Pages

Thursday, November 14, 2019

0876 : Diary 15 พ.ย. 2562


ช่วงนี้เข้านอนไว พักผ่อนเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
รู้สึกถึงความแตกต่างเลย ระหว่างนอนพอกับนอนไม่พอ
คือเราจัดอยู่ในพวกไวต่อภูมิแพ้อากาศไง

พอเช็คสภาวะฝุ่นในอากาศจาก App AirVisual นิ
ถ้าขึ้นสีส้มๆแล้วจะมีอาการก่อนชาวบ้านเลย จะแสบคอ เริ่มมีคัดจมูก
ถ้ารวมกับนอนน้อยก็จะทำให้คออักเสบ ไอ เลย

ป่วยรอบนี้เลยคิดว่า นอนให้เยอะเพื่อให้ร่างกายได้ Rcovery ตัวเองทัน
หากอยู่บ้านหรือขับรถก็เปิดเครื่องฟอกอากาศอยู่แล้ว
รับ PM 2.5 ตอนออกนอกบ้านพอละ ถ้าใส่หน้ากากได้ก็ใส่ แต่บางทีก็เลยตามเลย

การเข้านอนไว ก็ทำให้เวลาในการทำกิจกรรมต่างๆลดน้อยลงไป
กลับมาถึงบ้านก็เล่นกับลูก อ่านหนังสือ (ได้วันละไม่กี่หน้าหรอก)
มันคิดย้อนไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจจะทำในชีวิตเหมือนกัน
ช่วงนึงเราคิดว่า เราทำได้ทุกอย่าง (ได้ทีละหลายๆอย่าง)
แต่กลับกลายเป็นว่าเราไม่ได้ Focus อะไรเลย

เลยมาคิดใหม่คือ เลือกเป้าหมายมาอันนึงแล้วลุยทำจนสำเร็จ ค่อยไปเป้าหมายต่อไป
ไม่ก็ให้ Process มาคงอยู่ หรือฝังไปใน Exp เราค่อยขยับไปเป้าหมายใหม่
เช่น หากเราตั้งเป้าจะวิ่งมาราธอน แล้วเราดันมีเป้าหมายลดน้ำหนัก ทำ IF ไปด้วย
มันจะตีกันมากเลย 555 แม่งแบบ ถ้า IF จะไปซ้อม Long Run ก็กังวลว่าแรงไม่พอ

พอคิดได้ก็เลย เอามันทีละเป้าโว้ยยย ลุยทำแบบขายวิญญาณให้ปิศาจไปเลย!

โหวว วันนี้บ่นไรเยอะแยะเนี้ยเรา 555


สุขภาพ
วิ่ง ยังไม่ได้กลับไปวิ่งเลย อากาศเริ่มดีขึ้นแล้วแหละ ร่างกายก็หายจากหวัดละ พร้อมลุย
IF ไม่ได้ทำ
น้ำหนัก ไม่ได้ชั่ง
อาหาร
- มื้อเช้า ข้าวราดไข่พะโล้ กุนเชียง ปลาเล็กทอด
- มื้อกลางวัน ราดหน้าเล้งกี่ ข้าวผัดพริกขี้หนูสวนเบค่อน โฮจิฉะเย็น
 

ครอบครัว / ความสัมพันธ์
ไปรับภรรยาไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน คุยกันว่ามีเวลาส่วนตัวแบบนี้บ้างก็ดีเหมือนกันนะ หากมีลูกไปด้วยจะไม่ได้คุยกันเลย เพราะต่างคนต่างก็จะใส่ใจสนใจลูก กะว่าจะกินข้าวกลางวันด้วยกันในวันทำงานอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง


การงาน
- Lists สิ่งที่สำคัญ 3 อย่าง แล้วก็ทำมันแค่นั้น วันนึงไม่ทำเยอะละ
- เทรนงานให้น้องๆ ก็วุ่นๆเหมือนกัน เด๋วคนนั้นมาถามคนนี้มาถาม ได้สร้างบริบท ฝึกการฟังแบบไม่ตัดสินดี
- เรียนรู้ที่จะเชื่อใจน้องๆ มองว่าพวกน้องๆเก่งและยิ่งใหญ่พอ น้องอยากสร้างอะไรใหม่ๆลุยเลย ติดตรงไหนมากปรึกษากัน


