จะผ่านไปอีกปีแล้วสินะ เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ ความรู้สึกคือ อ้าว! จะหมดไปอีกปีแล้วเหรอ ยังไม่ทันทำอะไรเท่าไหร่เลย แต่พอมานั่งนึกย้อนไปว่าปีนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง มันก็มีสิ่งที่ทำได้ สิ่งที่ได้ทำ หลายสิ่งเหมือนกัน
ชีวิต
โดยรวมแล้วชีวิตปีนี้ Happy ดี ไม่เจออะไรที่หนักหน่วงเท่าไหร่ มันเหมือนเป็นชีวิตที่มีความสงบ เริ่มรู้จักตัวเอง รู้ว่าอะไรสำคัญ อะไรไม่สำคัญ หลักๆให้ความสำคัญไปที่การเลี้ยงลูก การทำงาน การเรียน
สิ่งที่ได้เรียนรู้ของชีวิตจากปีนี้ก็คือ
1.การทำเพื่อผู้อื่น มันเป็นแหล่งกำเนิดพลังที่สูงมากของเรา
2.ความล้มเหลว ความพ่ายแพ้ไม่มีอยู่จริง แค่เพียงเราไม่หยุดที่จะลงมือทำ
3.การจัดลำดับความสำคัญ ใช้ได้กับสิ่งที่ไม่ค่อยสำคัญ ... แต่สำหรับสิ่งที่สำคัญของชีวิตเราแล้ว ให้ใช้การ Focus และการสื่อสารแทน
4.ให้เกียรติคำพูด = ให้เกียรติตัวเอง
5.อะไรที่เราต่อต้าน มันจะยังคงอยู่เสมอ
6.ชื่นชมคนอื่นให้เป็น และอย่าลืมหัดชื่นชมตัวเองในทุกๆวันด้วย
7.อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยๆในชีวิต (Don't step over)
8.อยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น อยู่กับความจริง (ไม่ใช่สิ่งที่เราคิดไปเอง)
สุขภาพ
การออกกำลังกาย เป็นไปตามเป้าหมาย ลงวิ่ง Half Marathon ไป 2 งาน จบแบบไม่เจ็บ แต่ใช้เวลาน๊านนาน 555 งานเนินนางพญา 3 ชั่วโมง 25 นาที / บางแสน 21 ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมง 13 นาที ... ส่วนระยะวิ่งนั้นน้อยลงเนื่องจากพอติดเรียนก็ทำไม่เป็นข้ออ้างที่จะไม่ไปวิ่ง แล้วก็วิ่งใส่ใน Endomondo บ้างใส่ app อื่นบ้างเวลาวิ่งลู่ ทำให้ไม่ได้รวมระยะทาง เลยว่าจะลืมๆมันไปซะปีนี้ ปีหน้าจะสร้าง excel เก็บข้อมูลเองก็ได้วะ ปัดโธ่!
ส่วนเวท เทรนนิ่ง ไม่ได้ทำเลย ไม่ได้คิดจะทำเลย Breakdown กันไป แต่ปี 2562 คงไป Focus กับวิ่ง และ ว่ายน้ำมากกว่า เพราะอยากจะวิ่งให้ดีขึ้นและเพิ่ม Energy ของร่างกาย
น้ำหนัก อยู่แถวๆ 80-82 Kg. แล้วก็ไม่ลง มันเกิดจากการไม่ได้ใส่ใจกับมันเท่าไหร่ การกระทำก็เลยไปในทางทำบ้างไม่ทำบ้าง คือบางวันก็กินน้อยบางวันก็กินตามใจปาก แล้วก็ออกกำลังไม่สม่ำเสมออีกเลย Breakdown เบย
การเจ็บป่วย มีเป็นหวัดบ้าง เจ็บคอบ้าง แต่ที่หนักๆก็คือ ผ่าฝีคันฑสูตรไป 2 รอบ ผ่าซีสต์ที่หัวไปอีกรอบ (ผ่ารอบแรกตอน ธ.ค. 2560 1 รอบ) โถ ชีวิต แต่ไม่ได้ panic อะไรกับมัน สบายๆเหมือนไปนอนเล่นที่โรงบาล 555 แต่มันรำคาญตรงที่พอผ่าตัดมาแล้วจะออกกำลังกายไม่ได้ไปพักใหญ่นี่แหละ
ครอบครัว
