Pages

Thursday, August 25, 2011

0015 : Value Visions 23-08-2011

วันนี้ตอนบ่ายคุยกับพี่เบิร์ด (ไม่ใช่พี่เบิร์ด รักทุกคนเลยนะครับ)
พี่เบิร์ด เป็นอดีตพนักงานฯ แต่เกษียณก่อนกำหนดไปก่อน
วันนี้แวะมาหาพี่อีกคน แต่พี่เค้าติดประชุมก็เลยนั่งคุยกะผมก่อน
พี่เบิร์ดสอนผมหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆ
เพราะผมชอบฟังเรื่องนี้ก็เลยทำให้คุยกันถูกคอครับ

ตอนแรกผมก็ถามพี่เบิร์ดไปก่อนว่า
ราคาทองมีโอกาสจะตกรุนแรงไหม ?
พี่เบิร์ดก็ตอบว่า โอกาสน้อยมาก
เพราะอะไรรู้ไหม... จะเล่าให้ฟัง...
เริ่มจากปัจจุบันคนอินเดีย กับ คนจีน เริ่มมีฐานะดีขึ้น
เมื่อก่อนจะเป็นในรูปของ หากจะทำเกษตรคนอินเดีย
จะขายทองเพื่อเอาทุนมาทำเกษตร พอขายผลิตผลได้
ก็จะเอาเงินไปซื้อทอง แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่ เค้าเริ่มมีฐานะดีขึ้น
ทำให้สามารถมีเงินมาซื้อทองเก็บสะสมหรือให้เป็นของขวัญ
แก่กันได้ ทำให้ความต้องการทอง เปลี่ยนไป...

อีกสาเหตุก็คือ การที่รัฐบาลประเทศต่างๆ เปลี่ยนมุมมอง
ที่มีต่อเงิน USD หันมาเก็บทองแทน ทำให้ราคาที่ขึ้นมาแรง
ส่วนนึงก็เกิดจากรัฐบาลจีน อินเดีย เกาหลี ฯลฯ
ซึ่งไม่ต้องการถือ USD เพิ่มและพยายามลดหันมาถือทองแทน

จากนั้นพี่เค้าก็ถามผมว่า ส่วนใหญ่คนที่ซื้อทองแท่ง
เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ผมก็ตอบไปว่า เงินออม , พี่เค้าก็ว่า ใช่
ส่วนใหญ่คนเอาเงินเย็นมาซื้อทอง เพราะงั้นถ้าราคามันตกลงไป
เค้าไม่ขายกันหรอก มีแต่กอดไว้ อย่างน้อยต้องกำไร
เค้าถึงจะขายจริงไหม ? เพราะงั้นราคามันจึงไม่ดิ่งลงแรง
แบบที่คนพากันเทขายหุ้นหนีตาย

พี่เค้ายังเล่าอีกว่า ที่ราคาทองขึ้นแรงช่วงที่ผ่านมา เพราะ ต้นทุน
เหมืองทองใน USA ปัจจุบันเพิ่มขึ้น 300% ที่ราคาทองเพิ่มขึ้นน่ะ
ถูกแล้ว เพราะ Cost เพิ่ม ราคาขายจะไม่เพิ่มได้อย่างไร ?

ผมก็เลยแอบถามไปว่า พี่กะราคาทองไว้สักเท่าไหร่ ?
พี่เค้าก็ตอบว่า ประมาณ 35,000 บาท : 1 บาท ( ทอง )
( ก็ต้องฟังหูไว้หู ดูกันต่อไปนะครับ! )


จากนั้นก็คุยเรื่องการเงินการลงทุนแบบอื่น
พี่เค้าก็บอกว่าให้แบ่งเงินทุกๆเดือนมาออมในทองบ้าง

หากเก็บได้เป็นก้อนก็เอาไปซื้อที่ดิน โดยหากจะซื้อที่ดินเปล่า
ต้องเลือกที่ทำเลงามๆ ราคามันถึงจะขึ้น เวลาขายต่อกำไรจะดีมาก
หรือไม่ก็หากทุนหนา วันหน้าก็ใช้ทำโครงการตึกแถว หรือ Town House ได้
รายได้เราควรจะมีจากหลายๆทาง ทั้งจากดอกเบี้ย ค่าเช่า และเงินปันผล

