็จะผ่านไปแล้ว
ปีนี้เป็นปีที่ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนดีอีกปีนึงครับ
SET วิ่งขึ้นมา 27% ได้มั๊ง

ส่วนผลตอบแทน Port ของผมนั้นเน่าเหลือเกิน
สาเหตุก็คือในช่วงต้นปี ตัดสินใจพลาดไปหน่อยครับ
ถือหุ้นน้อยตัว และแถมไอ้น้อยตัวนั้น
ก็ดันไม่ Rally ไปกะ SET (แม่นเหลือเกิน)
เสียซะนาน จนตอนนี้ก็ยังนิ่งอยู่
(แต่ผมทยอยปล่อยไปเยอะแล้ว)

ผลตอบแทนในปีนี้ของผมอาจจะไม่มาก
และแพ้ตลาด แต่ก็ไม่ได้ขาดทุนอะไร
แต่สิ่งที่ได้นั้นก็คือประสบการณ์ที่มากขึ้นครับ

ปีนี้ Learning Cruve ของผม
ชันมากขึ้นเยอะเลยครับ
จากปีที่แล้วที่แทบไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่
ขี้เกียจโคตรๆ เพราะอะไรๆก็ดูง่ายไปหมด
แต่พอปีนี้พอร์ตนิ่ง ผลตอบแทนน้อย
ก็รู้ตัวว่าเราคงผิดอะไรสักอย่าง
ต้อง Active กว่าเดิมให้มากๆ
ก็เลยหาความรู้อย่างจริงๆจังๆ
จากที่เล่นหุ้นแบบมั่วๆ
เข้าเทรกแต่ละที ตามอารมณ์และทรงผมไรงี้
ก็เริ่มศึกษาโมเดลเทรด
เพื่อตัดอารมณ์ออกจากการตัดสินใจ
แล้วก็เทรดแบบมีMoney Management
จำกัดความเสี่ยงด้วย positions sizing
แล้วก็เริ่มมี Trailing Stop แล้วครับ
จากเดิมที่ทนดูเงินหายแบบมึนๆ

ผมว่าสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในปีนี้มีค่ามาก
มากกว่ากำไรที่ได้น้อยในปีนี้เยอะเลยครับ
ปีหน้าคงอยู่ในตลาดได้ดีขึ้นแน่นอน

ส่วนปีนี้ก็ใช้ว่าจะยอมแพ้นะครับ
เหลือเวลาอีก 2 เดือน ก็สู้เต็มที่ึครับ : )

Thursday, September 27, 2012

0070 : Value Visions 27-09-2012



เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา  มีเพื่อนสนิทของผมคนนึง
โพสรายได้รายจ่ายประจำวันลงใน Group ใน Facebook
ในภาพนั้นรายได้หักรายจ่ายแล้ว จะเหลือเงินสุทธิอยู่ 50 บาท ต่อวัน
ภาพนี้ก็เลยกลายเป็นประเด็นสนทนาในวันนั้นไป
ผมก็บอกยังดีนะที่เหลือ 50 บาท
เดือนนึงก็ตกอยู่ 1,500 นะโว้ย!
บางคนไม่เหลือแถมยังต้องรูดบัตรเครดิตหมุนหนี้ไปมาอีกนะ
เพื่อนก็บอกจริงๆแล้วเหลือ 50 บาทต่อวันไม่พอหรอก
เพราะต้องมีค่าภาษีสังคม เช่นงานบุญ งานแต่ง อะไรอีกจิปาถะ

ผมก็เลยคิดว่า การทำงานแต่ไม่เหลือเงินเก็บนี่มันช่างโหดร้าย
เพราะมันเหมือนเราเอาเวลา เอาร่างกายของเรามาให้บริษัทเช่า
แต่พอรับรายได้มา เราก็ดันจ่ายออกไปหมดซะนี่
แบบนี้ ถ้าเป็นการค้าเรียกว่า ขายเท่าทุน!
อันที่จริงขาดทุนเสียด้วยซ้ำ ถ้านับค่าเสื่อมทางกายและสุขภาพจิตนะ

จริงอยู่บางทีเราอาจจะได้ประสบการณ์ หรือ Skill จากการทำงานประจำ
ไม่ก็ได้ Connection จากคนที่เราติดต่อประสานงาน นั่นก็อีกเรื่องนึง

แต่การทำงานแล้วไม่เหลือเงินเก็บ ใช้แบบเดือนชนเดือนนี่ผมมองว่า
แม่งโคตรไม่คุ้มเลย ถ้าทำไปๆ เกิด Crisis มา บริษัทปลดคน
เราไม่มีเงินเก็บ เท่ากับว่าเรามีแต่ตัวเลยนะครับ

แต่ถ้าเราทำงานแล้วเหลือเก็บทุกเดือน
เราก็ยังมีเงินมาตั้งตัว ตั้งต้นธุรกิจของตัวเอง
หรือไม่ก็มีเงินไว้ใช้จ่ายในช่วงเวลาที่กำลังหางานใหม่ได้
ไม่ก็ออมไว้ใช้ยามแก่ยามเฒ่าก็ได้เอ้า!

บางทีเราก็ต้องหันมามองตัวเงินบ้าง
ว่าแต่ละเดือน รายได้ หัก ค่าใช้จ่าย แล้วเนี่ย
เหลือกำไรที่เป็นของเราจริงๆกี่บาท ?
หรืออันที่จริงแล้วทุกวันนี้เราขาดทุนอยู่...

Wednesday, September 26, 2012

0069 : Value Visions 26-09-2012

 
 
สวัสดีครับ ,

ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ
ช่วงที่หายไปก็ไม่มีอะไรมากครับ
หนีไปฝึกวิชามา อ่านตำราบ้าง หัด Set Model เทรดบ้าง
เรียกได้ว่าตอนนี้ผมก็เทรดเป็นระบบกว่าแต่ก่อนเยอะเลยครับ


พอร์ตของผมตอนนี้ก็เน้นสร้างกระแสเงินสดครับ
ใช้แนวทาง DSM ของพี่เด่นศรี
โดยที่เน้นสร้างกระแสเงินสดก็อย่างที่พี่ Mudley เคยสอนไว้ว่า
เราควรสร้างพอร์ตที่ทนทานต่อสถานการณ์การที่เลวร้ายที่สุด
และสร้างกระแสเงินสดได้สม่ำเสมอ
โดยใช้ประโยชน์จากความผันผวน
จากนั้นก็นำกระแสเงินสดนั้นมาลงทุนต่อ
เพื่อขยายพื้นที่ Asset ของเรา ( ยึดครองพื้นที่ให้มากขึ้นนั่นเอง )

ตอนแรกผมเลือก KZM ในการเทรดเพื่อสร้าง Cash Flow
แต่พอได้มาศึกษา DSM อย่างจริงๆจังๆ ก็พบว่า...
กอง A ของ KZM นั้นมันก็คือ ส่วนหนึ่งของ DSM นั่นเองครับ
กอง A ของ KZM จะคล้ายๆ ส่วน 2 ใน Formation 3-0-2-8 ของ DSM
ผมก็เลยหัดเทรดแบบ DSM ซะเลย

ถ้าพูดตามหลักการทำสงคราม
DSM นั่นเน้นที่การจัดกระบวนทัพ
สร้างสมดุลให้พอร์ต แปรเปลี่ยนตามสถานการณ์
หุ้นขึ้นก็กอดหุ้น + กล้าซื้อหุ้น
หุ้นลงรีบทิ้ง + กล้าขาย เรียกได้ว่าไม่สวนตลาด

ส่วน KZM กอง A นั้นผมมองว่า
เป็นการเทรดแบบเน้นการตั้งรับรอจังหวะสวนกลับ
คือสู้ด้วยจำนวนที่น้อยที่สุด รอจังหวะที่ได้เปรียบก็ชิงโจมตี
( ซื้อรวบ ไม้แรกๆกำไรน้อย ไม้หลังๆกำไรเยอะ )

แต่ตั้ง 2 โมเดล นั้น
ต่างก็ใช้ประโยชน์จากความผันผวน Swing ตัวของราคาหุ้นทั้งคู่


ที่นี้พอพอร์ตเราสร้างกระแสเงินสดออกมาได้สม่ำเสมอทุกวันๆ
เราก็สามารถนำกำไรนั้นไปลงทุนต่อ
ถ้าแนวพี่ต้าน MudleyGroup ก็จะให้เอาครึ่งนึงของกำไรมาเสี่ยง
เพื่อลุ้นผลตอบแทนที่มากขึ้น หรือไม่ก็ Bet แบบ Un-expect
เช่น ซื้อ Call Option ไว้แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก
ถ้าตลาดปรับตัวขึ้นก็กำไรเละเทะกันไป