การเทรด
- หุ้นไทย GL ร่วงลงมาแถว 4 บาทกว่าๆ ยับแม่ยับ 555 แต่ตัวนี้ limit risk ไว้ที่ 30,000 บาทเอง มึงลงมาๆ กูยอมจ่ายมึงแค่ 30,000 อ่ะ วันนี้ได้เก็บ TP 4.40 ไป 1 รอบ ส่วนตัวอื่นๆก็ลงมาให้รับของเช่นกัน
- Crypto Mudley Club วันนี้เก็บได้ 1 ไม้ ระยะ $120 เดาไม่ออกเลยว่าจะชนะหรือแพ้ / พอร์ตส่วนตัวเก็บของเข้าโซนไป 1 ไม้
- Fx เก็บระยะ AUDCHF , GBPAUD ได้


การเงิน
On Track 100%


การพัฒนาตัวเอง
เรียน Eng ได้ 2 ชั่วโมงกว่าๆละ ยังห่างเป้า 5 ชั่วโมง (ณ วันที่ 15) อยู่

Monday, November 11, 2019

0875 : Diary 11 พ.ย. 2562


หายไปหลายวันมาก
ไม่ใช่อะไรหรอก ป่วยจ้า
เป็นหวัด เจ็บคอ น่าจะภูมิแพ้ด้วยแหละ
จากการโดน PM 2.5 นี่ละมั๊ง

พอทานยาแล้วเข้านอนไว
ก็เลยลด Activities หลายๆอย่างลงเลยครับ

นี่ก็ยังไม่หายดีเลย
รู้สึกง่วงๆ มึนๆอยู่ตลอด (ยาทำให้ง่วงด้วยแหละ)
วันนี้พอว่าง เลยแวะมาอัพเดทสักหน่อย


สุขภาพ
วิ่ง งดมายาวเลย ดูสภาพอากาศก็น่าจะอดวิ่ง Outdoor อีกสักพัก
IF ไม่ได้ทำเลย เนื่องจากต้องทานยา
น้ำหนัก ไม่ได้ชั่ง
อาหาร
- มื้อเช้า ข้าวราดไข่พะโล้ กุนเชียง น้ำพริกกะปิ ผักสด
- มื้อกลางวัน ข้าวมันไก่เนื้ออกไม่หนัง ข้าวเปล่า 1 ถ้วย


ครอบครัว / ความสัมพันธ์
- ไปเที่ยวเมืองกาญฯกับครอบครัวแบบเปื่อยๆนี่แหละ ขับรถไปนั่นมานี่ ค้าง 1 คืน แป๊บๆก็กลับแล้ว แต่รู้สึกว่าไปแต่ตัว เพราะสมอง จิตใจ เบลอๆ ง่วงๆตลอดเลย ถ้าลูกหลับเราก็นอนงีบในรถกับลูก แต่เมื่อวานได้แวะ ดูบัว คาเฟ่ ที่นครปฐม รู้สึกมันเจ๋งดี พื้นที่กว้างมาก ออกแบบดีด้วย น่าไปอีกที
- พาลูกไป ซาฟารี พาร์ค ที่ เมืองกาญฯ ครั้งนี้ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวลูกนะ เค้าไม่กลัวสัตว์แล้ว มีไปจับๆลูบยีราฟด้วย 555
- ให้ของขวัญวันครบรอบแต่งงานภรรยาไปแล้ว สบายใจ


การงาน
- ไม่ Productive เลย มึนๆเบลอ คิดอะไรไม่ค่อยออก เลยนั่งเรียน Eng Online แทน (ให้อภัยตัวเองนะ มันต้องมีวันแบบนี้บ้าง)
- ได้สมาชิกในทีมมาอีกคน เป็นน้องผู้หญิง ก็ท้าทายดีที่จะต้อง Training ให้น้องๆทีละหลายๆคนแบบนี้


