Pages

Friday, December 30, 2016

0490 : Review ตัวเอง ณ สิ้นปี 2559


สวัสดีครับ วันนี้มาส่งท้ายปีเก่าด้วยการ Review ตัวเอง ณ สิ้นปีดู จากที่ตั้งเป้าหมายไว้เมื่อต้นปี 2559 ตาม Entry นี้ครับ 0424 : เป้าหมายปี 2559

เป้าหมายที่ตั้งไว้ มีอยู่ 10 ข้อครับ ลองมาไล่ดูกันเลย

1. ข้อแรกขอเรื่อง Trade ก่อนก็แล้วกัน ปีที่ผ่านมาผิดหวังไปเยอะ ปีนี้ก็ตั้งเป้าตามที่ตั้งใจ ไม่หยุดพัฒนาจนกว่าจะทำ Cash Flow เฉลี่ยได้ 3% ต่อเดือนจาก Port หุ้นไทย

- ข้อนี้ยังไม่ถึงเป้าครับ ทำได้แค่บางเดือน แต่โดยรวมแล้วปีนี้ผมทำ Excess Cash Flow ได้ 11.83% (ตก 0.98% ต่อเดือน) ยังต้องปรับปรุงและพัฒนาต่อไปครับ แต่เริ่มเห็นทางบ้างละ เพราะจากที่เรียนรู้ปัญหามาตลอดปี ทำให้รู้ว่ามันด้อยตรงจุดไหน และ จะหาข้อได้เปรียบจากอะไร

หลักๆเลยคือ หาก Start Model ในจุดที่ได้เปรียบ จะสบายขึ้นเยอะเลย คือจะใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่า ทำให้ Excess Cash Flow ที่ Generate ออกมานั้นมี % ที่สูงเมื่อเทียบกับเงินลงทุน

ใช้ Time Base ให้เกิดประโยชน์ เช่นถ้าหุ้นนิ่ง ต้องลด Exposure ลง จะขายออกทำโซนล่างก็ได้ เพื่อดึงทรัพยากรกลับมายังฐานทัพไว้รอออกศึกครั้งต่อๆไป

อีกข้อนึงก็คือ Cash Flow ที่ทำได้ แล้วจะเอาไปทำ Expand Department หรือ Expand Zone ก็ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าหรือ Discount เช่นกัน ไม่งั้นก็เหมือนสร้างกระสุนขึ้นมาแล้วยิงไม่โดนเป้าเท่าไหร่

อ่อ อีกเรื่องคือ ปีหน้าจะเริ่มขยายพอร์ตไปฝึกเทรด option อีก 1 product เนื่องจาก Cash Flow ที่ทำได้นั้นค่อนข้างจะ stable แระ ก็จะเป้นตัวช่วยในการเพิ่ม gearing ให้พอร์ตอีกทางหนึ่ง (หวังว่านะ ฮ่าๆ)

ปีนี้เรื่องเทรด ผมตั้งโจทย์ที่ "ความสบายใจ" และ "ความต่อเนื่อง" ซึ่งถ้าวัดระดับมันก็ถือว่า ok เลยแหละ เทรดแบบสบายใจ นอนหลับฝันดีทุกวัน ใช้เวลากับการเทรดในแต่ละวันไม่มากเลย มีเวลาไปพัฒนาตัวเองในมิติอื่นๆของชีวิตได้อีกเยอะ


2. ลงวิ่ง Half Marathon เป้าหมายคือ งานวิ่งริมกว๊านพะเยา 26 km ในวันที่ 29 พ.ค. 2559 ตารางซ้อมที่กำหนดไว้ก็คือจะวิ่งสัปดาห์ละ 4 วันช่วงเช้าก่อนไปทำงาน เริ่มสัปดาห์นี้แหละ วิ่งวันละ 13 km แล้ว +1 km ไปเรื่อยๆ ทุกสัปดาห์ จนถึง 26 km น่าจะช่วงเดือนเมษาฯ จากนั้นก็วิ่งรักษาระยะนี้ต่อไป ค่อยๆขยับความเร็วเพิ่มขึ้นทีละนิดจนถึงช่วงแข่ง