ส่วนทางฝั่งของพี่เด่นศรี ก็จะเน้นให้เอากำไร 50% มาขยายพอร์ต
อาจจะซื้อหุ้นตัวเดิมเพิ่มหรือขยายไปเทรดหุ้นตัวใหม่
ส่วนอีก 25% นั้นจะเก็บเป็น Cash ไว้รองรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
หรือเอาไปลงุทนแบบอื่นๆ เช่น ซื้อที่ดิน , บ้าน , ตึกแถว ,
สลากออมทรัพย์ , ประกันชีวิต , เงินฝาก ฯลฯ
ส่วนอีก 25% ที่เหลือ ก็จะเก็บไว้เป็นค่าบริหารพอร์ต (จ่ายให้ตัวเอง)


สรุปนี่คือหลักการบริหารเงินของผมอย่างคร่าวๆในตอนนี้ครับ
1. เทรดเพื่อสร้าง Cash Flow
2. จากนั้นก็เอา Cash Flow ที่ได้มาไปขยายพอร์ต ( 50% ของ Cash Flow )
หรืออาจจะเก็งกำไรบางส่วน โดยยืมกลยุทธ์ KZM กอง C , D ของพี่ Mudley มาใช้ครับ
3. 25% ของ Cash Flow เก็บไว้เป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน
4. 25% ที่เหลือของ Cash Flow เป็นค่าบริหารพอร์ต จ่ายให้ตัวเอง
เพื่อนำไปพักผ่อน ท่องเที่ยว หรือ หาความรู้ ครับ


วันนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ
หวังว่าทุกท่านจะได้สาระจาก Entry นะครับ
( ปกติผมไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่ เน้นบ่น กะ เน้นเกรียน ซะส่วนใหญ่ ฮ่าๆ )

Saturday, July 28, 2012

0068 : Value Visions 28-07-2012


ช่วงนี้ฝนตกตลอดเวลาเลยครับ
อยู่บ้านก็แทบไม่ได้ออกไปไหน
นอนอ่านหนังสือธรรมะบ้าง อ่านความรู้เกี่ยวกับ DSM
แล้วก็เอามาปรับปรุงโมเดลเทรดในจุดที่เราสงสัย
แล้วก็เผลอหลับทั้งวันครับ วันหยุดนี่มันช่างวิเศษจริงๆ

การลงทุนตามโมเดลเทรดแบบ KZM ก็ดี DSM ก็ดี
ผมว่ามันถูกจริตกับผมมากกว่าแบบอื่นๆ
เพราะผมชอบการวางแผนล่วงหน้า

อีกอย่างก็ขี้เกียจอ่านงบด้วย เพราะสุขภาพไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่
ทั้งปวดหลัง ทั้งสายตาเอียง นานๆอ่านทียังพอไหว
หรือจะให้เฝ้าจอเทรดตามกราฟ ตามเส้น นี่ก็ยังไม่มีเวลาขนาดนั้น
เพราะต้องรับผิดชอบงานประจำ แต่ถ้าอนาคตลาออกจากงานก็เจอกันแน่ๆ

เพราะฉะนั้นผมจึงพยายามศึกษารูปแบบที่ถูกกับผมมาเสมอ
ผมว่านี่คือสิ่งสำคัญ เราควรทำสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ถนัด และเราจะทำได้ดี
หรือต่อให้เรายังไม่เก่ง เราก็มีใจที่อยากจะพัฒนาตัวเราให้เก่งได้

แล้วคุณล่ะ เจอแนวทางที่ชอบแล้วหรือยัง ?

Tuesday, July 24, 2012

0067 : Value Visions 24-07-2012



สวัสดีครับ

ผมไม่ได้อัพ Blog นานมากเลยครับ
เนื่องจากขัดสนทางอินเตอร์เน็ตครับ
Wi-Fi ของที่ทำงาน ที่สัญญาณเคยมาถึงที่ห้องผมนั้น
พออุปกรณ์เสีย ช่างดันเปลี่ยนที่ตั้ง
สัญญาณก็เลยมาไม่ถึงห้องผมซะงั้น

ช่วงนั้นผมจึงเหมือน Offline ไปเลย
ได้แต่เล่น internet ผ่าน iPhone เท่านั้นครับ
เทรดหุ้นก็แบบเทรดตามโซน
ไม่ได้ดูกราฟ หรือ โหลดงบมาอ่านแต่อย่างใด
แต่ก็ทำให้จิตใจผมสงบมากทีเดียว

อย่างที่เคยบอกว่าผมเทรดระบบ KZM
ขึ้นก็ขาย ลงมาในโซนก็รับกลับเข้าโซนตามระบบที่เราวางไว้
ช่วงแรกๆ อาจจะยังสร้างกระแสเงินสดไม่ค่อยได้
เพราะอยู่ในช่วงวางระบบ
แต่พอระบบเราเข้าที่ หุ้นครบโซนแล้ว
เราก็จะสามารถสร้างกระแสเงินสดได้แทบทุกวันเลยทีเดียวครับ

แต่ช่วงนี้ก็กลับมาเล่น internet ได้อีกครั้งนึงครับ
โดยการใช้ iPhone เป็น Wi-fi Hotspot ครับ
ก็จะพยายามแชร์สิ่งที่เป็นประโยชน์ลง Blog ให้มากขึ้นครับ

อย่างตอนนี้ผมก็กำลังทำสรุปการเทรดแบบ KZM อยู่
หากเสร็จสมบูรณ์ก็จะนำมาอัพลง Blog
ให้เป็นเหมือนไกด์บุ๊คของ KZM แบบของผมครับ
เพราะมีเพื่อนๆผมหลายคนสนใจการเทรดเป็นระบบ
แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ถ้าผมเขียนเสร็จ
น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่อยากเรียนรู้ครับ

แต่ช่วงนี้นี่งานประจำประดังประเดเข้ามาเยอะเหลือเกิน
เลิกงานที 3 ทุ่ม กว่าๆ กินข้าว อาบน้ำก็แทบจะหมดแรง
อ้อ เหลือแรงไว้วางแผนเทรดของวันรุ่งขึ้นนิดหน่อย : )

ถ้างานเบาลงกว่านี้ ไกด์บุ๊คน่าจะเดินหน้าได้ไวกว่านี้ครับ

อีกอย่างช่วงนี้ผมแบ่งเวลามาศึกษาระบบ DSM อีกระบบด้วยครับ
ซึ่งดีไม่แพ้ KZM เลย อันที่จริง ถ้าเข้าใจระบบแล้ว มันดีกว่าด้วยซ้ำ

KZM จะเข้าใจง่ายกว่า สอนคนอื่นง่ายกว่า เทรดง่ายกว่า
เพราะ KZM สร้างกระแสเงินสดจาก Capital Gain
คือ ซื้อโซนถูก ไปขายโซนแพง นั่นเองครับ

ส่วน DSM นั้น จะเป็นการ ขายโซนแพง และไปรับซื้อที่โซนถูกกว่า
และก็มีการปรับจุด Short Against Port อยู่เป็นระยะ เมื่อหุ้นวิ่งขึ้นมาแรง
( ถือเป็นจุด Trialing Stop ไปในตัว )


ซึ่งต้องยอมรับว่า อาจารย์ผู้เปิดเผยระบบนี้สุดยอดมากทั้ง 2 คนเลยครับ
ทั้ง อ. Mudley และ อ. เด่นศรี ขอคารวะจากใจเลยครับ
ที่ช่วยเปิดมุมมองทางการลงทุนเพื่ออิสระภาพทางการเงินให้แก่ผม

Tuesday, June 12, 2012

0066 : Value Visions 12-06-2012



สวัสดีครับ

วันนี้ตลาดถูกลากโดย Prop & กองฯ
ดันขึ้นมาจนปิดบวกในท้ายที่สุด
และคืนนี้ตลาดฝั่งยุโรป อเมริกา ก็เขียวอีก
พรุ่งนี้หุ้นไทยอาจจะไปต่อก็ได้
ผมเดาล้วนๆนะ ซึ่งมักจะเดาผิดซะส่วนใหญ่ด้วย
แต่จะเดาถูกหรือผิด ไม่ค่อยมีผลกับการเทรดของผมเท่าไหร่
เพราะผมมีแผนวางไว้อยู่แล้ว
ว่า หุ้นลงจะทำอะไร หุ้นขึ้นจะทำอะไร
ก็ตามน้ำกันไป ไม่ต้องเครียดกับมันเลยสักนิดครับ