การเทรด
- หุ้นไทย ปลด HFT , SVI ออกต่อ TNP รับคืน 2.06 , 2.02
- Crypto Mudley Club เก็บได้ 2 ไม้ ส่วนพอร์ตส่วนตัวเก็บได้ 1 รอบ , ได้รางวัล Airdrop จาก MW x Bitkub มา 20 XRP ขายออกเป็นทุนเทรด Bicoin ต่อแระ
- Fx นิ่งสนิท


การเงิน
เที่ยวมาหลายวัน วันนี้กลับมา Clean up บัญชีให้ตรงละ


การพัฒนาตัวเอง
เรียน Eng สะสมได้ 1 ชั่วโมง 37 นาที (ตามเป้าต้องได้ 3 ชั่วโมง 20 นาทีแล้วนา)

Monday, November 4, 2019

0874 : Diary 4 พ.ย. 2562


สุขภาพ
วิ่ง วางแผนพัก 4 วัน น่าจะออกวิ่งเบาๆวันพฤหัสฯ ไม่ก็วันศุกร์ ดูตารางชีวิตอีกทีว่าภรรยาจะมีแผนไปไหนหรือเปล่า
IF ไม่ได้ทำเลยจ้า
น้ำหนัก 83.5 kg.
อาหาร
- มื้อเช้า ข้าว กุ้งผัดพริกกระเทียม ยำผักกาดดอง โปรตีน 1 แก้ว
- มื้อกลางวัด ผัดไทยกุ้ง
- มื้อเย็น ข้าว กุนเชียงทอด แกงไตปลา โปรตีน 1 แก้ว


ครอบครัว / ความสัมพันธ์
- หยุดพักผ่อนอยู่บ้าน ช่วงเช้าไม่ได้พักเท่าไหร่ ลูกชวนเล่นขายของ เล่นทำอาหาร มีรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง อยากงีบ อยากนอนอ่านหนังสือ จับตัวเองได้ก็ Focus การอยู่ ณ ตรงนั้น (Be here now) แต่ก็หลุดๆแหละ กลับมาตั้งสติใหม่หลายรอบเลย ช่วงบ่ายลูกกินข้าวกลางวัน กินนมนอน ก็ได้มานอนอ่านหนังสือพักนึงแล้วก็งีบไป ตื่นอีกทีเย็นเลยทั้งพ่อทั้งลูก การอยู่บ้านเฉยๆแม่งไม่มีอ่ะ ลูกแม่มชวนเล่นตลอด เพราะเราไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยจอ ด้วยมือถืออ่ะนะ ต้องแลก 555
- สิ่งที่ไม่ Work คือ ไม่รับผิดชอบ 100% ลืมซักผ้า อบกุนเชียงไหม้ แต่ดันคิดโทษนั่นโทษนี่ / สร้างใหม่โดย เต็มใจที่จะเป็นต้นเหตุในชีวิตของตัวเอง


การงาน
- แม้จะหยุดก็สายเข้าตลอด หัวเสียเหมือนกันนะ เชี้ยยย อะไรของพวกเมิงง แต่ก็ สร้างบริบทก่อนรับสายมันก็ช่วยได้นะ
- ต้องไปงานประชุม H2 คนเดียว ก็งงว่าทำไมทั้งทีมถึงไม่ไป รู้สึกไม่ Complete แล้วก็ไม่ชอบที่โดนคนตอแหละใส่ คุยกับภรรยา ภรรยาก็บอกว่า เราไปเราก็ได้ความสัมพันธ์กับผู้คน คนที่เค้าไม่ไป เค้าก็ไม่ได้ตรงนั้น ก็เห็นผลกันอยู่ว่าเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นๆเลย ก็เลยปล่อยวางตรงนั้นแล้วก็เลือกที่จะไป ไปด้วยความสนุก หาโอกาสใหม่ๆให้ตัวเอง


การเทรด
- หุ้นไทย SVI เด้งมาสูงสุด 5.05 บาท (ของที่เราขายออกได้นะ) รินออกไปบางส่วน ถือเงินสดไว้รอโอกาสใหม่ๆต่อ ถ้าขึ้นต่อก็ขายต่อละวะ 555 / ตัวอื่นๆนิ่งสนิท
- Crypto เก็บ Bitcoin สั้นๆได้นิดหน่อย ไม่ค่อยมีจังหวะเลย มีปรับ RP เพื่อรักษาระยะบ้าง
- Fx ได้ TP EURNZD ไป 1 ไม้