- ข้อนี้ผมก็ทำไม่ได้หว่ะ งานวิ่งกว้านพะเยา ตัดสินใจไม่ไป เพราะไม่ว่างช่วงนั้น งานประจำแน่น ทำให้ไม่สะดวกที่จะลาพักผ่อนกลับบ้าน พอมาถึงเดือน ธ.ค. มีงานวิ่ง บางแสน21 ก็ไม่ได้สมัครอีก เพราะชนกับประชุมประจำไตรมาสพอดี T T จริงๆร่างกายก็ไม่พร้อมด้วย เพราะมีช่วงนึงหยุดวิ่งไปเลยเพราะเลิกงานค่ำ ทำให้พอกลับมาวิ่งออกกำลังอีกรอบช่วงปลายปี เหมือนคนเริ่มวิ่งใหม่เลย วิ่งแค่ 3 km ก็เหนื่อยแล้ว เลยเจียมตัวเองกลับมาเริ่มจากศูนย์ใหม่อีกครั้งครับ


3. ลดน้ำหนักให้เหลือ 72 kg เพื่อสุขภาพที่ดี ปัจจุบัน 84 kg วิธีที่ออกแบบไว้ก็คือ จดบันทึกอาหารและขนมที่กินทุกมื้อ แล้วก็คำนวณการออกกำลังกายโดยการวิ่งขั้นต่ำไว้ คือ สมมติว่าถ้ากินอาหารเหมือนเดิม แต่ออกกำลังกายเพิ่ม เอา kcal ออกเดือนละ 12,000 kcal ก็จะลดเดือนละ 1 kg กว่าๆ (มี Margin of Safety ประมาณ 50%) ปลายปีก็จะเหลือ 72 kg พอดี ซึ่ง 12,000 kcal ที่คำนวนนั้นตกวิ่งสัปดาห์ละ 4 วัน ระยะวิ่งวันละ 7.5 kg เอง ซึ่งหากซ้อมตามตาราง ข้อ 2 ยังไงก็ทำได้อยู่แล้ว

- ข้อนี้ทำไม่ได้แบบบัดซบมาก ฮ่าๆ ปลายปีชั่งน้ำหนักอีกที 88 โถ ชีวิต! ปีนี้ยอมรับกับตัวเองเลยว่ากินเยอะมากๆ Enjoy Eating ตามใจปากเกินไป อีกทั้งภรรยาท้องด้ย อยากกินอะไรนู๋ก็จัดให้เลยน้ำหนักขึ้นตามภรรยาเลย ฮ่าๆ

ไอ่แผนที่วางไว้ วิ่งสัปดาห์ละ 4 วัน วันละ 7.5 km น่ะเหรอ ทำไม่ได้เล๊ย T T ปีนี้วิ่งไป 366 km.



เพิ่งจะเริ่มมาจดบันทึกการกินเมื่อไม่กี่วันมานี้แหละ คิดว่าต้องทำเหมือนฝึกเทรดละ คือเขียนไดอารี่การกิน ซึ่งจะช่วยให้เรามีสติในการกินมากขึ้น เด๋วไว้คุยกันในการตั้งเป้าหมายปี 2560 อีกที


4. โยคะยืดกล้ามเนื้อ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 4 วัน ครั้งนึงไม่ต่ำกว่า 30 นาที จะเปิด youtube ยืดเองหรือไปเข้าคลาสก็ได้ โดยจดบันทึกความสำเร็จไว้ใน planner สิ้นปีมานับกัน (จากข้อ 2 ปัญหาไม่ใช่เราวิ่งไม่ไหว แต่เป็นเพราะเราวิ่งแล้วเป็นตะคริวตั้งแต่ km แรก เลยต้องมาฝึกยืดกล้ามเนื้อ ยืดเอ็น เพื่อให้ผ่าน km แรกๆไปโดยไม่เป็นตะคริว)

- นี่ก็ไม่ได้ทำตามที่ตั้งใจเหมือนกัน เพียงแต่เปลี่ยนจากโยคะ เป็นการยืดเส้นแบบง่ายๆ ทำทุกวันเลยแหละข้อนี้ เช่นท่าดึงแขน เหวี่ยงแขน ท่างู ทำวันละนิดละหน่อยตอนก่อนนอน และ ตอนตื่นนอน ... ช่วงระหว่างวัน ตอนทำงานก็จะตั้งนาฬิกาไว้ทุก 25 นาที ลุกขึ้นมายืดเส้นแล้วค่อยกลับไปนั่งทำงานต่อ สลับๆกันไป ข้อนี้ถือว่าผ่านอยู่ 555