ช่วงนี้อาการป่วยผมดีขึ้นมากแล้วครับ
ต่อมน้ำเหลืองยุบไปนิดหน่อย
ส่วนพวกโรคพนักงานออฟฟิศนั้น ก็มีบ้างนิดหน่อยครับ
บางทีก้มทำงานนานๆไม่รู้ตัวก็มีเมื่อยต้นคอบ้าง
อันที่จริงผมลองไปรักษาทางแพทย์สมุนไพร
แล้วก็นั่งภาวนา วิปัสสนา ช่วยด้วยครับ
จากหลวงปู่ฤาษีที่วัดป่าแห่งนึง

ท่านสอนพวกลมปราณ , การสร้างการหมุนเวียนของธาตุทั้ง 4 ให้
ท่านว่าร่างกายผมนั้นติดลมปราณติดขัดมาตั้งแต่เด็ก
เลือดก็เป็นพิษ ทำให้ไทรอยด์โตนิดหน่อย
เส้นประสาทก็ตึงไปหมด เป็นเหตุให้ปวดหลังปวดเอว เมื่อยคอ
ก็ให้ผมฝึกธาตุ ให้ลมปราณหมุนเวียนครับ
ท่านบอกว่ามีโอกาสหายดี 100% แน่นอน
แต่ต้องใช้เวลานิดนึง เพราะมันสะสมมาตั้งแต่เด็ก
ก็สู้กันต่อไปครับ


ช่วงนี้ผมเลิกโหมงานหนักแล้วครับ
เลิกงาน 4 โมงครึ่ง กลับห้อง ออกกำลังกาย พักผ่อนครับ
ใครจะว่าอะไรก็ช่าง ผมถือว่าเวลางานเราก็เต็มที่แล้วครับ
แต่ถ้าเราโหมงานจนป่วย ไม่เห็นมีใครดูแลเราเลยครับ
เรานั่นแหละที่ต้องดูแลตัวเราเอง

เพราะงั้นผมว่าเราควรดูแลตัวเองให้ดีๆครับ
Work Life Balance สำคัญมากครับ

ถ้าคุณไม่สุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วยไข้
อย่างน้อยคนที่รักคุณก็หมดห่วงไปเรื่องนึง


ขอให้ทุกท่านมาผ่านมาอ่าน มีสุขภาพแข็งแรงนะครับ  : )

Tuesday, June 5, 2012

0065 : Value Visions 05-06-2012


สวัสดีครับ...
ขอลงบันทึกย้อนหลังหน่อยนะครับ
พอดีช่วงนั้นไม่มี Internet ใช้เลยได้แต่บันทึกไว้ในคอมฯครับ

ย่างเข้าเดือนฮ๊ก ฝนก็ต๊กพรำๆ
เดือนหกแล้วหรือเนี่ย ไวโคตรๆ
ผลตอบแทนของพอร์ตยังไม่ไปถึงไหนเลย
คงต้องมีการปรับกลยุทธ์กันสักหน่อยแล้วล่ะครับ

อาจต้องย้อนมามองดูตัวเองว่า เราทำอะไรพลาดไปหรือเปล่า
ไม่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่สมควรทำบ้างไหม ( อันนี้แหละเยอะ! )


ที่ผ่านมา Trade แบบ KZM ก็ทำได้ดีกับ Virus Trade กับหุ้น JAS ครับ
แต่มาพลาดช่วงที่ตลาดไหลลงช่วงนี้แหละครับ
คือเห็นตลาดไหนลงก็รับเข้าโซนเรื่อยๆ
รับแบบรับทุกช่อง ทีนี้มันก็เกิดอาการเงินหมดน่ะสิครับ
ต้องกลับมาวางกลยุทธ์รับเข้าตามโซนใหม่
แล้วก็รอเข้ากอง C มาเล่นเป็นกอง A extra


อันที่จริงพี่ Mudley แกก็บอกว่าเวลารับให้รับเข้าโซนทีละไม้ก่อน
พอเรามีหุ้นคุมโซนอยู่ในจำนวนโซนมากพอค่อยรับโซนล่างๆมาเข้าตามช่อง
แล้วพอรับตามช่องหมดทุกช่องก็ค่อยเพิ่มจำนวนหุ้นในแต่ละโซน

แต่ไอ้เราก็ดันทำข้าม Step ไปหน่อย
จำไว้เป็นบทเรียนแล้วกันเนอะ >_<

Tuesday, May 22, 2012

0064 : Value Visions 22-05-2012


" ตลาดหุ้นมีโอกาสให้เราเสมอ "

ผมจำไม่ได้ว่าผมอ่านประโยคข้างบนนี้จากหนังสือเล่มไหน
หรือ Twitter ของใคร แต่ว่ามันโคตรจริงเลยครับ

งานหลักของนักลงทุนบางทีอาจไม่ใช่การซื้อขายหุ้น หรือหาหุ้นเด็ด
แต่มันคือ " การรอคอย " ต่างหาก
รอคอยจังหวะที่เหมาะสม
คอยจังหวะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมา
แต่นั่นแหละ มันไม่ง่ายเลย
ตอนมีเงินสดในมือเยอะๆเนี่ย เราจะกลัวตกรถมากเป็นพิเศษ
รีบเข้าซื้อไวเกินไป สุดท้ายก็ได้ไปเที่ยวดอยเสียพักใหญ่ๆ

อันที่จริงสิ่งที่ต้องฝึกฝนให้มากๆก็คือ
จิตใจ และ Money Management มากกว่า
จิตใจช่วยให้เรารอคอยจังหวะ โอกาสเหมาะๆ
ส่วน Money Management ก็จะช่วยให้เราเจ็บตัวน้อย
ในยามที่เราอาจจะคิดผิดไป

ช่วงนี้พอร์ตของผมก็ยังทรงๆ
( อันที่จริงทรุดไปนิดหน่อย )
แต่ก็ต้องดูต่อไป ว่าจะกลับมาอย่างไร ^ ^

Sunday, May 20, 2012

0063 : Value Visions 20-05-2012

หลังจากกลับมาจากทริปลาพักผ่อน
ก็ไม่ได้มาอัพ Blog เลยครับ เนื่องจากป่วย...
ออดๆแอดๆ ครับ ทำให้จิตตก เครียดไปพักใหญ่ๆ
ดีที่ได้กำลังใจจากพ่อแม่ แฟน เลยทำให้ผ่อนคลาดไปบ้างครับ
ช่วงนี้เข้าออกโรงพยาบาลประจำ
ก็คือต้องไปให้หมอตรวจอาการปวดหลัง เมื่อยต้นคอ
กินยาเยอะแยะไปหมดเลยครับ
ทำให้ผมรู้ซึ้งเลยว่า สุขภาพแม่งโคตรสำคัญเลย
ช่วงที่ป่วยเนี่ย ต่อให้มีเงินทองเท่าไหร่ก็ไม่เอา
กูอยากหายป่วยมาก!


ป่วยครั้งนี้ผมได้บทเรียนชีวิตอีกหลายบทเลยครับ

สุขภาพสำคัญที่สุด
นอกจากสุขภาพร่างกายของเราแล้ว...
สุขภาพของคนที่เรารักก็สำคัญไม่แพ้กัน


ป้องกัน ง่ายกว่ารักษาเยอะเลย


ชีวิตเราเปราะบางมาก
ไม่หายใจก็ตายแล้ว
ต่อให้รวยหมื่นแสนพันล้านก็เอาติดตัวไปไม่ได้
สร้างบุญสร้างกุศลไว้เยอะๆดีกว่า


วันสุดท้ายของชีวิตเรา วันไหนไม่มีทางรู้
อยากทำอะไรรีบทำ
รีบตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ให้มากที่สุด
อยากบอกรักใครให้รีบบอก


และอย่าประมาทในการใช้ชีวิต...



ขอให้ทุกท่านและคนที่ท่านรักมีสุขภาพดีครับ

Friday, April 27, 2012

0062 : Value Visions 28-04-2012


วันนี้ขออัพ Blog ไวหน่อยครับ
จะออกเดินทางเย็นนี้แล้ว หลังจากนี้คงไม่ได้อัพอีกหลายวัน

เมื่อก่อนเที่ยงก็ตัดสินใจไปหาหมอมาอีกรอบครับ
โดยหมอท่านนี้ก็ตรวจต่อมน้ำเหลืองที่คอผมแล้วก็บอกว่า
ไม่มีอะไร ไม่ต้องกังวล ไม่ใช่มะเร็งหรือเนื้องอกอะไร
เพราะมันไม่ได้แข็งอะไร แล้วยาที่หมอคนเดิมให้มาก็อ่อนไปนะ
ก็ให้ยาใหม่มา ผมก็โล่งไปไปเลย เที่ยวได้อย่างสบายใจแล้ว
แต่ถ้ายังไม่ยุบจริงๆก็อาจจะต้องไปตรวจอีกรอบครับ
แต่นั่นมันก็เรื่องของอนาคตล่ะเนอะ สู้กันต่อไปนะชีวิต!

