Pages

Sunday, October 21, 2012

0076 : Value Visions 21-10-2012


สวัสดีครับ

1. พรุ่งนี้วันจันทร์แล้ว
ตลาดเปิดมาคงแดงตาม DJ แหงๆ
( ผมเดาทีไรหน้าแหกทุกที )
แต่ไม่ว่าตลาดไปทางไหน
โมเดลที่ผมออกแบบไว้ก็ทำเงินได้อยู่ดี
DSM หุ้นลง ซื้อคืนถูกกว่าขาย เงินเหลือ
KZM หุ้นขี้น ขายแพงกว่าซื้อ ได้ตังค์

สำหรับผมแล้ว หุ้นแต่ละไม้ มีหน้าที่ของมัน
เราเป็นแม่ทัพ เราต้องกำหนดหน้าที่ให้มัน
ไม่ใช่ปล่อยกองกำลังของเราลงไปรบ
แบบมั่วๆ มึนๆ ตัดสินใจตามเหตุการณ์เฉพาะหน้า


2. ตอนนี้ผมทำงานประจำอยู่
แต่ก็มีความฝันที่อยากจะมีอิสระภาพทางการเงินครับ
หนทางสู่ Financial Freedom ของผมก็คือ
การสะสม Asset ที่ให้ Passive income กับผม
โดยที่ passive income นั้น Cover ค่าใช้จ่าย
ของครอบครัวผม 2 เท่าเป็นอย่างน้อย
ผมถึงจะเรียกว่า อิสระภาพทางการเงิน ของผม
( ของแค่ละคนไม่เท่่ากันนะครับ
แล้วแต่แผนชีวิตของแต่ละคน )

ผมมาคิดดู การที่ผมสะสม Asset ให้มี
Passive income ก็เหมือนผมจ่ายเงินเดือน
ให้ตัวผมเอง ซึ่งเงินจำนวนนี้มันก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น
ทุกปีๆ ถ้ามันมากกว่าเงินเดือนจากงานประจำ
ของผมเมื่อไหร่ เท่ากับว่าผมมีอิสระภาพแล้ว

ผมอยากให้คุณลองหาทางจ่ายเงินเดือนให้ตัวเองดู
บางทีในวันข้างหน้า...
มันอาจจะกลายเป็นรายได้หลักของคุณก็ได้
ใครจะไปรู้...


โชคดีและมีสติในการลงทุนครับ

Thursday, October 18, 2012

0075 : Value Visions 18-10-2012


ช่วงนี้้เนตกากมากครับ
เลยต้องอัพ Blog ผ่านทาง iPhone แทน


มุมมองของผมในตอนนี้
ผมมองว่าหุ้นเป็นพาหนะเพื่อความมั่งคั่ง
เราไม่ควรยึดติดกับหุ้นที่ไม่ทำเงินให้เรา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นที่นิ่งสนิทในตลาดกระทิง
เพราะช่วงตลาดกระทิงนี้
เป็นช่วงที่เราควรจะโกยเงินเข้าพอร์ตเข้ากระเป๋า
ให้มากที่สุด เพราะโอกาสชนะมีมาก
มากกว่าไปหาหุ้นที่จะขึ้นในช่วงตลาดหมีแน่ๆ
เพราะงั้นเราจคงไม่ควรยึดติดกับหุ้นนิ่ง
ในยามที่ตลาดวิ่งแรง
เพราะจังหวะที่ตลาดมีแรงส่ง
ถ้ายังวิ่งไม่ออกแล้วจะไปวิ่งเมื่อไหร่
แล้วเมื่อไหร่คนถือจะรวย จริงไหมครับ


ราตรีสวัสดิ์ครับ : )

Wednesday, October 17, 2012

0074 : Basic KZM 2


เมื่อคราวที่แล้วผมพูดถึง Concept คร่าวๆของการเทรดแบบ KZM ไปแล้วนะครับ
คราวนี้ผมจะมาต่อในเรื่องของ " กอง A "  ซึ่งถือเป็นกองกำลังหลักของโมเดลครับ
กอง A อย่างที่บอกเอาไว้ในคราวที่แล้วว่า
กอง A มีหน้าที่ เป็นกองกำลังหลัก โดยจะรบแบบยึดครองพื้นที่ ( Zone Trading )
และก็มีหน้าที่อีอย่างก็คือ เพื่อให้เราได้ฝึก " วินัย " ในการเทรดนั่นเอง