การเงิน
- On Track 100%
- เริ่มทำกราฟแบบใน Your Money Your Life แล้ว กราฟเขียนมือนี่แหละ ทำในสมุดบันทึกเลย


การพัฒนาตัวเอง
- อ่าน Your Money Your Life ต่อ
- เรียน Eng ต่ออีกนิดหน่อย เดือนนี้


การพักผ่อน
เข้านอน 5 ทุ่มครึ่ง ตื่น 6 โมงกว่าๆ


การชื่นชมตัวเอง
1. จบมาราธอนแล้วโว้ยย
2. การเป็นจุดยืนของความรักในการอยู่กับลูก
3. การเขียนไดอารี่ตอน My First Marathon

0873 : My First Marathon


หลังจากเรียนมหาลัยจบและเริ่มทำงาน
จำได้ว่าเริ่มออกวิ่งเพราะอยากรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
น่าจะช่วงปี 2552 - 2553 นี่แหละ
วันแรกๆ... ไม่สิ ปีแรกๆที่เริ่มวิ่งนั้น วิ่งวันละ 1 km. ก็เหนื่อยแล้ว

พอได้เห็นเพื่อนๆพี่ๆในแวดวงนักลงทุน & Trader หลายๆคน
วิ่งจริงๆจังๆกันมากเข้าๆ ก็ทำให้ผมเริ่มอยากจะพัฒนาตัวเองไปต่อเหมือนกัน

ก็เริ่มฝึกจากเดิมวิ่ง+เดิม 1 km. ขยับเป็นเดิน 5 km.
จนกลายเป็นวิ่งต่อเนื่องได้ 5 km. 10 km.

จากที่สมัครวิ่ง Fun Run ก็เป็น Mini แล้วก็ Half Marathon
Half Marathon แรกที่หาดคุ้งวิมาน เนินนางพญา จ.จันทบุรี
(สมัครไปเพราะว่าวิวมันสวย
แต่ไม่ได้คิดเล๊ยว่าวิวสวยนั้น...
มันจะต้องแลกมาด้วยการที่มึงต้องวิ่งขึ้นเนินสูงๆนะ 555)
จบ Half แรกก็มาลุยที่ บางแสน 21 ปี 2018 ต่อ

พอจบ 2 Half ก็คิดว่า ไป Marathon เหอะ 42.195 km.
ช่วงนั้นอยู่ช่วงเดือน ธ.ค. 2018 - ม.ค. 2019
โหลดตารางซ้อมมาดู ใช้เวลา 4 เดือน คิดว่ายังไงก็ทัน
ตั้งใจว่าจะลงที่พัทยามาราธอน ซึ่งจัดช่วงกลางเดือน ก.ค. 2019
สุดท้ายด้วยตารางชีวิต ก็คิดว่าไม่รอดแน่ๆ
ไม่มีเวลาซ้อมเลย เลยขยับไปเป็น บางแสน 42 เลยละกัน

ตารางซ้อมอันเดิม บวกกับเวลา 5 เดือน น่าจะสบายๆ (ในตอนนั้นคิดแบบนั้นนะ)
พอเริ่มซ้อมต้นเดือน ก.ค. ก็เดินทางไปนั่นมานี่ ตารางพังๆๆ
กลับมาซ้อมอีกทีปลาย ส.ค. โน่น
เสร็จ ก.ย. - ต.ค. อัดซ้อมมาเต็ม จัดการทุกอย่าง
เพราะไม่งั้นไม่รอด DNF แน่ๆ
แต่ก็ไม่ได้ 100% หรอก มีอะไรเข้ามาแทรกตลอดเช่นกัน
สุดท้ายได้วิ่ง 35 km. ไปรอบเดียว
รอบตาราง 30 km. , 34 km.หายไปเลย