เดี๋ยวสักพักคงจะต้องไปจัดกระเป๋าแล้วครับ
แต่ขอพูดถึงเรื่องการตัดสินใจหน่อย
เทรดเดอร์กับการตัดสินใจนั้นเป็นของคู่กันเลย
คือเทรดเดอร์นั้นบางทีก็ต้องตัดสินใจไว แล้วก็แม่นยำ
( ถ้าคิดจะหาจังหวะทำกำไรบ่อยๆ
แต่ Jessie Livermoor เองก็ไม่ได้เก็งกำไรบ่อยๆนะ )
ส่วน Investor นั้นตัดสินใจช้าหน่อยก็ได้
(เพราะต้องมีความอดทนในการรอจังหวะสูง)
แต่ความแม่นยำต้องอยู่ในระดับแม่นยำมากๆถึงมากสุดๆ

การเทรด KZM 4 กอง นั้น มันช่วยฝึก 3 skill ให้เรา คือ
money management , สัญชาติญาณ และ เทคนิคเคิล
เมื่อวานช่วงที่ TDEX ลงมา 8.58 ผมก็ตะหงิดๆใจ
จะเอาไปซื้อแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพราะส่วนนึงก็ทำงานไปด้วย
มองจอไปด้วย ทำให้พลาดโอกาสไป ผมว่าการที่เราหัดเทรด
สัญชาติญาณมันก็มาให้เราจับทางเรื่อย ซึ่งคราวต่อไปเราต้อง
จับมันให้ได้ ไม่ใช่ว่าปล่อยให้มันผ่านไป  อันที่จริงถ้าผมเคาะซื้อ
ผมก็เคาะซื้อแค่ Unit เล็กๆ เท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีสาระสำคัญอะไร
กับพอร์ต แต่ผมก็ปล่อยมันไป คราวหน้าไม่พลาดอีกแล้ว ฮึ่มๆ


ก็ขอลาทุกคนที่หลงมาอ่านตรงนี้ก่อนนะครับ ^ ^
ขอให้ทุกท่านโชคดีและ "มีสติ" ในการลงทุนนะครับ

แล้วพบกันใหม่ครับ
ร้อนกายได้แต่อย่าร้อนใจเน้อ  : )

0061 : Value Visions 27-04-2012


วันนี้วันศุกร์...
ผมทำงานวันสุดท้ายก่อนที่จะหยุดยาวหนีไปพักร้อน
( หรือหนีไปเจอร้อนหว่า ) คือผมจะไปเที่ยวทะเลสักหน่อย
กลับมาก็ปลายสัปดาห์โน่นครับ
ช่วงที่อยู่เกาะก็คงเทรดหุ้นผ่านไอโฟนไปพลางๆ
ซึ่งผมไม่ได้ใช้อินดิเคเตอร์อะไรซับซ้อนนักหนา
ผมเทรดตามโมเดล KZM ซึ่งเป็นการเทรดตามโซนเสียส่วนใหญ่

โดยการลงทุนและการเทรดของผมในช่วงนี้
เปลี่ยนไปจากช่วงที่เริ่มต้นลงทุนในปีแรกๆบางส่วน
ปีแรกๆของการลงทุนผมเป็น Long Term Investor เต็มรูปแบบ
ถือหุ้นไว้โดยไม่ขายเลย กินปันผลอย่างเดียว
โชคดีที่ผมเข้ามาลงทุนในช่วงตลาด bottom
พอตลาดเริ่มวิ่งขึ้นทางเดียวผมก็สบายเลย
แต่พอมาเจอกับช่วง sideway ผมกลับทำกำไรหล่นหายไปเยอะ

ผมจึงได้พยายามเสาะหาแนวทางการเทรดที่เหมาะกับจิตใจของผม
ก็เจอแนวเทรดแบบ Trend Follower แบบ A x B = C สูตรของเส้น EMA
และก็ได้มาเจอการเทรดแบบสร้างกระแสเงินสดของพี่ MudleyGroup
ที่เรียกว่า KZM ซึ่งสามารถทำให้พอร์ตเราค่อยๆขยายขึ้นได้
โดยที่เราไม่ต้องนั่งมองกำไรหล่นหายอีกต่อไป
เพราะมันคือการดึงเงินเข้ากระเป๋าเรา แล้วนำมาขยายพอร์ตลงทุนต่อนั่นเอง

ถ้าผมสรุปการเทรดแบบ KZM เสร็จ ผมจะนำมาลง Blog แน่นอนครับ
แต่ช่วงนี้ป่วยๆอยู่ร่างกายยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่
จึงขอผลัดไปก่อน แค่งานประจำก็ดึงพลังไปเยอะแล้ว
ตกกลางคืนอยากอ่านหนังสือหุ้น อยากอ่านงบการเงินยังไม่ค่อยไหวเลย
ส่วนคนที่สงสัยหรืออยากจะศึกษาว่า KZM คือ อะไร เทรดอย่างไร
ก็ลองถามอากู๋ หรือใน pantip ก็ได้ฮะ มีให้อ่านพอสมควร
แต่ต้องอ่านและทำความเข้าใจหลายๆรอบหน่อยเท่านั้นเอง



พูดถึงการทำงานประจำวันนี้
วันนี้ผมขับรถออกไปตรวจที่ดินจำนองครับ
ลูกค้าก็มีน้ำใจให้ปลาช่อนตัวโตๆมา 2 ตัว
ตัวโตมาก โตกว่าแขมผมอีกมั๊งฮะ
ใส่ถุงพลาสติกมา แต่ไม่ได้ใส่น้ำมาให้
คงกะว่าให้เราเอาไปทำอาหารกินเลย
ปกติผมไม่กินปลาสดแบบนี้อยู่แล้วครับ
แม่ผมสอนตลอดว่าให้เอาไปปล่อยลงน้ำไป
แต่ผมเห็นมันยังดิ้นอยู่ก็ เห้ย! ต้องรักษาชีวิตมันไว้ให้ได้
พี่อีกคนที่ไปด้วยกันก็ทำท่าอยากได้ไปทำแกงส้มเต็มที่
ผมก็เลยขอไว้ ผมบอกว่า
" ปลาสองตัวนี้ผมขอนะ เด๋วผมเลี้ยงข้าวล่ะกัน "
พี่เค้าก็ยอมผมอยู่ (อาจเป็นเพราะว่าลูกค้าที่ให้ปลาเป็นลูกค้าผม)

จากนั้นผมก็ขับรถหาแหล่งน้ำที่จะปล่อยปลา
และต้องหาแม่น้ำที่ใหญ่ที่จะให้มันไม่โดนจับซ้ำสองด้วย
ปลาสองตัวนี้ก็นอนพงาบๆอยู่ที่วางเท้า Cap หลัง
ก็ตัดสินใจขับรถเข้าไปที่สระน้ำของอำเภอ
อุ้มไปปล่อยกับมือ มันก็ว่ายหายไป

ผมก็อธิษฐานขอให้ผลบุญกุศลในครั้งนี้
ส่งผลให้ผมหายป่วยมีสุขภาพแข็งแรง
หวังว่าผมจะหายป่วยในเร็ววันนี้นะ สาธุ


Wednesday, April 25, 2012

0060 : Value Visions 25-04-2012


ฝรั่งขายสุทธิ 2 วันแล้ว แต่ตลาดหุ้นไทยก็ยังคงขึ้นไหว
เป็นสิ่งที่ผมแปลกใจ ทั้งๆที่ทางฝั่งยุโรป อมเริกา ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

แต่อันที่จริงแล้วผมไม่ควรพยายามลุ้น เชียร์ หรือ แช่ง ตลาด ด้วยซ้ำ
เพราะนั้นแสดงถึงการพยายามคาดเดาตลาดของตัวเราอยู่นั่นเอง
( แต่อันที่จริง มันก็อดไม่ได้ที่จะเดา เรียกได้ว่าเดาเอามันส์นั่นเอง)
การทำตามแผนที่วางไว้ต่างหากที่เราควรจำไว้ให้แม่น


ตลาดจะขึ้นหรือจะลง อย่าไปใส่ใจให้มาก
แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญก็คือ หากตลาดขึ้นไปจะทำอย่างไร
หรือตลาดปรับฐานจะรับมือด้วยแผนไหนมากกว่า