เริ่มแรกในการ Set กอง A นะครับ
เริ่มจากการที่เราต้องรู้ก่อนว่า เรามีงบประมาณในการรบเท่าไหร่ ?
เอ๊ะ หลายคนอาจจะงงว่า งบประมาณในการรบอะไรของแก ?
งบประมาณในการรบ ก็คือ เงินในหน้าตักของเรานั่นเองครับ

สมมุติว่าเรามีเงิน 100,000 บาท
ถ้าเอามาเทรดแบบ KZM ก็จะแบ่งเงินก้อนนี้เป็น 4 ส่วน สำหรับกองกำลัง 4 กองของเรา
ก็ตกอยู่ กองละ 25,000 บาทครับ

25,000 บาท นั่นคืองบประมาณการรบของแต่ละกองนั่นเองครับ

ที่นี้เราก็เอา จำนวนเงิน 25,000 บาท
มาคำนวนดูว่า จากจุดที่ราคาหุ้นต่ำสุดไปหาสูงสุด
เราจะเอาเงิน 25,000 นี้มาเล่นอย่างไร ให้เล่นได้ตลอด
ไม่มีเงินหมดหน้าตัก ไม่มีหุ้นหมดมือ
เทรดสร้างระแสเงินสดแฝงไปอีกนานเท่านาน

เราก็แบ่งโซนสิครับ
จากราคาหุ้นตั้งแต่จุดที่เราคิดว่าต่ำที่สุด ไปหาสูงที่สุด
25,000 บาทนี้ จะซื้อหุ้นได้ทั้งหมดกี่ไม้

สมมุติได้ 100 ไม้
เราก็จะแบ่งโซนที่ราคาต่ำสุดไปจนถึงโซนสูงสุด ดังนี้ครับ
ราคา 1.01 - 1.05 บาท เราก็จะเรียกโซนนี้ว่าโซน A1
ราคา 1.06 - 1.10 บาท คือ โซน A2
ราคา 1.11 - 1.15 บาท คือ โซน A3
...ไปเรื่อยๆจนถึงช่วงราคาที่เราคิดว่าสูงสุด
( เผื่อไว้สำหรับ New High ที่เราคาดไม่ถึงสักนิดก็ได้นะครับ )

ที่ต้องแบ่งโซนก็เพื่อเป็นการเทรดแบบค่อยๆยึดครองพื้นที่ไปทีละส่วน
โดยไม่เสี่ยงครับ เรียกว่ามี Money Management นั่นเอง
เสี่ยงทีละน้อย เข้าซื้อเป็น Unit ที่เล็กๆ เวลาเราคิดผิดเราจะไม่เจ็บตัวครับ
พอถูกขึ้นมาก็ค่อยซื้อเพิ่ม เสี่ยงเพิ่ม ยังไง จริงไหมครับ


ทีนี้เวลาเราเข้าซื้อ เราก็จะเข้าซื้อ " โซนละ 1 ไม้ " ก่อนครับ
เช่น สำหรับผม ผมมักจะกำหนดไว้ว่าผมจะจะซื้อแต่ไม้กลางโซน
คือ ที่ราคาที่ลงท้ายด้วย 3 กับ 8 เช่น
ซื้อที่ 1.03 จำนวน 100 หุ้น เป็นโซน A1
ซื้อที่ 1.08 จำนวน 100 หุ้น เป็นโซน A2
ไปเรื่อยๆครับ

แล้วพอเรารับหุ้นเข้าโซน ก็ต้องมีการ Generate CashFlow
สร้างกระแสเงินสด เพื่อเป็นรายได้ให้พอร์ตใช่ไหมครับ
เราจะ Generate CashFlow โดยการขายเมื่อข้ามโซนครับ
อย่าง A1 ผมซื้อที่ 1.03 บาท ผมก็จะไปปล่อยที่ 1.13 บาท ( ปล่อยเมื่อราคาหุ้นวิ่งข้ามไปโซน 3 )

