Pages

Saturday, March 30, 2019

0831 : The Deals of Warren Buffett Vol 1 (The First $100M)


หยุดสุดสัปดาห์นี้ ผมได้อ่านหนังสือ The Deals of Warren Buffett Vol 1 : The First $100M
ชื่อไทย วอร์เรน บัฟเฟตต์ : กว่าจะเป็นตำนาน

หนังสือเล่มนี้เขียนเรื่องการ Build Port ของ Buffett ตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งเริ่มห้างหุ้นส่วน (ชวนเพื่อนและญาติ รวม 7 คนมาลงเงินในห้างหุ้นส่วน) ด้วยเงินตั้งต้น $105,000 จนถึง ร้อยล้านดอลลาร์

หนังสือเล่มนี้ มันดีตรงที่เค้าสรุปบทเรียนที่ได้รับจากแต่ละ Deal ไว้ท้ายบทด้วย มันเหมือนเป็นสิ่งที่ Work , ไม่ Work ที่เราสามารถเอามาใช้กับตัวเราเองได้เลย (หากเราเอามันคิดย้อนกลับมองเข้าไปในการลงทุนของเรานะ)

พออ่านไปเรื่อยๆ ผมค้นพบว่า การเก่งกาจในเรื่องของการมองธุรกิจ การควบคุมอารมณ์ นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ Buffett สำเร็จก็จริง แต่ส่วนที่เจ๋งก็คือ การเป็น ของเค้าต่างหาก

มีหลายๆ Deal เลยที่ Buffett สร้างมันขึ้นมาได้เพราะความสัมพันธ์ที่ดี รวมถึงใช้การโน้มน้าว และภาวะผู้นำในการทำให้ Deal สำเร็จ เพราะมันไม่ได้มีเจ้าของธุรกิจทุกคนที่อยากขายให้เค้า หรือบางทีซื้อมาแล้วพนักงานไม่ยอมรับ เค้าก็ต้องใช้การโน้มน้าวและภาวะผู้นำในการจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

โค้ชของผมเคยบอกไว้ว่า การประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ นั้นมาจาก ความสัมพันธ์ ซึ่งตอนแรกผมไม่เชื่อเลย เมื่อก่อนผมเป็นคนประเภท ลุยเดี่ยว ทำอะไรสำเร็จด้วยตัวเอง ไม่สร้างความสัมพันธ์อะไรกับใครทั้งสิ้น มันก็เลยทำให้เราอยู่แค่นั้น พอเริ่มสร้างความสัมพันธ์ ชีวิตมันก็พลิกไปนะ ง่ายกว่าเดิมมาก

มาอ่านหนังสือเล่มนี้ ในวันนี้จึงเข้าใจชัดเจนขึ้น  เหยด! มันเป็นแบบนี้นี่เอง ที่ว่าความสำเร็จมาจากความสัมพันธ์ที่ดี พออ่านแล้วช่องทางต่างๆก็เปิดใหม่ขึ้นมาหลายๆช่องทางเลย

อีกอย่างที่ค้นพบก็คือ Buffett นี่เป็น Beta ตัวพ่อเลย
เค้า Build Port จากการสร้าง Beta เพื่อไปเก็บ Alpha
เด็กๆทำงานหลายอย่างมากเลย เช่น ขายโค้ก เก็บลูกกอล์ฟขาย (ใช้เพื่อนเก็บ) ตั้งเครื่องพินบอลในร้านตัดผม เป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ เก็บเงินไปซื้อไร่ผลไม้
เริ่มต้นซื้อหุ้น ตัวแรกคือ Citis Services ดอยก่อนแล้วก็ขายออกไป

ช่วงเริ่มต้นไม่มีเงินมากนัก ลงทุนในสัดส่วนที่สูงเหมือนกัน ถ้าเทียบกับ Wealth ที่มีตอนนั้น
แล้วก็มีการกู้เงินมาลงทุน
(แต่เค้าเจาะลึกในกิจการจนได้ Fact ที่ว่ามันคือกิจการที่สร้างรายได้แล้วรอปลดล็อคมูลค่าจริงๆ)