ชีวิตผมในช่วงนี้โหยหาความยุติธรรมครับ
เพราะรู้สึกว่าไม่ค่อยได้รับความยุติธรรมสักเท่าไหร่
ก็อย่างที่ บิล เกตต์ เคยว่าไว้เดี๊ยะเลยแหละครับ
" โลกนี้ไม่เคยมีความยุติธรรมหรอก จงทำควาคุ้นเคยกับมันไว้ซะ "

Monday, April 23, 2012

0059 : Value Visions 23-04-2012

ตลาดหุ้นมักจะพาคุณเตลิดไปกับความโลภและความกลัวเสมอ
วันนี้ก็เช่นกัน ช่วงเช้าทุกอย่างเหมือนยังคงสดใส
แต่พอช่วงบ่ายกลับไหลลงซะอย่างนั้น

มนุษย์ Trand Follower อย่างผมก็ไม่ได้เดือดร้อนใจอะไรหรอกครับ
เพราะไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือจะลง ผมก็วางแผนเอาไว้แล้ว
( ไม่ได้พูดทำเท่นะ แต่ผมพูดจริงๆ )
ตั้งแต่ผมหัดเทรดแบบ KZM มาเนี่ย
ทุกครั้งที่หุ้นขึ้นแรงๆ ผม Happy กะชาวบ้าน
และทุกครั้งที่หุ้นตกแรงๆ ผมก็ Happy ยิ่งกว่าตอนหุ้นขึ้นเสียอีก
เพราะนั้นหมายถึงผมมีโอกาสกลับมาซื้อหุ้นเข้าโซนเดิมที่ขายไป
( ไว้เรียบเรียงเรื่อง KZM สไตล์ผมเสร็จจะมาเล่าให้ฟังนะครับ )


ส่วนข้อผิดพลาดในการเทรด 2 วันนี้ก็คือ
ผมลืม Key ซื้อ Unit ของกอง C
สัญญาณซื้อของระบบ บอกให้ซื้อตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ผมก็มัวแต่ยุ่ง
ก็เลยลืม Key ซื้อไป เซ็งเป็ดไปนิดหน่อย
 ไม่เป็นไรพรุ่งนี้ว่ากันใหม่



ส่วนเรื่องการทำงานมีเรื่องน่าผิดหวังนิดหน่อยครับ
แต่ก็ช่างแม่งมัน! เพราะยังไง สักวันผมก็จะไล่เจ้านายออกจากชีวิตผมอยู่แล้ว
สู้ต่อไปเพื่อชีวิตที่อิสระของเราดีกว่า!

Sunday, April 22, 2012

0058 : Value Visions 22-04-2012

ผมหายไปจาก Blog แห่งนี้นานมาก
เนื่องด้วยงานประจำอยู่ในช่วงปิดบัญชี
พอปิดบัญชีเสร็จก็ดันมาป่วยอีก
สถานะตอนนี้ผมก็ยังจัดอยู่ในหมวดหมู่ของคนป่วยอยู่ครับ

การป่วยครั้งนี้เหมือนจะน่าตกใจที่สุดในชีวิจของผม
หนักหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ผมไม่เคยเจอมาก่อน
ปกติผมป่วยเป็นแค่ไข้หวัด ตาแดง แมลงกัด ประมาณนั้น
แต่คราวนี้อาการก็คือจู่ๆหน้าก็ชาเริ่มจากซีกซ้ายแล้วก็ซีกขวา
จากนั้นแขนขาหมดแรง รีบไปโรงพยาบาล(โรงบาลรัฐแห่งนึง)
หมอตรวจดีมาก(ประชด) ให้วิตามินบีกลับมา 1 ซอง แล้วไล่ผมกลับไปนอน
วันรุ่งขึ้นผมไปหาหมอคลินิกอีกรอบ หมอบอกผมเป็นต่อมน้ำเหลืออักเสบ
ตกเย็นผมก็เลยกลับบ้านไปหาหมออีกที่นึง
หมอคนนี้เป็นหมอประจำของแม่ผม
แกตรวจแล้วแกบอกขอส่งต่อให้หมอสมอง
ไอ่เราก็ เห้ย! กูจะเป็นอะไรเปล่าวะเนี่ย ?
ก็ไปตรวจกับหมอสมอง เค้าก็วินิจฉัยว่าเป็นปลายเส้นประสาทอักเสบ
และอาการเริ่มต้นของไมเกรน
แล้วก็พ่วงด้วยต่อมน้ำเหลืออักเสบอีก

การป่วยครั้งนี้ทำให้ผมตระหนักถึง " เวลา " ว่า เวลาของเราที่ยังหนุ่มแน่น
บางทีเราอาจจะคิดว่ามันเหลืออีกมาก
แต่จริงๆแล้วใครจะไปรู้ ว่าเรามีเวลาเหลือมากน้อยเพียงใด

ผมคิดย้อนไปแล้วผมรู้สึกแย่มาก
ถ้าผมเป็นอะไรไปในวันนั้น ผมคงตายตาไม่หลับแน่
เพราะยังมีหลายสิ่งที่ผมอยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ
ยังไม่ได้ทดแทนบุญคุณพ่อแม่
ยังไม่ได้ดูแลท่านให้สมกับที่ท่านเลี้ยงดูเรามาอย่างดี
ยังไม่ได้บวชให้พ่อแม่เห็นผ้าเหลืองเลย ฯลฯ

พอชีวิตเคลื่อยที่เข้าใกล้ความตาย
สิ่งที่เราคิดว่าจำเป็น เช่น เงินทอง วัตถุต่างๆ
กลับไม่มีค่า เงินที่ผมเทรดหุ้นมาได้
ผมรู้สึกว่า มันแทบไม่มีค่าอะไรเลยถ้าผมไม่มีสุขภาพดี
ตรงกันข้าม ผมยอมแลกเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของผมกับสุขภาพด้วยซ้ำ
(ถ้าแลกได้นะ)

ตอนนี้ผมก็อยู่ในช่วงรักษาตัวอยู่
แต่ก็ไปทำงานปกติ ทานยาไปด้วย
การไม่มีอิสรภาพทางการงินนี่มันแย่นะ
ถ้าผมมีอิสรภาพทางการเงินนะ วันพรุ่งนี้ผมคงไปเขียนใบลาออก
แล้วนอนพักรักษาตัวอยู่บ้านจนหาย
แล้วก็ใช้ชีวิตต่อจากนี้แบบให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีสุดๆ
อยู่ใกล้ๆคนที่ผมรัก ดูแลพ่อแม่

แต่ก็ความจริงกับความฝันมันไม่ได้บรรจบกันบ่อยครั้งนัก
แต่... ผมต้องทำให้มันบรรจบกันให้
ด้วยชีวิตที่ยังเหลือลมหายใจอยู่เนี่ยแหละ

สู้ต่อไป
จะเจ็บเพียงไหนก็ตาม
ก็จะสู้ต่อไปครับ!


บทเรียนชีวิตเนี่ย ไม่ได้มาทีละหมัดสองหมัดเลยนะ
มาทีเป็นชุด เราได้แต่ยืนรับหมัดนั้นให้อยู่เท่านั้น
ยืนให้มั่น อย่าล้มเด็ดขาด แต่ถึงล้ม ก็จงลุกขึ้นมา
ตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจ!

Sunday, March 4, 2012

0057 : Value Visions 04-03-2012

ผลตอบแทนกลับมาเป็นบวกอีกครั้งครับ
หลังจากที่วูบลงไปอยู่ที่ - 2% ช่วงก่อน
ซึ่งก็เกิดจากความผิดพลาดในการวางแผนลงทุนของผมนั่นเอง
ตอนนี้ก็ตั้งหน้าตั้งตาสร้างผลตอบแทนสู่เป้าหมายที่วางครับ
10 เดือนต่อจากนี้ต้องลุยไปให้ถึงให้ได้
( ตอนนี้ผลตอบแทนของพอร์ตผมอยู่ที่ 0.84% )


วันนี้เพิ่งเข้าไป Comment Status ของ เพื่อนใน Facebook มา
เกี่ยวกับเรื่องเป้าหมายในการลงทุน
บางคนก็เข้าตลาดมาเพราะต้องการไล่ล่าเงิน
บางคนก็ต้องการแสวงหาความสำเร็จ
แต่สำหรับผม ผมก็ต้องการเงินแหละ
เพียงแต่ผมไม่ได้ต้องการเพื่อเอาไปปรนเปรอความสุขตัวเอง
ผมแค่อยากให้คนที่ผมรักมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ลำบากเท่านั้นเอง
อีกอย่างก็คือ ผมอยากมีอิสระภาพทางการเงิน
เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตได้อย่างที่ต้องการ
ไม่ต้องมาคอยปวดหัวเรื่องงานเรื่องเงินอีก แค่นั้นเอง...