แล้วพอตลาด Swing ลงมาที่ 1.03 อีกรอบ
ผมก็เก็บหุ้นเข้าโซน A1 ใหม่
ถ้าไปที่ 1.13 ผมก็ปล่อยไปเพื่อเก็บ CashFlow
หากเจอตลาด Sideway นานๆ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่เดือดร้อนครับ


การเทรดแบบ KZM นั่น เราเริ่มต้นเทรดเมื่อไหร่ก็ได้
เพราะ ไม่ว่าหุ้นจะไปทางไหน เราก็มีแผนรับมือไว้หมดแล้ว

เช่น เราอาจจะเข้าในราคาที่สูงหน่อย
เอาสักราคา  1.88  ก็แล้วกัน โดยที่เราซื้อ 100 หุ้น
ถ้าลงไป 1.83 , 1.78 เราก็รับเพิ่มไม้ละ 100 หุ้น
หากมัน Swing ขึ้นก็เทรดตามโซนเบกระแสเงินสด
ต้นทุนของหุ้นในมือเราที่เหลือก็จะต่ำลงด้วยครับ

แล้วถ้าหุ้นลงมากๆ จนนิ่งแล้วเริ่มกลับตัว หรือ หุ้นทำท่าว่าจะวิ่ง
เราก็สามารถซื้อรวบโซนบนๆไว้ ในราคาต่ำ ก็ได้ครับ
เช่น ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.03 เราก็ซื้อ 1.03 รวบไว้เลย 10 ไม้
ก็เป็นจำนวน 1,000 หุ้น สำหรับเล่นในโซน A1 - A10 ได้เลยครับ
นี่ก็เป็นเทคนิคลูกเล่นอีกแบบของ KZM ครับ


แล้วพวกกระแสเงินสดที่เราทำได้จาก Zone Trading
พอได้มากๆเข้าเราก็จะเอามาขยายโซนครับ
เช่น A1 ปกติเราซื้อไม้ 100 หุ้นที่ 1.03
เราก็จะเอากระแสเงินสดมาซื้อเพิ่มที่ 1.02 หรือ 1.04 อีกไม้ละ 100 ก็ได้ครับ
ที่นี้พอเรามีหุ้นครบทุกช่องในโซน เช่น
1.01 ไม้ละ 100
1.02 ไม้ละ 100
1.03 ไม้ละ 100
1.04 ไม้ละ 100
...   เราแทบจะสร้างกระแสเงินสดได้ทุกวันเลยครับ
จากนั้นก็เอากระแสเงินสดที่ได้ มาเพิ่มจำนวนหุ้นในแต่ละช่อง
จาก 100 หุ้น ก็เพิ่มเป็น 200 , 300 , 400 , 1,000 , 10,000
ลองจินตนาการดูว่า CashFlow ที่ได้มันจะขนาดไหนกันครับ ?
เรียกได้ว่ากอง A จะกลายเป็นเครื่องปั้มเงินหลักของเราเลยทีเดียวครับ

 

กอง A เท่าที่นึกออกก็มีเท่านี้อยู่นะครับ
ถ้านึกอะไรออกก็จะมาเพิ่มเติมในตอนหน้าครับ
ตอนหน้าจะมาพูดถึง กอง B คู่ กองกำลังป้องกันกอง A ครับ

Wednesday, October 10, 2012

0073 : Basic KZM



วันนี้ผมจะมาพูดถึงการเทรดแบบ KZM แบบ Basic นะครับ
ซึ่งเจ้าตำหรับการเทรดแบบนี้ก็คือพี่ต้าน Mudley Group นั่นเอง
ซึ่งผมเองก็อาศัยเรียนรู้จากสิ่งที่พี่ Mudley เค้าได้เผยแพร่ไว้
ตาม Pantip หรือใน Blog ของพี่เค้าครับ