หลังเป็นการหาธุรกิจที่สร้างเงินสด เช่น ธุรกิจประกัน , Saving & Loan เพื่อเอาเงินสดที่ได้มาไปลงทุนต่อ (แต่ต้องเข้าไปนั่งเป็นบอร์ดนะถึงจะทำแบบนั้นได้ ซึ่งก็อาศัยความสัมพันธ์ ความน่าเชื่อถือในตัวนั่นแหละ)

เรื่องการบริหาร หลายๆบริษัทที่ Buffett ไปซื้อมา ก็เลือกจาก คนที่ต้องการทำงานด้วย แล้วก็ให้ผู้บริหารคนเดิมนั่นแหละทำงานต่อไป โดย Buffett คอย Empower และให้คำปรึกษา

จะเห็นได้ว่า Buffett ไม่ได้แค่สะสม Wealth แต่ Wealth ของเค้ามาจากการสะสมความสัมพันธ์ที่ดี คือ เพื่อนดีๆ ที่คอยแนะนำธุรกิจดีๆให้เค้าซื้อ ผู้บริหารที่ดี ที่คอยทำงานให้ บริษัทดีๆที่มีพนักงานที่ดี สะสมสิ่งเหล่านี้เข้าพอร์ต จนทำให้สร้าง Wealth Build Port ขึ้นมาได้



Thursday, March 28, 2019

0830 : Gold Department 1


แปะกราฟทองไว้หน่อย ส่องมันทุกวัน แต่ไม่ได้บันทึกความคิดไว้เลย


ทองรอบนี้มุมมองเราคือ จบกันตรงนี้แหละ  เพราะไม่ทำ New High ละ
ขาขึ้นรอบนี้ใช้เวลาจากวันที่ 11/10/2018 - 28/2/2019
ใช้เวลา 4 เดือน 17 วัน ก็ประมาณนี้แหละ Cycle ของทอง

ส่วนจะมองผิดหรือเปล่าก็รอตลาดเฉลยเอาละกัน

ฝั่ง Hedging ตอนนี้มียิงไว้ 1 นัด แถว 1,283
ถ้าเด้งกลับไปก็ยังมี กระสุนต้นทุน Sell ให้รับคืนอีก 2 นัด

ฝั่ง Buy มีรอรับทุนล่างๆ หากลงมาก็เก็บของกิน Vol ต่อไป

Thursday, March 21, 2019

0829 : Intermittent Fasting


ขอนอกเรื่องเทรดนิดนึง (แต่จริงๆมันก็เกี่ยวกับเรื่องเทรดนะ เพราะมันเกี่ยวกับ Productivity น่ะ)

ผมเริ่มทำ Intermittent Fasting มาสักพักแล้วครับ
จริงๆก็มีมิตรสหายหลายคนที่แนะนำให้ทำมานานแล้ว
แต่ผมก็เพิ่งมาเริ่มต้นจริงๆจังๆเมื่อ 31 ม.ค. 2562 นี้เอง

จุดเริ่มต้นคือ จำได้ว่าไปเรียน Leadership Program แล้วจะกลับบ้าน
เดินออกมาจะไปรถไฟฟ้า เจอเพื่อนที่เรียนคลาสเดียวกันเดินออกมาด้วย
เลยถามไปว่า "กินข้าวยัง"
เพื่อนบอกว่า "กำลังทำ IF อยู่"
ผมก็เลย "เออ ทำยังไงบ้างอ่ะ กำลังสนใจอยู่เลย"
มันก็จัดการแนะนำให้โหลด App Life Fasting เพื่อช่วยเก็บ stat & สร้างวินัย
จากนั้นก็ดึงเข้ากลุ่ม Line เสร็จสรรพ
เลยได้เริ่มทำตั้งแต่วันนั้นมาเลยนั่นแหละ 555

ผมเลือกทำแบบ 16 / 8
คือ ไม่ทานอาหาร 16 ชั่วโมง กิน 8 ชั่วโมง
แต่มันก็ไม่ได้เป๊ะอะไรขนาดนั้น
บางวันก็อยู่ในช่วงอด 18 - 20 ชั่วโมงก็มี

โดยออกแบบให้เข้ากับ Life Style
ก็ลองมาหลายแบบแหละ
แรกๆอดมื้อเช้า
หลังๆสลับไปอดมื้อเย็น

ปัจจุบันก็ค่อนข้างลงตัว คือ กินมื้อเช้า 7 โมงนิด มื้อเที่ยง 12:00 จบแค่นั้น ที่เหลืออดยาว
ช่วงอดก็กินน้ำเปล่า ไม่ก็กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล

ผลที่ได้ก็คือ น้ำหนักลงทีละนิด
Focus ได้ดีขึ้น มีวินัยมากขึ้น
และมีเวลาว่างมากขึ้น เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องกินข้าวเย็น
ผมก็ใช้เวลาส่วนนี้ไปเล่นกับลูก พาลูกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ
พอเล่นกับลูกช่วงเย็นไปแล้ว ช่วงดึกก็มีเวลา Trade หรืออ่านหนังสือเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

พอมาดูอะไรที่เป็นตัวเลขอย่างผลตรวจสุขภาพ
ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเลยแหละ
คอลเลสเตอรอลลดลงจาก 198 เหลือ 182 แล้ว



สำหรับผมตอนนี้ก็ไม่ได้ใช้ App ช่วยแระ
เพราะทำเป็นกิจวัตรไปแล้ว
ที่เหลือแค่ทำต่อไป แล้วก็ควบคุมอาหารให้มีคุณภาพในการกินแต่ละมื้อให้มันดีขึ้นแค่นั้นเอง


ส่วนใครที่อยากจะเริ่มทำก็ศึกษาข้อมูลให้ดีๆก่อน
หากป่วย หรือ มีโรคประจำตัวก็ปรึกษาหมอก่อนนะครับ
ของผมโชคดีมีเพื่อนในกลุ่มทำ IF กันหลายคน เลยถือว่ามีที่ปรึกษาเยอะแยะเลย


ส่วนสิ่งที่จะเจอ ก็คือ... (อ้างอิงจากที่ผมเจอนะ)

1. ความหิว ต้องเจอแน่อยู่แล้น ปัดโถ่ ... ตรงนี้ก็อาศัยการแยกแยะเอา ความหิว ความอยากกิน มันคือสิ่งที่เราสร้างขึ้นเอง ไม่ได้มีอยู่จริง กินน้ำสักแก้ว สองแก้ว ก็หายหิวแล้ว ไม่ไหวก็กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล (แต่อย่างไปดื่มก่อนเข้านอนล่ะ)

2. การล้มเลิก ... "ไม่ทำแล้วหว่ะ มันคงไม่เหมาะกันเรา" อันนี้ คือ ให้เคารพให้เกียรติคำพูดตัวเองอย่างเดียวเลย เช่น ผมบอกกับตัวเองว่าจะกิน 2 มื้อ ก็เคารพคำพูดตัวเองว่ากูจะกินแค่ 2 มื้อ ถ้าทำได้ เราจะมีพลังในการทำมันต่อๆไปมากขึ้นเรื่อยๆ

3. ความพ่ายแพ้ ... เผลอกินไปอ่ะ หรือ ตบะแตก แดกหมูกะทะ ... ก็ปล่อยวางความพ่ายแพ้ตรงนั้น แล้วมุ่งหาต้นตอว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรา "เลือก" ที่จะไปแดกหมูกะทะ ซัดชานมไข่มุก ลองถามตัวเองดูว่าเราคิดอะไรอยู่ตอนนั้น ทำไมเราถึงเลือกเดินทางซ้าย ทั้งๆที่เราตั้งใจ ตั้งมั่นที่จะไปทางขวา ... ถามตัวเองดูแล้วลองหาคำตอบว่าเราค้นพบอะไรในกระบวนการคิดของเรา "อะไรที่เราทำแล้วไม่ work แล้วครั้งหน้าเราจะทำอย่างไรต่อไป ... มันไม่มีอะไรผิดหรอก เราแค่กินหมูกะทะ อะไรงี้ จากนั้นก็ปล่องวาง สร้างเกมของเราขึ้นมาใหม่ซะ!