และขอปิดท้ายด้วยสรุปหลักการลงทุนจาก TIF
( http://www.facebook.com/ThInvestForum )
ซึ่งสรุปจากเพลงของ Commodities Trader ชื่อดัง " Ed Seykota "

The Essentials

1. Ride Your Winners : ตัวที่กำไร ต้องทนถือให้กำไรสูงขึ้น อย่าขายหมู
2. Cut Your Losses : ตัวที่แย่ ต้องขายทิ้งให้ทัน อย่าทนอยู่ดอย
3. Manage Your Risk : บริหารความเสี่ยง กำหนดขนาดการลงทุน ให้เหมาะสมกับตัวเอง
4. Use Stops : กำหนดจุดขาย (ทั้งตัดขายทุน และ ทำกำไร)
5. Stick to the System : สร้างระบบไว้เอง ต้องทำตามให้ได้
6. File the News : รวบรวมข่าวสารไว้ศึกษาเป็นคลังข้อมูล

Thursday, March 1, 2012

0056 : Value Visions 01-03-2012

วันนี้หุ้นที่เลือกไว้จากการใช้ EMA Crossover ปรับตัวขึ้นตามตลาดครับ
ทำให้ผลตอบแทนพอร์ของตผมในวันนี้เริ่มกระเตื้องขึ้นมาอยู่ที่ -0.16%
เวลาที่เหลืออีก 10 เดือนต่อจากนี้ต้องแก้เกมให้กลับมาชนะตลาดและ
ทำกำไรตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ให้ได้ครับ

ผมใช้ระบบง่ายๆ EMA Crossover 3 เส้น แบบ Edward Burke เกาะ Trend
ไปเรื่อยๆครับ สูตรของระบบนี้ก็คือ A x B = C โดยแทน A B C เป็นเส้น 3 เส้น
A คือเส้นของ Price ซึ่งใช้เส้นระยะสั้นประมาณ EMA 3 - 5 ครับ
ส่วน B ก็คือเส้นของ Short Term Trend และ C ก็แทน Long Term Trend ครับ
จากนั้นก็นำมาเข้าสูตร A x B = C
อย่างผมใช้ สูตร 3 x 13 = 39 ครับ
แต่บางคนอาจจะใช้ 3 x 6 = 18 หรือ 5 x 10 = 50 , 5 x 20 = 100 ก็ได้
ที่ผมใช้ 3 x 13 = 39 เพราะผมลองกดๆดู แต่ละแบบแล้ว
แบบ 3 x 6 = 18 เวลาตัดลงมันตัดไวไปทำให้เราอาจจะขายหมูได้ครับ
แบบ 5 x 10 = 50 ก็ตัดขึ้นช้าไปทำให้เราก็ต้องซื้อแพงขึ้น
สรุปผมก็เลยเลือกใช้แบบ 3 x 13 = 39 ในการเข้าเทรดครับ
( ใช้ประกอบกับ Bollingger Band ครับ )

ระบบที่ Edward Burke แนะนำไว้ก็คือการ...
ซื้อเมื่อเส้น A ตัดเส้น B ขึ้น โดยทั้งหมดต้องเทรดอยู่เหนือเส้น C ครับ
ส่วนเวลาขายเค้าบอกให้ขายเมื่อเส้น A ตัดเส้น B ลงมาครับ (เผ่นให้ไว)

ระบบไม่ยากเลยครับ
แต่ที่ยากจริงๆนั้นคือการควบคุมตัวเราให้ทำตามระบบต่างหาก...

Wednesday, February 29, 2012

0055 : Value Visions 29-02-2012

ช่วงนี้อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการปิดงวดประจำปีของงานประจำครับ
ก็เลยต้องกรำศึกหนักมาเป็นเดือนๆ ก็ต้องสู้แบบนี้ไปจนกระทั่ง 30 มี.ค.
โน่นแหละครับ T T

แต่ผมกลับพบว่าการที่หน้าที่การงาน ความรับผิดชอบมันบีบคั้นเรา
ทำให้เวลาชีวิตเราน้อยลง มันก็ทำให้เราได้รีดเค้นศักยภาพในตัวเรา
ออกมาได้เช่นกันนะครับ ถ้าอยากมีเวลาเหลือมากๆก็ต้องทำงานให้
รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ต้องคิดต้องวางแผนล่วงหน้าหลายๆช็อต
เพื่อที่จะได้มีเวลาว่าง เวลาพักผ่อนเยอะๆ ถ้ามัวแต่ปล่อยชีวิตไปเรื่อยๆ
ทำงานแบบลอยชายเหมือนเก่า รับรองว่าชีวิตผมช่วงนี้จะยุ่งเหยิงแน่ๆ

ช่วงที่หายไปนอกจากงานประจำล้นมือแล้วก็ยังกลับไปคิดทบทวน
ในเรื่องของการลงทุนครับ เพราะผมรู้ศึกว่าปีที่ผ่านมาฝีมือด้านการลงทุน
ของผมนั้นไม่ก้าวหน้าเลยแม้แต่น้อย (ในโลกของความจริง ไม่ก้าวหน้า
ก็เท่ากับถอยหลังนั่นแหละครับ) อีกทั้งพอร์ตตั้งแต่ต้นปีมา ก็ดันมาติดลบ
ลบอยู่ราวๆ 2% จากที่เคยบวกไปประมาณ 7%

ซึ่งการที่พอร์ตติดลบนั้นก็เกิดจากการที่ผมถือหุ้นตัวเดียว
คือผมถือ BLA แค่ตัวเดียวเลยครับ ซึ่งก็ทำให้เจ็บตัวไปนิดหน่อย
ก็ได้รู้ว่า เราไม่ควรมั่นใจเกินไป เพราะอาจจะมีอะไรที่เราไม่รู้ก็ได้
และอีกอย่าง ผมได้ลองใช้การตัดกันของ EMV จับย้อนหลังไปดู
ก็พบว่าระบบได้ส่งสัญญาณให้ขายตั้งแต่ราคาหลุด 47 บาทแล้ว
แต่ไอ่เราก็ไม่รู้เรื่องรู้ราว (ผมอ่อน TA มาก) ก็เลยเจ็บตัวไป
อีกเรื่องก็คือเรื่องของการกระจายการลงทุนครับ ถือหุ้นตัวเดียว
แบบไม่มีเงินสดเลยนี่ผมว่าผมงี่เง่ามาก เข็ดและจำขึ้นใจครับ
เห็นหุ้นชาวบ้านวิ่งเอาๆ SETก็เขียวเอาๆ แต่หุ้นในพอร์ตเราไม่ไปไหน
แถมยังรูดโชว์อีก เลยรู้ซึ้งเลยครับ...

หลังจากที่เจ็บกับ BLA ก็ได้อ่าน e-book ของ Edward Burke
ชื่อว่า How I won making money in stock market. ครับ
ก็ที่ผมลองเอาการตัดกันของ EMA จับ BLA ย้อนหลังนั่น
ก็อ่านมาจากเล่มนี้แหละครับ , ลองเอาสูตรของ Edward Burke ไปจับ
หุ้นหลายๆตัวก็พบว่ามันทำกำไรและช่วยให้เราหนีก่อนที่หุ้นจะรูดลง
ได้ดีทีเดียวครับ ก็เลยหาหนังสือ TA เล่มอื่นๆมาอ่านต่อเนื่องไปครับ
ช่วงนี้ก็เลยศึกษาหาแนวการลงทุนใหม่ๆครับ ไม่สนว่า VI หรือ TA
หรอกครับ ผมแค่อยากเอาตัวรอดจากตลาดหุ้นได้ก็เท่านั้นเอง

อันที่จริงความฝันของผมนอกจากการมีอิสระภาพทางการเงินแล้ว
ก็มีอีกอย่างนึงก็คือ ผมอยากพัฒนา skill การ trade ไปให้ถึงขั้น
" Midas Touch " ครับ ซึ่งก็ต้องพยายามจัดเวลามาศึกษาสร้าง skill
ให้ได้อย่างสม่ำเสมอครับ

ซึ่งผมก็ได้วางแผนไว้ดังนี้ครับ
1. อ่านหนังสือทุกวัน ทั้งเกี่ยวกับการเทรด การลงทุน หรืออื่นๆ
2. หาข้อมูลหุ้นทุกวัน Scan หาหุ้นแล้วติดตามบันทึกอย่างใกล้ชิด
3. เล่น Poker Online ในเวลาที่ว่าง(ระหว่างรอ) เพื่อฝึก Money Management
4. เข้าอบรม / ขอความรู้จากโค้ชเก่งๆ
5. ทำบันทึกการลงทุนทุกวัน