5. กลับบ้านเชียงราย อย่างน้อย 3 ครั้ง เพื่อความสัมพันธ์ในครอบครัว งบประมาณ 6,000 บาท x 3 ครั้ง = 18,000 บาท Reserve ไว้รอเลย

- ข้อนี้ทำไม่ได้ แต่เตรียมตังค์ไว้แล้ว ที่ไม่ได้กลับก็เพราะ หาจังหวะลางานไม่ได้ ช่วง ก.พ. จะลาทีนึงละ Boss ไม่อนุมัติให้ตามที่ขอ ให้ได้แค่ 3 วัน เราเลยไปงานแต่งเพื่อนที่เชียงใหม่ ไม่ได้เลยกลับบ้านที่เชียงราย (จำฝังใจเลยคนคนนี้ ขออย่าได้ยุ่งเกี่ยวทำงานด้วยกันอีกเลย และถ้าเราเติบโตในหน้าที่การงานต่อไปในภายภาคหน้า เราจะไม่ทำแบบไอ่คนนี้เด็ดขาด) ส่วนช่วงที่ผ่านมาไม่ได้กลับก็เพราะภรรยาท้องอ่อนๆอยู่ เลยไม่อยากให้นั่งรถไกลๆ รอผ่าน 4 เดือนไปก่อน นี่ก็ Plan กลับบ้านอีกรอบไว้แล้วช่วงกลาง ม.ค.


6. สร้าง Port Generate Cash Flow เพื่อเป็นค่าเรียนมวยหวิงชุน งบประมาณราวๆ 3,000 บาท ต่อเดือน

- ข้อนี้เปลี่ยนไปเรียนว่ายน้ำแทน ทำสำเร็จไปละ ถถถ


7. พาภรรยาไปเที่ยวญี่ปุ่น งบประมาณ 90,000 บาท
 
- ข้อนี้ฮาดี จองตั๋วไว้แล้ว ช่วง เม.ย. 60 แต่ภรรยาดันมาท้องซะก่อน กำหนดคลอดน่าจะ พ.ค. 60 พอดี สรุปน่าจะอดไป ยอมทิ้งเงินค่าตั๋ว 28,000 กันเลยเรา 555 แต่ก็ดีใจไง ที่ได้ภรรยาตั้งท้องซะที ^ ^
 
 
8. ทำบริษัทส่งออกกับพี่สหายให้สำเร็จ Phase 1
 
- ข้อนี้พวกเราเปลี่ยนเป็นการทำธุรกิจใน Real Sector แทน ยังไม่สำเร็จ แต่อยู่ในระหว่างลงมือทำ ... เรามีสิ่งที่ติดค้างพี่สหายในการทำงานเรื่องนี้อยู่ 3 เรื่อง คือ เรื่องเรียนบัญชีออนไลน์ของ ม.ราม , เรื่องการเรียนทำเครื่องดื่ม และ เรื่องการศึกษาด้านสื่อสารการตลาด ซึ่งเราจะวางแผนจัดการเรื่องนี้ในช่วงปีใหม่นี่แหละ
 
 
9. ทำสัมมนาแนวกึ่งๆ Voice Dialogue เกี่ยวกับการยึดครอง Asset เพื่อสร้าง Wealth ในราคา Social Enterprise
 
- ไม่ได้คืบหน้าเลย ร่างหัวเรื่องที่จะพูดไว้บ้าง และทำ slide ไปสัก 10 แผ่นได้นี่แหละ ที่ไม่ค่อยคืบเพราะโดนงานประจำ + งานเทรด ดูด Energy ไปซะหมด ปีหน้าจัดการตัวเอง วางแผนเวลา วางแผน Energy ใหม่อีกรอบ
 
 
10. ยิ้ม หัวเราะ เป็นมิตร ให้อภัย ฟัง และ อ่านให้มากขึ้น วัดจากการจัดระดับวันดีๆ ในการเขียนไดอารี่
 
- ข้อนี้ทำได้หว่ะ เรามีความสุขมากขึ้นนะปีนี้ โดยรวมสุขมากกว่าทุกข์ มีสติ รู้ทันอารมณ์มากขึ้น แต่ยังมีน็อตหลุดบ้าง
 