สุดท้ายก็ขอให้ทุกท่านสุขภาพดี สนุกกับเกมที่จะทำให้ชีวิตเรา Work นะครับ ^ ^

Saturday, March 9, 2019

0828 : อย่ามองข้ามเรื่องพื้นฐาน

 
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปบรรยายเรื่องการวางแผนการเงินส่วนบุคคลให้กับกรมบังคับคดี จ.นนทบุรี มาครับ เค้าให้โจทย์มาเป็นหัวข้อ "สร้างชีวิต สร้างสุข สร้างวินัยทางการเงิน" กับ "หนทางห่างไกลหนี้"

ตอนแรกก็กังวลเหมือนกันกลัวว่าจะเตรียมตัวบรรยายแล้วไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เอาเข้าจริงพอไปถึงก็ติด Stun เหมือนกัน เพราะคนที่มานั่งฟังส่วนใหญ่อายุ 50+ ละ แต่ก็มีคนวัยเริ่มต้นทำงานด้วยบางส่วน เราก็บอกกับตัวเองว่า ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว เราบรรยายจากใจ ไป Out Here อยู่ตรงนั้น และ Dance ไปกับสถานการณ์ ส่งคุณค่าเต็มที่ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

การบรรยายก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เฮฮา มาก พอจบงานก็รู้สึกว่าเติมเต็ม และมีความสุข มีคนเดินมาหาหลังงานบอกกับผมว่า "ขอบคุณ ได้ประโยชน์มาก จะเอาไปใช้ในชีวิต" เรานี่แบบ เออ... มันได้ผลโว้ย สิ่งที่เราทำ มันส่งต่อถึงคนได้!


สิ่งที่ผมเอาไปบรรยาย ก็การเงินส่วนบุคคลพื้นฐาน เลย สรุปคร่าวๆมาให้ก็ประมาณนี้ครับ

1. การกลับมารู้จักตัวเอง ผ่านงบการเงินส่วนบุคคล
- งบรายรับ-รายจ่าย
- งบแสดงฐานะทางการเงิน
ว่าปัจจุบันเราอยู่ ณ จุดไหนของชีวิต
สภาพคล่องเป็นอย่างไร
ออมเงินได้กี่ % ของรายได้
ทรัพย์สิน มีอะไรบ้าง มัน Generate รายได้ให้เท่าไหร่ อย่างไร
หนี้สินล่ะ อัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ ผ่อนชำระต่องวดมากน้อยแค่ไหน


2. ให้หัดทำ ประมาณการงบรายรับ - รายจ่าย ล่วงหน้า
เริ่มจากสมการ "รายได้ - เงินออม = รายจ่าย"
ให้ Forecast ค่าใช้จ่ายก้อนเดียวที่มันจะเกิดออกมาให้ได้มากที่สุด เช่น ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าเทอมลูก ค่าเปลี่ยนยางรถยนต์ ฯลฯ อะไรพวกนี้ เพราะค่าใช้จ่าย one time เหล่านี้แหละ มันเป็นตัวดึงสภาพคล่อง หรือทำให้เราต้องเป็นหนี้บัตรเครดิต หากไม่มีเงินเตรียมไว้ Support มัน

ข้อนี้ให้กลับไปทำเป็นการบ้าน จริงๆถ้ามีเวลาพอ จะให้ทำกันเลย เพราะกลับบ้านไปมีโอกาสไม่ได้ลงมือทำสูงแหละ T T
 

3. ให้จดบัญชีรายรับ-รายจ่าย หรือ บัญชีครัวเรือน
อันนี้ก็แนะนำให้จดผ่าน App กันไป เพราะมันสรุปให้ Auto สะดวกในการเอามาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับ งบประมาณรายรับ - รายจ่าย ที่เราวางไว้



4. นำข้อมูลมาเปรียบเทียบกัน ระหว่าง รายรับ-รายจ่าย ที่เกิดขึ้นจริง กับ งบประมาณ ที่ตั้งไว้ ใช้มากใช้น้อย แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร พฤติกรรมของเรา หรือ เราตั้งงบไม่ Match กับ Lifestyle ของเราไหม ?

ถ้าเราจดบัญชีรายรับ-รายจ่าย จากชีวิตเราจริงๆ เราจะสามารถนำไปตั้งงบประมาณที่ใกล้เคียงกับ Lifestyle ของเรามากๆเลยแหละ เพราะมันคือชีวิตเราจริงๆ

หรือบัญชีรายรับ-รายจ่าย จะบอกกับเราได้ว่า อะไรคือสิ่งที่เป็น ของแพ้ทาง เช่น เราจ่ายให้อะไรบ่อยๆ โดยที่ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อหรือบริโภคมัน เช่น ของเล่น หรือ ของกินที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แล้วเราอยากสร้างนิสัยอะไรใหม่ให้ชีวิตเราไหม โดยการงดของเหล่านี้ เราก็เลือกได้นะ
 