ช่วงต้นเดือน ต.ค. ไปผ่าซีสต์ที่หัวอีก ทำให้ต้องพักซ้อมไปอีก 10 กว่าวัน
กลับมาอีกทีก็วิ่งเบาๆ 6.5 - 8 km. วันเว้นวัน
ระหว่างนั้นก็นอยด์มาก กลัววิ่งไม่จบ
มีแต่คำถามที่ถามตัวเองว่า จะไหวไหมๆ ไปดีไหมวะ หรือนอนอยู่บ้านดี
แล้วค่อยไปวิ่งอีกทีที่ CMU Marathon แทน

แล้วก็มาหลุดจากเสียงในหัวตัวเองได้
จากการที่ทำความเข้าใจในความกลัว ความกังวลที่มันเกิดขึ้น
ทำไมถึงกลัว DNF ทำไมต้องกังวลว่าจะวิ่งไม่จบ
ทำไมต้องหนีจากบางแสน 42 ไป CMU Marathon
จริงๆแล้วมันก็เกิดจากความกลัวที่จะล้มเหลวนั่นเอง
เมื่อผมกลัวที่จะล้มเหลว มันก็เกิดการป้องกันตัวเองขึ้นโดยการชิงล้มเลิกไปซะก่อนแม่งเลย

พอทำความเข้าใจกับมัน ก็ปล่อยวางความกลัว ความกังวล
จะ DNF ไหม จะโดน Cut off ไหม ไม่รู้หรอก
รู้แต่ว่าเราตั้งใจไปแล้วทำให้ดีที่สุด
สุดท้ายแล้วผลมันจะออกมาอย่างไรก็ โอบรับมันไว้แค่นั้นเอง

ตั้งแต่วันที่คิดได้ ก็บอกกับตัวเองว่า "ไปวิ่งให้สนุกนะเมิงงง สนุกเข้าไว้ๆ"


คืนวันที่ 2 พ.ย. เข้านอนประมาณ 2 ทุ่ม 40
นอนไม่หลับเลย... เนื่องจากลูกยังไม่ยอมเข้านอน
เราก็เอาหูฟังกันเสียงรบกวนมาใส่นอนก็ยังนอนไม่หลับ
กังวลไปอีกนั่นแหละ หากกูยังไม่นอน พรุ่งนี้กูจะวิ่งไหวไหมวะ
เพราะตั้งปลุกไว้เที่ยงคืน 15 นาที กะว่าขับรถออกจากบ้านตอนเที่ยงคืน 45 นาที
แล้วไปเข้า Block รอปล่อยตัว
นอนกลิ้งไปกลิ้ง ร้อนรนอยู่สักพัก ก็คิดเหมือนเดิมนั่นแหละ
จะมานอนคิดกังวลทำไมวะ ว่าจะนอนหลับไม่หลับ
พรุ่งนี้จะไหวไม่ไหว มึงก็ทำหัวให้ว่างแล้วนอนซะ
นอนเพื่อนอน ไม่ต้องคาดหวังอะไรให้เยอะแยะ
ผลลัพธ์มึงจะหลับหรือไม่หลับก็ไม่ต้องไปคิดอะไรแล้ว
ก็ได้นอนไปพักนึง... และแล้วนาฬิกาก็ปลุกแระ


3 พ.ย. มาถึงบางแสน เฮอริเทจ หา Block ปล่อยตัวของตัวเอง
แน่นอนว่าความเร็วระดับเราต้อง Block สุดท้าย 555
ได้ออกตัว Block H ซึ่งห่างจากจุด Start แม่มโคตรไกล
พอ Staff ปลดเชือกกั้นแล้วเบียดๆกันเข้ามา
Gun Time Run ไปประมาณ 5 นาทีกว่าๆ ถึงจะได้ผ่านจุด Start
ในใจก็คิดว่า ชิบหายละ เท่ากับว่าเรามีเวลาวิ่งหนี Cut off น้อยลง 6 นาทีนะเนี้ย