ให้เวลากับลูกในการเล่น การอ่านหนังสือ การวาดรูป กับลูก อุ้มบ่อยๆ กอด หอมบ่อยๆ ฟังเค้าตลอด ผลลัพท์ก็คือลูกมีบุคลิกที่ร่าเริง ชอบแบ่งปัน และเรียนรู้ภาษาได้ไวมาก ขวบครึ่งก็รู้ความหมายคำ พูดเป็นประโยค พูดโต้ตอบได้เยอะมากแล้ว แถมยังเรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษได้ไวด้วย ถือว่าเค้ามีพัฒนาการมีนิสัยที่น่าพอใจ
ภรรยาสุดที่รัก สื่อสารกันมากขึ้น จัดเวลาคุยกันหลังลูกเข้านอนแล้ว ถามไถ่สิ่งที่อึดอัดหรือค้างคาให้จบเร็วที่สุด ไม่ลากความรู้สึกที่ไม่ ok ไปไหนนานๆ รับรู้ถึงความรักที่เค้ามีให้เราอย่างเต็มที่ ... ปีนี้ยังไม่ได้จัดทริปญี่ปุ่นให้ได้
พ่อแม่ ได้จัดทริปกลับบ้านตามที่วางแผนไว้ แล้วก็โทรคุยบ่อยขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็จะคุยกับหลานมากกว่า ปีหน้าอยากคุยให้เยอะขึ้น จะได้ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ คุยกับเราก็คุยกับเรา คุยกับหลานก็คุยกับหลาน แยกกันให้ชัดเจน ... ปีนี้ส่งพ่อกับแม่เข้าคอร์ส LM เรียบร้อย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก มันทำให้พ่อปลดล็อคเรื่องที่แกเคยโดนฟ้องล้มละลายเมื่อ 35 ปีก่อน ออกได้ ซึ่งพวกเราก็ไม่รู้ว่าแกติดเรื่องนี้มาตลอด
น้องสาว น้องชาย Connect กันบ่อยขึ้น จากเดิมที่ไม่ค่อยได้โทรหากันเลย พอเห็นว่าอะไรที่ missing ไปก็จัดการสร้างมันขึ้นมาใหม่
การงาน
Surprise กับสอบเลื่อนตำแหน่ง เลชเช่! กับมันเลยทีเดียว ไม่คิดว่าจะสอบได้ที่ 1 ของรุ่น ปี 2562 ถ้ามีสอบก็ตั้งเป้าที่ 1 อีกรอบเลยละกัน 555 ปีนี้รู้สึกว่าทำงานช้ามาก เพราะไม่ได้ตระหนักรับเป็นเจ้าของในแต่ละงาน พอรู้ตัวก็รับผิดชอบ เป็นเจ้าของมัน ตามทุกอย่างที่ต้องตาม ไม่รอ ไม่หวังพึ่งคนอื่น
มีน้องเข้ามาในทีมเพิ่มอีก 2 คน ทำให้รับหน้าที่เป็นโค้ช ก็ถือเป็นงานที่ท้าทายว่าเราจะสร้างคนอย่างไรดี ให้เค้าไปได้ไกลและก้าวหน้า รู้สึกว่าชอบที่จะเป็นโค้ชนะ อยากฝึก Skill ด้านการสร้างคน เพื่อใช้ในการทำธุรกิจในอนาคต
เข้าเทรนนิ่งคอร์สของแบงค์ ที่คิดว่าดีมากๆก็คือ คอร์ส Provident Fund Networking ที่ได้เรียนรู้เรื่อง Personal Finance พื้นฐานเพิ่มเติม
ส่วนเรื่องงานอื่นๆก็มีโอกาสเข้ามามากมาย ไม่ว่าจะเป็นได้รับโอกาสให้ไปบรรยาเรื่อง การเขียนแผนธุรกิจ การบริหารเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือน
ธุรกิจ
จัดคอร์สสอนเรื่องการเทรดไป 1 รอบ ไม่ work เท่าไหร่ เนื้อหาไม่ตรงกับความรู้ของคนฟัง 555 แต่ขอขอบคุณเฮียเบนที่เป็นป๋าดัน สร้างให้หลายๆอย่างเลย ปีหน้าขอลุยใหม่อีกที ส่วนเหมืองขุด ETH เสียบปลั๊กรับกรรม 555 ตอนนี้ดึงปลั๊กอยู่
การเทรด
หลังจากที่ได้ปรับ mindset แล้ว มันไม่เร่งร้อน แต่จะเก็บ Exp. ไปเรื่อยๆมากกว่า มันคือการเทรดเพื่อเทรด ฝึกเพื่อฝึก แท้ๆเลย ส่วนความรู้ต่างๆก็ฝึก
Port หุ้นไทย
