Pages

Thursday, June 23, 2011

0006 : คำชี้แนะจากพี่ Invisible Hand

คำถามหรือคำสงสัย มีวิธีแก้อยู่ 2 วิธี
1. หาคำตอบ และ
2. ลืมมันไปซะ
ก่อนที่โลกนี้จะมี Internet และ google
ผมเลือกแบบที่ 2. เสียเป็นส่วนใหญ่
แต่ปัจจุบัน ผมพบว่าบางทีหากเราจะเลือกข้อ 1.
มันก็ไม่ได้ยากเย็นเกินไปนัก

ผมมีความสงสัยเกี่ยวกับการลงทุนอยู่หลายข้อ
ซึ่งความสงสัยที่ว่า บางที google ก็ตอบเราไม่ได้
ผมก็เลยต้องลองถามจากผู้รู้

ผู้รู้อย่างพี่ Invisible Hand ผู้ใจดี
ได้อุตส่าห์เสียสละเวลามาตอบคำถามผ่าน webboard

วันนี้จึงนำคำชี้แนะมาแบ่งปันให้เพื่อนๆครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ
ขอบคุณพี่ Invisible Hand ที่ชี้แนะให้ความรู้ครับ



1. อยากจะเรียนถามพี่ IH ถึงวิธีการคิดราคาทุนของหุ้นครับ

อยากของ อ.เทพ รุ่งธนาภิรมย์ แสดงวิธีคิดไว้ว่า
สมมุติว่าเรามีหุ้นต้นทุน 10บาท 10000หุ้น
ขายออกไป 5000 หุ้น ในราคา 20บาท/หุ้น

ท่าน อ.เทพ เอากำไรจากส่วนต่าง 5000หุ้น
ที่ขายออกไปมาหักกับต้นทุนที่เหลือเดิม
ซึ่งต้นทุนหุ้นที่เหลืออยู่ 5000 หุ้นจะลดลงเหลือเท่ากับ 0 บาท

การคิดผลตอบแทนแบบนี้
ไม่ทราบว่าพี่ IH มีความเห็นอย่างไรมั่งครับ ?

ส่วนตัวผมเวลาเก็บข้อมูลไม่ได้เก็บข้อมูลพอร์ตด้วยวิธีนี้นะครับ
หากคิดแบบนี้มันจะเป็นการเข้าข้างตัวเองเกินไปหรือไม่ครับ
อยากจะข้อความเห็นพี่ IH น่ะครับ


อีกอย่างก็คือเวลาเราได้ปันผลมา
แล้วเอามาหักกับต้นทุนของราคาหุ้น
เช่น ราคาทุน 10บาท/หุ้น ได้ Div 1บาท/หุ้น
เหลือต้นทุน 9บาท

แบบนี้ไม่น่าจะถูกนะครับผมว่า
มันจะซ้อนทับกับเวลาเราเอาเงินปันผลไปซื้อหุ้นเพิ่มหรือไม่ครับ
ขอมุมมองของพี่ IH หน่อยครับ


พี่ IH ตอบ - หลักที่ว่ามานั้นก็เป็นการสอนให้ทำกำไรไปบ้าง
เพื่อลดความเสี่ยงที่ราคาหุ้นจะลดลงมา
จากจุดสูงสุดหรือใกล้เคียงกับของเดิมครับ

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีกลยุทธ์ใดๆ ที่มีแต่ข้อดีและไม่มีข้อเสียครับ
หุ้นหลายตัวที่มีธุรกิจดีจริงๆ ราคาหุ้นสามารถขึ้นไปได้มากกว่า 2 เท่าครับ
ดังนั้นการขายหุ้นเมื่อได้กำไร 2 เท่าตัว
ก็อาจจะพลาดโอกาสหากหุ้นจะขึ้นไป 3-4 เท่าหรือมากกว่านั้นได้ครับ

ดังนั้นกลยุทธ์นี้อาจจะเหมาะกับนักลงทุนที่
อาจจะไม่สามารถประเมินราคาหุ้นได้ดัวยตัวเองนัก
เมื่อหุ้นขึ้นอาจารย์ก็เลยแนะนำให้ขายไปเพื่อลดความเสี่ยงและ
ลดโอกาสขาดทุนหากหุ้นลงกลับมาต่ำกว่าทุนครับ

แต่นักลงทุนแนว VI ที่มีประสบการณ์ ความรู้และข้อมูลที่ดีพอ
ก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ครับ



2. อีกคำถามก็คือ
หากตลาดหุ้นขึ้นไปแรงๆ
จนหุ้น over value
( เกิดฟองสบู่ )
ดอกเบี้ยเงินฝากแตะ 2 หลักเนี่ย
มีกองทุนตราสารหนี้หรือผลิตภัณฑ์การเงินอะไรที่จะสามารถโยกเงินเข้าไปพัก
โดยความเสี่ยงต่ำลงได้บ้างครับ
หรือให้เก็บเข้าไว้ในเงินฝากจะดีกว่าครับ

(สำหรับข้อนี้ผมถามเพราะกะว่า หากดอกเบี้ยฝากแตะ 2หลักเนี้ย
ดอกเงินกู้ยิ่งต้องสูงกว่า บริษัทที่มีหนี้เยอะๆคงจะเหนื่อยแย่
หารายได้มาเท่าไหร่ก็ต้องเอามาจ่ายดอกเบี้ย ส่วนตัวนักลงทุนรายย่อยนั้น
หากเอาเงินมาลงทุนในตราสารหนี้ ก็ได้ผลตอบแทน 2หลักได้สบายๆ
เราจึงน่าจะโยกเงินมาลงทุนในตราสารหนี้ รอวันฟองสบู่แตก
ตลาดหุ้นล่มสลายค่อยเข้าเป็นเก็บหุ้นถูกๆ แบบนี้น่าจะดีกว่า ,
หรือไม่ก็เลือกลงทุนในบริษัทที่หนี้น้อยๆ แต่ยังไงก็ห้ามลืม MOSเด็ดขาด)


พี่ IH ตอบ - ถ้าหุ้นขึ้นแรงๆ แล้วอัตราดอกเบี้ยเงินฝากขึ้นไป 2 หลัก
แสดงว่าราคาพันธบัตรจะต้องลดลงไปมาก
เราควรจะต้องซื้อกองทุนตราสารหนี้
เพื่อจะหวังกำไรส่วนแบ่งราคาเมื่อดอกเบี้ยลดลงมาครับ

No comments:

Post a Comment