Sunday, January 29, 2012

0054 : Value Visions 27-01-2012

1.) วันนี้เพิ่งได้เอาแต๊ะเอียให้ปาปากะมามาครับ (ให้ย้อนหลัง)
แต่ปาปาคืนกลับมาให้เรา บอกขอรับไว้แต่ซอง ตังค์เก็บไว้เหอะ
กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว , รู้สึกตื้นตันใจมาก
พ่อยังไงก็ห่วงเรา ก้อนแต๊ะเอียซองนี้ไม่ได้มากมายหรอกครับ
และที่พ่อคืนมา ผมก็ไม่ได้อยากได้
แต่มันเป็นเหมือนกำลังใจว่า ชีวิตนี้เราจะแพ้ไม่ได้
เพราะมีเหตุผลที่ทำให้เราต้องชนะอยู่
อย่างน้อยก็ต้องชนะ , ประสบความสำเร็จในชีวิตเพื่อพ่อแม่เรา


2.) ช่วงนี้ทำงานประจำเลิกดึกทุกวัน
แบบนี้ไม่ดีเลย มันทำให้เราไม่มีเวลาคุยกับตัวเอง
ไม่ได้คิดเรื่องอื่น เช่นเรื่องการสร้างเนื้อสร้างตัว หรือการลงทุน
ทำงานแบบนี้ผมรู้สึกว่ากำลังขายทั้งความคิด
ขายทั้งจิตวิญญาณให้กับงานประจำ
แต่ก็ต้องอดทน ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ตรงหน้ามันก็สำคัญเช่นกัน
และมันเป็นแค่ช่วงนี้เท่านั้นแหละที่งานเยอะ
เดี๋ยวมันก็ผ่านไป (ท่องไว้ๆ)
อยากมี Financial Freedom แล้วโว้ยยยย!


3.) อ่าน Status Facebook ของน้องต้น
เจ้าของ Blog : http://ton4aliving.blogspot.com/
เกี่ยวกับเทรดเดอร์มือสมัครเล่น , มืออาชีพ อยากเอามาแชร์ไว้ครับ

Amateur traders look at how much they ca
Professional traders look at how much they can lose.

Amateur traders try to increase profits by raising leverage.
Professional traders protect their capital by lowering leverage.

Amateur traders try to make each trade a big winner.
Professional traders know that individual trades (win or lose) are meaningless.

Amateur traders become one of the 95% who lose all their money.
Professional traders become one of the 5% who get rich in the long run

Amateur traders count on luck and hope to win.
Professional traders count on the statistical edge of their trading method to win
using low leverage combined with compounding over a long series of trades.

Amatuers lose.
Professionals win.

Monday, January 23, 2012

0053 : Value Visions 23-01-2012

วันนี้เลิกงานเกือบ 4 ทุ่มเหมือนเคย
ช่วงนี้เลิกงานดึกตลอด
อันที่จริงจะไมทำก็ได้
เพียงแต่ผมเป็นคนที่ไม่ชอบดองงาน
และไม่ชอบให้งานค้างอยู่บนโต๊ะเท่านั้นเอง
ก็เลยทำแบบลุยไปให้เสร็จๆ
(ซึ่งก็ยังไม่ถึงกับเสร็จหมดหรอกครับ ยังเหลือนิดหน่อย)
ก็รู้สึกเหนื่อยบ้างอะไรบ้างตามประสาครับ

ช่วงนี้ได้แต่ติดตามข่าวสารการลงทุนต่างๆอย่างห่างครับ
จอหุ้นระหว่างวันนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย
ไม่เคยได้เปิดดูกะเค้าเล๊ย
จะมาดูอีกทีก็ตอน 4-5 โมงเย็นแล้ว
อาศัยอ่านข่าวสารทาง Social Network ที่เพื่อนๆพี่ๆเอามาโพสไว้ครับ

ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างก็เลยให้ความสำคัญกับการเก็บออมเงินมากหน่อยครับ
เพราะไม่ค่อยมีเวลาใช้เงิน พยายามออมเงินให้ได้เยอะๆ
เพื่อเอาไปลงทุนในหากมีจังหวะที่ดีครับ

ส่วนการเทรดนั้นเด๋วไว้งานซากลับมาเจอกันแน่นอนครับ
ผมว่าการเทรดเป็นอะไรที่ผมอยากทำมาก
แต่หาเวลาให้มันไม่ได้เสียทีครับ T T
เพราะงั้นผมจึงใฝ่หาอิสระภาพทางการเงินมากเหลือเกิน

อิสระภาพทางการเงินคืออิสระภาพในการเลือก
ชีวิตที่มีทางเลือกมากๆ คือชีวิตที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีครับ
อยากกินอะไรก็เลือกได้ ไล่ไปตั้งแต่มาม่าซองละ 6 บาท ยัน เป็ดโฟร์ซีซั่น
อยากเดินทางแบบไหนก็ไปได้ จะนั่งเครื่องบิน ล่องเรือ หรือ ขับรถไปเอง ก็เลือกได้
อยากทำอะไรก็สามารถเลือกๆได้โดยไม่มีข้อจำกัดอะไเท่าไหร่นัก
(อย่างน้อยก็มีข้อจำกัดน้อยกว่าคนที่ไม่มีอิสระภาพทางการเงิน)

สักวันเราจะเจอกัน !
Financial Freedom เอ๋ย !

Tuesday, January 17, 2012

0052 : Value Visions 17-01-2012

วันนี้เลิกงานเกือบ 4 ทุ่ม
รู้สึกเหนื่อยและเซ็งมากเป็นพิเศษ
เริ่มไม่อยากทำงานประจำมากขึ้นทุกทีๆแล้วครับ
แต่ก็ต้องทำ เพราะฐานเรายังไม่แข็งแกร่งพอ
และอีกอย่างก็ทำเพราะความรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ด้วย

"สถานการณ์แย่ๆ มักจะมีบทเรียนดีๆให้เราได้เก็บเกี่ยวอยู่เสมอ"

วันนี้เจอประโยคนึงจาก FB พี่โจ ซึ่งแชร์มาจาก @mudleygroup ครับ
ซึ่งเป็นประโยคที่ทำให้เราต้องคิดครับ ! มีอยู่ว่า...

"Put yourself in the best position
or you will not have a position come tomorrow."

ราตรีสวัสดิ์ครับ

Thursday, January 5, 2012

0051 : Value Visions 02-01-2012

1.) ตั้งแต่หยุดยาวมา ผมนอนตื่นสายตลอดเลยแฮะ
แล้วก็นอนเยอะมาก อ่านหนังสือจนดึกทุกคืน ตื่นสายหน่อย
ก็ถือเป็นการพักผ่อนล่ะนะ แต่การนอนเยอะๆ ก็ดีสำหรับผม
อยู่เช่นกัน คือมันช่วยให้อาการปวดหลังหายไปเยอะเลยครับ
จากนี้คงต้องริ่มจัดตารางชีวิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จะได้มีเวลาไปว่ายน้ำ และพักผ่อน ไม่งั้นมัวแต่นั่งทำงาน
หลังพังหมดพอดี อีกอย่างที่ต้องระวังกับเรื่องหลังนี่ก็เป็น
การสะพายกระเป๋นครับ บางทีสะพายกระเป๋าโน๊ตบุ๊คแล้ว
เอาพวกเอกสารอื่นๆยัดเพิ่มไปเนี่ยมันหนักเอาการเลย ทำให้
บางทีก็รู้สึกปวดหลังขึ้นมาเลยคีรับ ข้อนี้ต้องระวังให้ดี
เพราะบางครั้งเราก็ไม่ทันได้ตั้งใจ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพฤติกรรม
ของเรานั้นมันจะทำให้เราปวดหลัง...


2.) อีกอย่างที่ตั้งใจจะทำก็คือการจดรายการอาหาร เครื่องดื่ม หรือ ขนม
ที่กินในแต่ละวันครับ จะได้รู้ว่าเรากินอะไรเข้าไปเกินบ้าง
เพื่อเอามาปรับปรุงนิสัยในการกิน , ช่วยในการควบคุมและลดน้ำหนัก

เพราะไปอ่านเจอคำแนะนำในการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ
ใน Twitter ของคุณหมอท่านนึงมาครับ
ขอเอามาแปะไว้ในบันทึกด้วย

1. ออกกำลังกาย วิ่ง , ปั่นจักรยาน , ว่ายน้ำ
150 นาที / สัปดาห์ จะ 30 นาที 5 วัน หรือ 60 นาที 3 วัน ก็ได้

2. จัดตารางฝึกกล้ามเนื่อ ( สร้างกล้ามเนื้อเผื่อช่วยในการเผาผลาญ )
Weight Training 1 ชม. / สัปดาห์ ใช้ App Imuscle ใน Iphone ไกด์ก็ได้
และ ยืดกล้ามเนื้อ 15 นาที ทุกวัน

3. จดบันทึกรายการอาหาร สม่ำเสมอ
ทานอะไร ? ปริมาณเท่าไหร่ ? เวลาเมื่อใด ?

4. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
จะลด จะงด อะไรที่ทำให้เราอ้วน

นี่คือข้อแนะนำ 4 ข้อที่อ่านเจอมาครับ


3.) มีคนมาปรึกษาว่า ทำไงให้ตังค์เหลือใช้แบบเอ๋บ้าง
ทำงานมาไม่ค่อยมีเงินเก็บเลย (ทั้งๆที่คนถามเงินเดือนเยอะกว่าผมตั้งเยอะ)
ผมก็ถามว่าจดบัญชีรายรับรายจ่ายรึเปล่า ?
ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน แต่ละสัปดาห์มีตั้งไว้งบประมาณไว้บ้างไหม ?
แต่ละเดือนออมเงินได้สัก 10% ไหม ?
ปรากฏว่าไม่ได้ทำสักอย่าง
ก็เลยแนะนำให้ลองจดบัญชีรายรับรายจ่ายสักเดือนนึง จดให้ครบทุกรายการ
และก็ต้องหัดตั้งงบประมาณค่าใช้จ่ายในแต่ละสัปดาห์ไว้ด้วย
เช่น อาจจะตั้งค่าอาหารกลางวัน ค่าเดินทาง ที่จะใช้ใน 1 สัปดาห์ ไว้ 2,000 บาท
ก็ให้กด ATM ออกมาแค่ 2,000 บาท
( แต่ต้องมีเงินสำรองติดกระเป๋าไว้อีกส่วน เผื่อฉุกเฉิน )
ถ้าใช้พอ 1 สัปดาห์ เหลือเท่าไหร่ก็เอาไปออม
แต่ถ้าใช้ไม่พอ ยังไม่ครบ 7 วันตังค์หมด ก็ต้องมาพลิกบัญชีรับจ่ายดูว่า
เราใช้อะไรไปตรงไหนบ้าง การรู้ที่มาที่ไปของเงินเรานั้นสำคัญมาก!
จากนั้นก็เอาข้อมูลนั้นมาปรับปรุงพฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวเราครับ
ผมแนะนำเค้าไปแค่นี้ก่อน
เด๋วไว้มีโอกาส เราลองมาติดตามผลกันครับ ว่าจะเป็นอย่างไร ?

Wednesday, January 4, 2012

0050 : Value Visions 01-01-2012

1.) วันนี้วันปีใหม่...
ขอสวัสดีปีใหม่ผู้อ่านทุกท่านรวมถึงตัวผมเองด้วยครับ
ขอให้ปีใหม่นี้ ทุกท่านกล้าเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ
คิดดี พูดดี ทำดี เป็นคนดี มีสุขภาพดี มีความรักและคนรักดีๆ
เงินทองไหลมาเทมา มีสติ มีความอดทน
และขอให้มีแรงบันดาลใจดีๆครับ!


2.) สิ่งที่ได้จากการอ่าน Steve Jobs by Walter Isaacson :

" ชีวิตเรามีจำกัด
อย่ารีรอ
อย่ามีข้ออ้าง
อย่าเพิกเฉย
อย่าทำอะไรที่ "งั้นๆ" ออกมา
ทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด
หากเจออุปสรรค
จงต่อสู้กับมัน
อย่าล้มเลิก
และอย่ายอมแพ้... "


แล้วก็มีประโยคโดนๆ เนื้อหาโดนๆที่จดมาครับ
"เราไม่ควรเริ่มทำธุรกิจเพื่อหวังรวย เป้าหมายที่แม้จริงของเรา คือ
การได้ทำในสิ่งที่เราเชื่อ และนั่นจะทำให้บริษัอยู่ได้อย่างยั่งยื่น" - Steve Jobs

อีกอันนึงก็คือ The Apple Marketing Philosophy ครับ มี 3 ข้อ คือ
1. เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น คือ ต้องเข้าใจความรู้สึกของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง
และต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าดีกว่าบริษัทอื่น
2. จับเฉพาะจุดหมายสำคัญ (Focus) เพื่อทำสิ่งที่ทำให้ได้ผลดีที่สุด
ต้องตัดเรื่องอื่นๆ ที่ไม่สำคัญออกให้หมด
3. สร้างภาพ หมายถึง นำเสนอให้ผู้บริโภคเห็นภาพทุกอย่างที่ต้องการ
หมายความว่า อยากให้สินค้าอยู่ตำแหน่งใด จะให้ผู้บริโภคมองสินค้านั้น
อย่างไร ต้องนำเสนอภาพนั้นออกไปให้ชัด


3.) วันปีใหม่ทุกคนต่างเฉลิมฉลอง...
แต่ผมอยากจะถามว่าเราจะฉลองให้กับอะไรล่ะ ?
ฉลองให้กับเวลา 23.59 ของวันที่ 31 ธันวาฯ และ 00.00 ของวันที่ 1 มกราฯ หรือ ?
เวลามันก็เดินของมันไปเรื่อยๆอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร
ไม่เคยหยุดรอเรา และไม่มีเดินย้อนกลับ
ปีใหม่ผ่านเข้ามา เวลาในชีวิตเราเหลือน้อยลงด้วยซ้ำ
รวมถึงเวลาที่น้อยลงของคนที่เรารักด้วย
เวลาเป็นสิ่งมีค่ามากๆ...

มันคงจะดี หากว่าเราใช้เวลาในช่วงปีใหม่ ตระหนักถึงคุณค่าของมัน
และเริ่มต้นทำอะไรดีๆ แต่จะมีกี่คนที่จะคิดถึงเรื่องนี้...

0049 : Value Visions 31-12-2011

1.) ปีนี้ให้ของขวัญปีใหม่กับตัวเองด้วยการอ่านหนังสือครับ
ซึ่งหนังสือเล่มนั้นก็คือ Steve Jobs by Walter Isaacson ครับ
อ่านรวดเดียวจบเล่มเลย เป็นหนังสือที่เขียนดีมาก วางไม่ลงเลยครับ
อ่านแล้วก็ได้แรงบันดาลใจอีกมากโขเลย จากชีวิตของ Steve Jobs
ซึ่งเป็นคนที่ "บ้าความสมบูรณ์แบบ" เอามากๆ ทำงานแต่ละชิ้น
หรืออะไรในชีวิตก็ต้องทำให้มัน ดีสุดๆ ทำอย่างบ้าคลั่ง กัดไม่ปล่อย
เป็นหนังสือชีวประวัติที่ควรอ่านจริงๆนะครับ!


2.) สิ่งที่ตั้งใจในปี 2555
1. อ่างหนังสือดีๆ สัปดาห์ละ 1-2 เล่ม ให้จบ พร้อมสรุป Short Note
2. จัดเวลาการทำงานประจำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ต้องไม่
นั่งเคลียร์งานจนดึกช่วงที่ผ่านมาเป็นประจำ เพื่อที่จะได้มีเวลาไปทำ
อย่างอื่นเช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หาความรู้เรื่องหุ้น เรื่องการ
เทรด หรือ เรื่อง ธุรกิจ
3. ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 4 วัน ( ครั้งละ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย )
4. ออมเงินให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
5. ให้เงินป๊ากะม๊าให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านๆมา
6. ออกท่องเที่ยว และ เขียนบันทึกการเดินทางกลับมาให้ได้ 2 ครั้ง / ปี
7. ทานอาหารดีๆ มีประโยชน์ และ ไม่ดื่มแอลกอฮอลล์
8. ทำบุญให้มากขึ้น
9. จัดงานหมั้น
10. ลงมือทำ!


3.) ผลตอบแทนพอร์ตของผมในปีนี้ (รวมเงินปันผล) ไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจเลย
ROE = 21.25%
ROA = 14.35%

ข้อผิดพลาดปีที่ผ่านมา
1. ไม่ขยันทำการบ้าน
2. ไม่รู้จักหุ้นใหม่ๆเพิ่มเลย
3. ไม่ค่อยหาความรู้เพิ่ม
4. ช่วงหุ้นเหวี่ยงขึ้นลงแรงๆ จิตใจไม่นิ่ง
5. ออมเงินได้น้อยมาก
ฯลฯ ยังมีอีกเยอะครับ เด๋วจะเขียนอย่างละเอียดอีกที T T