ปรับมาใช้ MM ตามโซนของราคา แทนของเดิมที่ใช้ MM จากจำนวนราคา ทำให้โซนบนเงินจะเยอะกว่าโซนล่าง และใช้การเข้าสะสมแบบไดนามิค คือปรับเพิ่มลดการเข้าเก็บหุ้นหากเจอขาลง แต่ถ้าเปลี่ยน Trend ก็ค่อยเข้ารวบของ slot ที่ว่างในโซนบน ทำให้ปี 2562 จะบริหารพอร์ตสร้าง CF ได้ดีขึ้น
Port Forex
Port ทดลองในการเทรด Full Close System ทอง และ Double Positions ด้วยค่าเงิน ถือว่าทนต่อสภาวะตลาดได้ ปี 2562 ปี 2562 นี้จะเริ่มทำในพอร์ต Oanda แระ
Port Crypto
แรกๆเทรดใน Coin.co.th แล้วก็ย้ายมา Bx ตอนนี้ไป Bitmex แระ Volatility มหาศาลมาก รู้สึกว่าช่วยให้เราได้เทรดอย่างสม่ำเสมอเลย ตอนนี้เลยกลับไปตั้งใจทำ Base System ให้ Generate Cash Flow ได้สม่ำเสมอให้ดียิ่งขึ้นเพื่อจะได้ทำ Combo Time Zone Killing
Option
ยังไม่ได้เริ่มฝึกเบย
Port Mudley
ได้ฝึกทำงานเป็นทีมทั้ง Soldier B1 , RTT-B ได้เห็น Strategy ที่หลากหลาย แล้วก็ได้ครูพักลักจำมาใช้กับพอร์ตส่วนตัว ปี 2562 นี้ก็จะอยู่ในการสื่อสาร สร้างคุณค่า แชร์ไอเดีย ให้มากขึ้นครับ
การเงิน
ตั้งเป้าจะเก็บเงินสำรอง ก็ Breakdown ไม่ได้ตามเป้า 120,000 นะ แบ่งไปเข้าคอร์สลงทุนในความรู้เสียเยอะเลยปีนี้ ก็ยัง on process ค่อยๆเก็บมันไป มันมองตอนนี้ของเราคือ ให้ความหมายว่าเงิน = ทรัพยากร พอเปลี่ยนมุมมองไป เรื่องเงินก็เบาสบายขึ้นมาเลย แค่ monitor มันเพื่อคุมความเสี่ยงให้ work เท่านั้นเอง
เก็บ BTC ให้ได้ 1 BTC ยังไม่ถึงไหนเลย ตอนนี้ก็ค่อยๆสะสมผ่านการ Scalp ใน Bitmex กับเงินทุนที่ได้รับจาก Mudley Corner
การพัฒนาตนเอง
ไปเรียนคอร์ส LM เมื่อ เม.ย. แล้วต่อ Advance Course และ Leadership Program อีก 6 เดือน ต่อเลย หมดเงินไป 50,000 เทียบกับสิ่งที่ได้มาถือว่าคุ้มค่ามาก แต่แม่มไม่ใช่อะไรที่สะดวกสบายเลย ได้ออกนอก Comfort Zone สัสๆ แต่อย่างว่าแหละ ถ้าอยากได้ผลลัพท์ก็ต้องแลกอ่ะนะ มันไม่ใช่การเรียน แต่มันคือการให้เราไปลงมือทำ ทำทั้งๆที่กลัว พอก้าวข้ามมันได้ Exp. ก็จะฝังไปในตัวเรา ... ในช่วงที่เรียน มันทำให้เราได้รู้สึกถึงประสบการณ์ของคำว่าไม่ยอมแพ้ และการทำเพื่อผู้อื่น ซึ่งมันเป็นการออกจากตัวเอง (ปกติเราจะมี ตัวกู ของกู สูงมาก โดยที่เราไม่รู้ตัว 555) ทำให้ได้สะสางเรื่องที่มันค้างคาในชีวิตออกหลายเรื่อง และมีสติจับอารมณ์ ความรู้สึก เสียงของความคิดตัวเองไวขึ้นมากกก สรุปแล้วมันมีคุณค่าต่อการพัฒนาตัวเรามากเลย
เนื่องจากการเดินทางไปทำงาน และไปเรียน ต้องขับรถนานเลย ก็เปิด Youtube ฟังไปเพื่อหาความรู้ + ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ หลักๆก็ฟัง Money Coach , พี่ต้าน , คุณชัชชาติ ประมาณนี้
หนังสือ
อ่านไปหลายเล่มเลยแหละ เล่มที่คิดว่าดีงาม ก็คือ...