 
5. สร้างพื้นฐานของ Wealth หรือ สร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี หลักๆก็คือ

5.1 สภาพคล่องเป็นบวก
ข้อนี้ก็คือจากสมการ รายได้ - เงินออม = รายจ่าย แล้วมีเงินเหลือทุกเดือน
 
5.2 มีเงินออมสำรองเผื่อฉุกเฉิน อย่างน้อยๆก็ 6 เท่าของ ค่าใช้จ่ายรายเดือน
เงินออมที่เก็บจากข้อ 5.1 ก็เอามาออมในข้อนี้ก่อน หลักมันง่ายคือ สมมติ ค่าใช้จ่ายเรา 30,000 บาท / เดือน เงินที่ต้องเก็บไว้สำรองก็คือ 30,000 x 6 เท่า = 180,000 บาท ส่วนการเก็บก็เก็บในบัญชีที่มีสภาพคล่องสูง เช่น บัญชี Saving , Money Market Fund

5.3 วางแผนออมเงินเพื่อเกษียณ & วางแผนภาษี
เริ่มจากการคำนวณเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณก่อน ง่ายสุดก็ดูจาก Lifestyle ของเราในปัจจุบันว่าเราใช้เงินเดือนนึงสักเท่าไหร่ พอเราเกษียณแล้วก็จะใช้ประมาณนั้นแหละ แล้วปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อ เช่น ตอนนี้ใช้เดือนละ 40,000 x 12 เดือน x 20 ปี (ถ้าคิดว่าเกษียณ 60 แล้วจะอยู่ถึงอายุ 80) = 9,600,000 บาท x 2.1 (ตัวคูณเพื่อปรับอัตราเงินเฟ้อของคนที่อายุงานเหลือ 25 ปี เกษียณ) = 20,160,000 บาท

ที่นี้ก็เอามาหาดูว่าจะไปให้ถึงเป้าหมาย 20,160,000 บาท ณ วันที่เราอายุ 60 ต้องทำยังไงบ้าง หลักๆมันก็ขึ้นอยู่กับ เงินที่ออม , ระยะเวลา , อัตราผลตอบแทน ตรงนี้ใช้ App EZ Financial Calculator คำนวณเอากดใช้ง่ายๆ



แล้วเราก็คำนวณดูว่าจะไปให้ถึงต้องใช้ Investment Vehicle อะไรในการเดินทาง ก็ไม่พ้นต้องพึ่งกองทุนหุ้นแหละ ผลตอบแทนที่คาดหวังก็สัก 8-12% ควรวางแผนแบบ Worst Case Scenario ให้ชีวิตเรานะ เพราะเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยังไงเราก็ต้องแก่ (ถ้าไม่ม่องเท่งไปก่อนวัยอันควร)

เสร็จก็มาเลือก Product ที่จะใช้เป็น Investment Vehicle ต่อ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ , RMF , LTF เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีด้วย (ส่วนนี้ใช้ App iTax Pro ในการคำนวณว่าจะใช้อะไรลดหย่อนเท่าไหร่)

 
หากมีเงินออมในโควต้าส่วนที่เหลือจากการลดหย่อนภาษี จะมาใช้กองทุนรวมหุ้น หรือ เลือกหุ้นรายตัวด้วยตัวเองก็ไม่ว่ากัน

งานต่อไปก็จะเป็นการ Monitor ผลตอบแทนให้มันอยู่ในเส้นทางที่จะพาเราไปให้ถึงเป้าหมายนั่นแหละ


5.4 ป้องกันความเสี่ยงด้านการเงิน
ส่วนนี้เป็นการเลือกทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันทรัพย์สิน ให้เพียงพอต่อความต้องการพื้นฐานของครอบครัว โดยดูจาก...