โลแรกๆก็วิ่ง Pace 8 สบายๆ
ค่อยๆวิ่งแซง Pacer 6:45 , 6:30 ชั่วโมงขึ้นมา
ตอนนั้นก็พยายามเร่งเครื่องเพื่อแซง Pacer 6:15 ชั่วโมง
แต่ก็ไม่เจอสักที ก็เลยคิดว่าอย่าออกนอกแผน นอก Pace ของตัวเองดีกว่า
กลับมาวิ่งรักษาระยะให้เกาะไปกับ Pacer 6:30 ชั่วโมง
จนมาถึงจุดกลับตัว แวะเข้าห้องน้ำ เลยหลุดจาก Pacer 6:30 ไป
(คือผมเพิ่งรู้ว่า หากจะวิ่งเกาะ Pacer เผื่อเวลาแวะซุ้มกินน้ำ เข้าห้องน้ำ ฉีดสเปรย์เอาเอง
เพราะ Pacer เค้าไม่แวะเหมือนเมิงน้าา 555)

พอหลุดไปแล้ว ช่วง km. 25 - 28 ก็โดน Pacer 6:45 ไล่หลังมา ก็เกาะกับเค้าไว้
คิดว่าถ้าเกาะไปได้ กูจบแน่ แต่ก็นั่นแหละ
ตอนนั้น หัวใจไหวนะ ปอดไหว จิตใจก็ไหว แต่ขาไม่ไหว
เลยหลุดเค้าไปแถวๆ km. 29 - 30 นี่แหละ
เกมเปลี่ยนเลย กลายว่าเป็นเกมวิ่งหนี Cut off แทน

จุด Cut off 30 km. นำ ลูกโป่ง Cut off อยู่ราวๆ 6 นาที
ตอนนั้นขาก็วิ่งๆเดินๆ หัวก็คิดเลข นับเวลาละ
ว่าจะวิ่งยังไงดีให้ทันเวลา Cut off แล้วเหลือเวลาให้ช่วงที่อยู่บนเขาสามมุขมากหน่อย
เพราะทางเรียบหากเดินก็น่าจะ Pace 12 + วิ่งก็ Pace 10 Avg น่าจะได้ Pace 11
แต่บนเขาสามมุขน่าจะช้ากว่าปกติแน่ๆ

สุดท้ายก็ผ่านจุด Cut off km. 35 , km. 40 มาได้ก่อน 3 นาทีทั้ง 2 จุด
พอผ่าน 40 km. ละก็เดินยาวเลย เพราะ 2 km. สุดท้าย มีเวลาให้ 24 นาที
(จาก 9:36 น. ไปถึง 10:00 น.) เราก็เดินบ้างวิ่งบ้าง
เพราะกองเชียร์ก็บิ้วด์ให้กูวิ่งเหลือเกิน ขากูนิก็ไม่ไหวล้าววว 555

สุดท้ายก็จบเข้าเส้นชัยจนได้เวลา Gun Time 6:57:27 ชั่วโมง



สิ่งที่ได้ค้นพบในการวิ่ง Marathon ก็คือ
1. จังหวะถอดใจ มันจะเข้ามาถามไถ่ มาทดสอบเราเสมอๆ
และมีแค่เราเท่านั้นแหละที่จะเป็นผู้เลือก
อย่างผมก็หลายๆจุดเลย จังหวะที่ Pacer Cut off ไล่ตามหลังมาลิบๆ
จะมีความคิดว่าจะหยุดดีไหม หากไปต่อแล้วมันไม่ทันล่ะ
สุดท้ายก็เลือกไปต่อ เอาให้สุดโว้ย ถ้ามันไล่กูมาทันเด๋วกูมอบตัวเอง!

2. ผลลัพท์ไม่สำคัญมากเท่ากับการตั้งใจสู้สุดตัว
เราชนะตัวเองตั้งแต่ตอนลงมือทำแล้วแหละ

3. ลงมือทำในมุมมองที่นอกเหนือจากผล "สำเร็จ/ไม่สำเร็จ"
อย่างที่ผมลองเปลี่ยนบริบทเป็น "วิ่งให้สนุก"

4. สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ
ไม่ว่าจะซ้อมมาเป๊ะ ไม่เป๊ะ ยังไง
ทุกอย่างก็ผ่านไปแล้วแหละ
เรียนรู้แล้วเอามาพัฒนาในการลงมือทำครั้งต่อไป

5. ขอบคุณคนข้างๆคุณด้วย
การที่เราได้ออกไปซ้อม ไปวิ่ง มีคน Support เราข้างหลังเสมอ