1.Homo Finisher เป็นหนังสือนิ้วกลม เล่มแรกที่ซื้อหลังจากเว้นมานาน เพราะรู้สึกเอียนการเขียนแบบนิ้วกลมๆ 555 เล่มนี้อ่านแล้วก็อยากไปมาราธอน อยากไปมาราธอนที่ญี่ปุ่นบ้าง (ตั้งเป็น Goal ไว้อีกข้อนึงเลยแหละ)
2.สิ่งสำคัญของชีวิต นิ้วกลมเขียนจากการ สัมภาษณ์คุณมานิต อุดมคุณธรรม เราอ่านช่วงที่เรียน Leadership Program เพราะเหมือนได้ทบทวนสิ่งที่เรียน
3.เงิน หรือ ชีวิต Your Money Your Life เล่มนี้ดีงามอีกเช่นกัน เราอ่านแบบลงลึก กำลังเอามาฝึกปฏิบัติกับชีวิตเลยแหละ มันช่วย Change mindset เกี่ยวกับ personal finance ไปอีกขั้น
4.คนชนะหนี้ ของ Money Coach อันนี้อ่านแล้วสะเทือนใจ มีน้ำตาซึมด้วย
5.Thank God It's Monday เอาทริคอะไรหลายๆอย่างจากเล่มนี้ไปปรับใช้ในการทำงานประจำเลย
การแบ่งปัน
ได้ทำให้ชีวิตของคนรอบข้างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหลายคนมากๆ จากการที่เข้าไปพูดคุย ให้คำปรึกษา หลักๆก็เรื่องการเงิน การงาน ธุรกิจ แล้วก็ความสัมพันธ์ ทำไปโดยที่ไม่ได้อะไรตอบแทนเลย แต่เรารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ควรทำ และเราก็ทำมัน ซึ่งผลที่ได้กลับมาก็เติมเต็มหัวใจเรา
อีกเรื่องก็แบ่งปันความรู้เรื่องการเทรด เวลามีคนหลังไมค์มาถาม ก็โทรไปไลน์ , Face time ไปอธิบายให้เค้าฟังให้เห็นภาพ เราเต็มใจเสมอ เพราะเราเองก็เคยอยู่ในจุดที่สงสัยไม่รู้จะถามใครมาก่อนเหมือนกัน ถ้าการให้เวลาสั้นๆสามารถทำให้เค้าไปต่อและเทรดสร้างรายได้ ได้ก็ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ
พอเขียนมันออกมา มันก็เป็นปีที่ยาวนานเหมือนกันนะ ฮ่าๆ ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณทุกคนในชีวิตที่ใช้เวลาร่วมกัน ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข คิดหวังสิ่งใดขอให้สมปรารถนาครับ ปีใหม่ที่จะเข้ามานี้ ผมขอเป็นคนนึงที่เป็นแหล่งกำเนิดของความสุขให้กับโลกใบนี้ครับ
No comments:
Post a Comment