ทุนประกันที่ควรมี = ภาระหนี้ที่มี + ทุนเพื่อตั้งหลักให้ครอบครัว + ทุนการศึกษาลูก (ถ้ามี) - ทรัพย์สิน - ทุนประกันเดิมที่มีอยู่แล้ว

แต่จะซื้อประกันก็คำนึงถึงสภาพคล่องไว้ด้วย ซื้อเยอะไปเด๋วกินแกลบอีก 555

อ้อ การมีสติ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงก็เป็นการป้องกันความเสี่ยงอีกแบบนึงนะ ^ ^


จบแล้วครับ เรื่องพวกนี้เป็น Basic ของการสร้าง Wealth เลย หากเรามีฐานที่ดี ก็จะช่วยให้เราอยู่ในโลกของการสร้าง Wealth ได้อย่างสบายใจมากขึ้น ไม่ต้องเหลียวมองหลังบ่อยๆ จะทำอะไรก็สามารถมองไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่เนอะ


แล้วก็มีเกมมาแนะนำให้เล่น มันชื่อว่าเกม The Life Simulator ผมเล่นบน iOS นะ สิ่งที่ผมค้นพบจากเกมนี้ และการสร้าง Based of Wealth ของชีวิต ณ ตอนนี้ ก็คือ หากเรามี Wealth ที่ดี เราจะไปต่อในชีวิตเราอย่างสบายใจเลยแหละ ชีวิตมีแต่มุ่งไปข้างหน้าเท่านั้น เพราะเรา Complete กับอดีต หรือ ข้างหลังเราหมดแล้ว เรื่องเงินก็อยู่ในแผน จัดการได้ พอจะทำอะไรมันก็ลุยได้เต็มที่ครับ


ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และหวังว่าจะนำคุณค่าที่ได้ไปลงมือทำในชีวิตของท่านนะครับ

Friday, March 8, 2019

0827 : Bitcoin Scalping 16


     Port Scalp เริ่มเจอ DD ละ ยิงไป 40 นัด จากโควต้า 107 นัด ก็ยังถือว่าสบายๆอยู๋ มีพื้นที่ มีเวลาให้ยึดครองอีกเพียบ จริงๆอย่างให้มันกลับไปเล่นโซน 2 ของเรามากกว่าคือเหนือ $3,982 แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ไปก็ไม่ไป นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น 555 ไอ่ที่หวังอยากให้มันไปเล่นเหนือ $3,982 นั่นคือเรื่องราวทั้งหมดแหละ

     Port Mudley World Challenge รอบเดือนกุมภาพันธ์ ติดอันดับ 1 ใน 80 กะเค้าด้วย เย้! (ได้ที่ 75 โคตรเฉียด 555) ตอนแรกนึกว่าจะหลุดแล้วนะ เพราะ Activity เราน้อยมาก ทั้งเดือนยิงไป 143 นัด เฉลี่ยก็ตกวันละ 5 นัด ถ้าไม่ได้จังหวะกินระยะที่มันร่วงลงมาแรงๆก็หลุดไปละ

     เดือนมีนาฯ ก็ลุยใหม่ Focus กับ Activity มากขึ้น หากเรามี Structure Port ที่เอื้อต่อการ Scalp เก็บระยะสั้น , ยาว ที่เหลือก็อยู่ที่เรามีเวลาเก็บความผันผวนที่ตลาดมันวิ่งไปวิ่งมาแค่นั้นเอง


กราฟ Bitcoin ตอนนี้ก็ต้องบอกว่า ยืนหว่ะ!


 

การถือครองของรายใหญ่ ลดลงนิดหน่อย เหมือน Re-Balance กำไรออกไปนิดนึง (หากเทียบกับตอนที่ Cap ไว้ครั้งที่แล้วนะ)




"ย้อนมองตัวเอง"

สิ่งที่ Work : การมีกระสุนเก็บระยะติดไว้ทำให้เวลาตลาด Spike แรงๆ ช่วยให้เราเก็บคะแนนได้สูงมาก เพราะงั้น เวลาปิด อย่าปิดเพลิน เหลือไม้ยาวติดไว้ด้วย , Activity สำคัญ จะได้มากได้น้อย เก็บ Vol ไว้ก่อน 555 , ทำ Fasting ได้ต่อเนื่องและชินมากขึ้น ทำให้รู้สึกโล่งๆ พุงไม่แน่นดี

สิ่งที่ไม่ Work : การไม่ใส่ใจการเทรด เห็นจากการที่เทรดไปแค่ 143 นัด

สิ่งที่ Missing : การออกกำลังกาย , การทำสมาธิ หายไปจากชีวิตเลย

What's next : ใส่ใจที่จะสร้าง Activity ว่างก็เปิดจอดู , กลับมาออกกำลังได้แล้ว , ทำสมาธิ 10 นาทีก่อนนอนด้วย