การเทรด KZM นั้น หากเรามองผิวเผินอาจจะดูเหมือนยุ่งยาก
เพราะมีตั้ง 4 กอง แถมยังให้แบ่งการเข้าซื้อเป็น Unit ย่อยอีก
ซึ่งอันที่จริงแล้วหากเราตั้งใจมองและทำความเข้าใจดีๆ
เราจะพบว่าการเทรดแบบนี้ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่เราคิดเลยครับ
ตรงกันข้าม มันกลับง่ายมากๆด้วย ง่ายจนผมเอาไปสอนแฟนผม
เค้าเข้าใจ concept ใน 5 นาทีด้วยซ้ำ

ก่อนอื่นต้องแนะนำก่อนว่า KZM คืออะไร
KZM ย่อมาจาก Killer Zone Model by MudleyGroup ครับ ยาวม่ะ : )
อันที่จริงมันคือการเทรดแบบ Fraction Trading ซึ่งพี่ Mudley
เค้าอธิบายว่ามันคือ "การต่อสู้โดยสัดส่วน"
เหมือนตลาดหุ้นเป็นสงคราม
ตัวนักลงทุนแต่ละคนก็คือแม่ทัพ
เงินของนักลงทุนแต่ละคนก็คือกองทัพ
การต่อสู้โดยสัดส่วน ็คือ การแบ่งเงินของเราเป็นส่วนย่อยๆ
เหมือนเป็นกองทัพเล็กๆ เพื่อส่งไปต่อสู้กับกองทัพของคนอื่น
( เช่น นลท. สถาบัน , นลท. ต่างประเทศ ) ในสถานการณ์ต่างๆ
โดยเงินที่เราแบ่งไว้เป็นส่วนย่อยๆ จะเรียกว่า "กอง"
แต่ละ "กอง" ก็จะมีหน้าที่แตกต่างกันไป

พี่ Mudley เค้าจะให้แบ่งเงิน เป็น 4 กอง เท่าๆกัน นะครับ ดังนี้ครับ
กอง A   เป็นกองกำลังหลัก ( Zone Trading )
กอง B   เป็นหน่วยรบคุ้มกันกอง A ( Day Trade )
กอง C   เป็นหน่วยรบแบบกองโจร ( Technical Trading )
กอง D   เป็นหน่วยอารักขากองโจร ( Day Trading )

โดยทั้ง 4 กอง ก็จะมีหน้าที่ต่างกัน บทบาทต่างกัน
และแต่ละกองยังช่วยฝึกฝน Skill ในการเทรดให้กับเรา ดังนี้ครับ

กอง A ช่วยฝึกเรื่องวินัยในการเทรด ( เทรดตามโซน )
กอง B เป็นการฝึกสัญชาติญาณในการเทรด ในการหาจุดออกทำกำไร ใน Zone
กอง C เป็นการฝึกอ่านกราฟ เทคนิคคัล Skill รวมทั้ง Trading Skill
กอง D เป็นการฝึกสัญชาติญาณในการเทรด ในการหาจุดออกทำกำไร

ครั้งต่อไปผมจะมาพูดเจาะลงไปในแต่ละกอง ทีละกองนะครับ

อ้อ ผมลืมพูดถึงเรื่องวัตถุประสงค์ของ KZM
KZM นั้นพี่ต้ามเค้าออกแบบมาเพื่อให้อยู่รอดในตลาด
แม้ว่าจะเจอสถานการณ์ร้ายเพียงใด ก็จะสามารถอยู่รอดได้
ออกแบบมาเพื่อสร้างกระแสเงินสดครับ
แล้วก็เอากำไรในรูปกระแสเงินสดเนี่ย ไปต่อยอดอย่างอื่น
พี่ต้านให้ใช้แค่ครรึ่งนึงของกำไร ไปลงทุนแบบอื่นๆที่หวังผลตอบแทนมากๆ
อาจจะ KZM กับหุ้นปั่น ( เรียกว่า Virus Trading ) เพื่อเร่งกระแสเงินสด
ไม่ก็ Bet Unexpect Event กับพวก Call หรือ Put Option
หรือเก็งกำไรอย่างอื่นที่เราถนัดครับ เพราะถึงจะพลาด เราก็จะพลาดแค่กำไร
ไม่เกี่ยวกับทุนของเราครับ เพราะเราเอาแค่กำไรส่วนนึงมาเสี่ยง