อีกแบบก็คือซื้อที่นาผืนงามๆเก็บไว้ เพราะปัจจุบันที่นาหาซื้อยาก
เพราะคนต้องการมาก ยุคนี้ข้าวแพง เราซื้อทิ้งไว้ให้เค้าเช่าทำนา
เราก็ได้ข้าวกินตลอด ไม่ต้องไปซื้อกิน เรียกได้ว่ามีที่นาไว้ก็ไม่ต้องกลัวอด
( แต่ต้องดูว่าที่นาผืนนั้นน้ำท่วมรึเปล่าด้วยนะ )

พี่เค้าก็ยกตัวอย่างเพื่อนร่วมงานที่เก็บออมจนร่ำรวยให้ฟัง
เป็น 10 Case เลย บางคนเก็บทอง บางคนเก็บที่ดิน
อย่างพี่เค้าก็มีทองแท่งอยู่ประมาณ 80 บาท ออม ไม่รวมพวก
แหวนสร้อยอีกประมาณชามน้ำแกงอีกชามนึง
ที่ดินนี่ไม่ต้องพูดถึง หลายแปลงมากจนจำไม่หวาดไม่ไหว
และก็มีพระเครื่องอีกหลายชุด (ราคาแต่ละองค์ก็เป็นล้าน - -)
เค้าบอกเก็บออมมาตั้งแต่ปีแรกที่ทำงาน แต่ก็ได้ครอบครัวส่งเสริมด้วย

พี่เค้าก็บอกว่ารุ่นใหม่ๆอย่างเราเนี่ย โอกาสในการลงทุนเยอะมาก
ไม่เหมือนสมัยก่อน มีแต่ทอง กะ ที่ดิน ปัจจุบันมีหุ้นต่างๆ
ให้เลือกลงทุนเยอะแยะ แต่เสียอย่างเดียวคนสมัยนี้
ออมเงินไม่ค่อยได้ มัวแต่ใช้จ่ายกัน อย่างทำงานไม่ทันไรก็ซื้อรถป้ายแดง
หน้าบานไป 3 วัน แต่ลองเอารถใหม่คันนั้นไปขายสิ ราคาลดไปเป็นเกือนครึ่ง
เราต้องสร้างรายได้เอาไว้ให้วันข้างหน้า ไม่ใช่ว่ามาลำบากตอนแก่

แล้วก็ยกตัวอย่างคนที่เกษียณไปแต่ชีวิตหลังเกษียณลำบาก
เพราะตอนทำงานอยู่ไม่รู้จักวางแผนเก็บออมเงิน

ส่วนเรื่องหุ้นก็คุยกันนิดหน่อย
พี่เค้าก็ให้มุมมองว่า ช่วงนี้ฝรั่งขายหนัก ตอนนี้หากมีหุ้น
ควรขายหุ้นเอากำไรออกมาเป็นเงินสดหรือพักเงินไว้ในทอง
ไม่ก็ดูหุ้นเป็นรายตัว ควรถือหุ้นที่แข็งแกร่ง เกี่ยวกับการบริโภคในประเทศ
อย่าเพิ่งไปเล่นพวกที่เกี่ยวกับต่างประเทศ เพราะเมืองนอกสถานการณ์ไม่ดี
รอมันลงมาหนักๆค่อยเอาเงินสดที่เทคกำไรออกมานั่นไปช้อนดีกว่า
( มุมมองตรงกับเราเลยแฮะ แหะๆ )

คุยกับพี่เค้าเสร็จก็มีกำลังใจเพิ่มขึ้นมาอีกอักโข
ต่อไปนี้จะตั้งใจเก็บออมและวางแผนลงทุนให้ดียิ่งขึ้นครับ
สู้ต่อไป เพื่ออิสรภาพทางการเงิน โว้ย !

No comments:

Post a Comment