ปีนี้เลือกตัดความสัมพันธ์ที่ไม่ก่อให้เกิดความสุขออกไป เช่น FB Page ไหนที่ไม่สร้างสรรค์ก็ unlike ออกไปซะ คนไหนที่เราทำงานด้วยแล้วเรารู้สึกว่าเค้าไม่ ok เลยก็เลือกที่จะถอยห่างออกมา ติดต่อกันแค่จำเป็นและต้องมีวิธีรับมือที่รัดกุม , ความสัมพันธ์ของผู้คนที่ไม่ ok ก็ unfriend , block ไปบ้างอะไรบ้าง ชีวิตมันก็มีความสุขมากขึ้น ... ความสงบ ความสบายใจมันจะเป้นตัวกรองให้เราเอง เราแค่มีหน้าที่ปฏิเสธสิ่งที่ไม่ใช่ให้ออกไปจากชีวิตเรา แฮ่!

Friday, December 23, 2016

0489 : After You


วันนี้ AU เข้าเทรดวันแรก แต่รู้ตัวละว่าทำงานทั้งวัน ไม่ว่างดูแน่ๆ ตอนเช้าเลยกด ATO ทิ้งไว้ก่อนไปทำงาน ใส่ไป 50% ของเงินที่เตรียมไว้วาง model (model ขโมยหุ้นธรรมดาๆนี่แหละ)


ช่วงเช้ายังไม่รู้เลยว่า match ที่เท่าไหร่ ... ช่วงพักเที่ยง มาดูอยู่แถวๆ 12.50 อ่อ กู in the money อยู่นี่หว่า ATO match 11.50
 

เลย test feeling ตลาดหน่อย ลองขายออกทำ Zone ไว้ SAP 1 bullet เผื่อว่ามีคนโยน Take Profit ทำ Rsik Free กัน แผนเราคือ กะว่าถ้ามีคนโยนก็คงลด exposure ลง ไม่ก็ทำ Risk Free ไปก่อน ...


พอเปิดบ่าย ไม่ลงแฮะ เปิดๆอ่าน Feed Facebook เห็น status บ่นๆกันว่า ไม่กล้าเข้า , คงมีแต่เม่าที่เข้าละมั๊ง , เม่าไล่ซื้อ , แพงไปแล้ว , บ้าไปแล้ว อะไรทำนองนี้ ... เอ้ย เราก็เลยลองถือต่อดู (ลองเดาๆสวน Feeling หน้า Feed Facebook ก็เลยถือต่อ ถ้าเห็นคนมาไล่ซื้อเมื่อไหร่ค่อยทำ Risk Free ก็น่าจะทันนะ แหะๆ)


เราก็ถือต่อ แล้วมาขาย mark zone ไว้ที่ 13.50 ที่ท้ายตลาดอีก 2 bullets เพื่อเอาไว้ฟีลตลาดในวันจันทร์

Thursday, December 22, 2016

0488 : Zero Alpha Zone


ตอนสร้าง port แรกๆ ก็มองมันบ่อยๆ สนใจว่ามันทำเงินได้กี่บาทแล้ว วันนี้ได้ CF เท่าไหร่กันน้า มูลค่าพอร์ตเป็นเท่าไหร่ จะดอยหรือจะ in the money ว้าาา


พอเทรดไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยสนละ ทำเงินได้เท่าไหร่? CF ต่อวันกี่บาท? มูลค่าพอร์ตมันก็แกว่งเช่นนั้นไป


อาจเพราะเราสนิทกับพอร์ตของเรามากขึ้น เริ่มรู้นิสัย พฤติกรรมของมัน (จริงๆก็คือพฤติกรรมของเรานั่นแหละ 555) เริ่มเห็น capacity ของมันชัดขึ้น


เมื่อก่อนดูมันทุกวัน หนักเข้าก็วันละหลายๆครั้ง ปัจจุบันก็วันละครั้ง พวก Ratio ของพอร์ตก็ดูอาทิตย์ละครั้ง มูลค่านี่ยิ่งไปใหญ่ เดือนละครั้งเลยทีเดียว ฮ่า


ในแต่ละวัน สนแค่ว่า เราเทรดตามแผนไหม แล้วผลของการ action มันเกิดอะไร เรารู้สึกอย่างไร มันกินพื้นที่ความสงบในใจเราไหม แค่นั้นเอง...