นี่คือ KZM Basic Level 1 นะครับ
ซึ่งจริงๆแล้วพี่ต้านให้เทรดกับพวก ETF เท่านั้น
( แต่ผมแอบเอามาใช้กับหุ้น แหะๆ )
สาเหตุที่ให้เทรดกับ ETF ก็เพราะว่า ETF โอกาสเจ๊งน้อยมากๆๆๆ
ไม่ว่าตลาดจะถล่มยังไง หุ้นเจ๊งไปตัว ก็จะมีตัวอื่นที่เข้ามาใน ETF แทน
( เช่น SET50 เจ๊งไปตัวก็เหลือ 49 เสร็จก็มีตัวอื่นมาแทนให้ครบ 50 )
Level อื่นเด๋วค่อยพูดถึงก็แล้วกันนะครับ ผมก็เรียนถึง Level 2 อยู่เบยยยย > <

Sunday, October 7, 2012

0072 : Value Visions 07-10-2012


สวัสดีครับ

ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าตลาดบูมมาก
ยังไงก็เทรดกันอย่างระมัดระวังด้วยนะครับ

สัปดาห์ที่ผ่านมา
ผมปรับโมเดล DSM นิดหน่อย
ซึ่งเคยสงสัยตะหงิดๆในใจ
เกี่ยวกับ ส่วน 8 ของโมเดล

ที่ผ่านมาจะเข้าใจว่า DSM นั้น
มีหัวใจของโมเดลอยู่ที่การ ขายแพงกว่าซื้อ
ง่ายๆก็ขายแล้วไปรับคืนต่ำกว่า 5 ช่อง
หรือไม่ก็รอหุ้นกลับตัว
(จริงๆมีการรับคืน 3 แบบนะครับ)

แล้วส่วน 8 นั้น
ที่ผ่านมาผมก็รับคืนที่ 5 ช่องเช่นกัน
แบบนี้ก็เท่ากับว่า เราได้กำไรแค่ 5 ช่อง
ผมก็เลยตะหงิดๆใจว่า แล้วจะกำไรเยอะๆยังไง
ก็เลยหาคำตอบจากเวบบอร์ดส่วนตัวของคุณเด่นศรี
ซึ่งผมจำได้ว่าเคยอ่านผ่านตาแว๊บๆ
เลยเข้าไปอ่านอีกครั้งนึง
ไล่อ่านหลายกระทู้เลยครับ
ได้ความว่า DSM นั้นคือการพาหุ้นไปให้ไกล
แล้วเปลี่ยนส่วน 8 ให้เป็นเงินสด
แล้วกลับมารับหุ้นในราคาถูกที่สุด
ง่ายๆก็ตั้งไว้ว่าจะรับคืนส่วน 8
เมื่อราคาลงมา 100 ช่องก็ได้(ถ้าคิดอะไรไม่ออกนะ)
ผมก็เลย Get ว่า ที่ทำอยู่นั้นมันผิด
เลยเปลี่ยนใหม่ คือ ส่วน 8 ต้องรอรับตอนหุ้นถูกๆ
แม้จะรอนาน แค่ก็สามารถใช้ "ช่องว่าง"
"แปลงร่าง" ไปเล่นตัวอื่นไปพลางๆได้

DSM มีลูกเล่นหลายแบบจริงๆ
ยิ่งมีหุ้นหลายๆตัวยิ่งสนุก เพราะได้ตังค์ทุกวัน
ผมเลยชอบเทรดตามโมเดลครับ
ไม่ว่าจะ DSM หรือ KZM
เพราะเหมือนเราเล่นตามแผน
ตามเกมที่เรากำหนด
ไม่ใช้ไปดิ้นตามเกมที่เค้ากำหนด
พอโดนเค้าตบก็ตายไรงี้ : )