ปล. ชื่อ Entry นี้เอามาจาก Saijai Davakul อิอิ

Monday, December 12, 2016

0487 : Option เทียม AUDCHF


AUDCHF วันศุกร์เก็บกำไรไป 1 นัด ตัวนี้เทรดแบบใช้ option เทียมช่วย
 
Strategy คือ เรา Buy AUDCHF ไว้ 0.01 Standard lot (1 Micro lot) ใน port Tifia (สกุลเงิน USD ได้จากโบรคมาฟรี $500 เทรดได้เท่าไหร่ถอนได้หมด แต่ห้ามถอนทุน $500 ที่โบรคให้ไว้) โดยมองว่าเป็น Call Option เทียม แถมยังได้ดอกเบี้ยทุกวันจาก Swap+
 
ที่นี้เราก็เอา port XM (สกุลเงิน JPY) เงินในพอร์ต คือกำไรจาก port หุ้นไทย ทีนี้กลยุทธ์ก็คือเอามาเทรดหน้า Sell เพื่อเก็บ CF ดึงกระแสเงินสดออกจาก port tifia ที่โบรคให้เรามาฟรีๆ โดยจะแบ่งเล่นหน้า Sell ได้ 10 นัด (0.1 Micro lot)

Event ที่จะเกิดก็คือ
1. หากราคา AUDCHF วิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
- เราจะติด Sell ไปเรื่อยๆ แต่ NAV จะบวกๆๆ Exposure ฝั่ง Net Buy จะค่อยๆลดลงๆ จนเป็น Full Hedge ที่ Buy 1 นัด : Sell 10 นัด
- ณ จุดนั้น NAV จะบวก เราก็ TP ฝั่ง Buy ที่กำไรใน port Tifia และ Cut loss ฝั่ง Sell ในพอร์ต XM
- จากนั้นก็ถอนกำไรส่วนเกินจาก $500 ใน port tifia ส่วนหนึ่งเอามา cover loss ในพอร์ต XM กำไรส่วนเกินก็เก็บ Reserve เข้าพอร์ต Cash รอสร้าง Department ใหม่ต่อไป

2. หากราคา AUDCHF วิ่งลง
- นัดที่เรา Sell ไว้ จะกำไร ก็ปิด เอา CF มาตามจังหวะที่เรา Action
- ถ้ามันลงหนักจน Sell หมดมือก็ปล่อยไป เพราะได้ Swap+ จาก order buy ทุกวันอยู่แล้ว และก็ใช้ leverage น้อย คือโอกาสโดน Force น้อยมาก ต้องลงไป 0.3 โน่น

3. ถ้าราคาไม่ไปไหน
- ก็เทรดเก็บ CF จากกระสุนฝั่ง Sell ไปนั่นแหละ


กลยุทธ์ที่ใช้ Monitor ตลาด
- EMA 20 , 50
- ATR Day => Mean Reverse
- Gut (พ่วงไว้หน่อย 555)


Thursday, December 8, 2016

0486 : Diary 8 ธ.ค. 2559


มาดู forex ตัวที่ monitors ทีละตัวละกัน


AUDCHF หลุดดอยแล้ว run ต่อไปตาม EMA นั่นแหละ ช่วงนี้จะ monitor โดยใช้ tool เดียวกับ port mudley B-1 เพราะจะได้ focus ในระบบและ process เดียวกันไปเลย



ทอง ยังไม่ยืนเหนือ EMA ปล่อยผ่านไปก่อน มีดอยไว้แล้ว ฮ่าๆ อ้อ ที่ปาดหน้าสิบล้อวันก่อน ปิดไปละ เพราะมันเด้งขึ้นมาเราเลย trailing stop ออกไปเพื่อดึง CF



USDCHF ตัวนี้ monitor ไว้รอเปิด EA Ulver ฝั่ง long only price มาแล้วแต่ EMA 20 ยังไม่มาก็รอก่อน

Monday, December 5, 2016

0485 : Diary 5 ธ.ค. 2559


เมื่อเช้าทองเปิด Week ให้พอร์ตได้ดีเลย TP ไป 1 นัด พอช่วงบ่ายร่วงลงมาต่ออีก เราก็เลยเข้าแบบปาดหน้าสิบล้อกลับเข้าไปในตลาดอีกที (ไม่รู้ว่าจะเงิบไหมนะ) แต่มันลงมาแถวๆ 1 ATR Day ก็เลยลองลุ้นดู ตั้ง TP ไว้จุดเดิมเพื่อลดต้นทุนนั่นแหละ