Pages

Wednesday, December 30, 2015

0423 : Diary 31 ธ.ค. 2558

สิ่งที่ได้เรียนรู้ในปีที่ผ่านมา ผ่านไปอีก 1 ปี บางคนดีใจที่จะขึ้นปีใหม่ แต่เรากลับไม่ดีนะ ถ้ามองในแง่ของ In Time เวลาของเราลดลงเสียด้วยซ้ำ … ปีที่ผ่านมามีทั้งเรื่องดีและแย่ อันที่จริงมันก็เป็นแบบนี้ทุกปีนั่นแหละ สิ้นปีก็มาทบทวนเรื่องราวต่างๆแล้วสรุปมันออกมาเป็นบทเรียนดูสักหน่อยก็แล้วกัน 1. ปีนี้เป็นปีที่เน้นความสบายใจ ทำอะไรต้องมีความสุข หรือถ้ายากลำบาก ก็จะเป็นเรื่องของการฝึกฝน ใช้ชีวิตอย่างสบายใจ ไม่เครียด ถ้าจะเครียดก็ต้องเป็นความเครียดเชิงบวก มันทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นมาก ชีวิตมีความสุขทุกๆวัน ความสัมพันธ์กับภรรยาก็ยอดเยี่ยม มีช่วงเวลาที่ไม่เข้าใจกันน้อยมาก หลายอย่างต้องอาศัยการวางแผนไว้ก่อน เพื่อรองรับ scenario ต่างๆที่จะทำให้เรารู้สึกไม่ ok ซึ่งมันก็คุ้มที่จะทำ สิ่งที่ช่วยได้เยอะเลยก็คือการกลับมาอยู่กับความรู้สึกข้างในตัวเอง บันทึกความรู้สึกต่างๆไว้ในสมุดบันทึก เช่น สิ่งนี้ หรือ เหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้สึกอย่างไร อารมณ์เป็นอย่างไร ผลของการกระทำเป็นอย่างไร มันช่วยได้มากเลย เพราะเราจะรู้ว่าสิ่งไหนทำให้เราทุกข์ แล้วเราค่อยคิดหาทางแก้ไขหรือหลีกเลี่ยงจากมัน 2. จากข้อ 1 หนังสือที่เราคิดว่ามันดีที่สุดที่เราได้อ่านในปี 2015 ก็คือ The Power of No พลังของคำว่า “ไม่” ของ James Altucher & Claudia Azula Altucher หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น เค้าสอนให้รู้จักปฏิเสธิสิ่งที่ไม่ใช่สำหรับเรา ไม่ก็สิ่งที่ทำให้เราเกิดพลังงานด้านลบ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ข่าวสาร ผู้คน ซึ่งการปฏิเสธสิ่งที่ไม่ใช่ มันก็จะช่วยเปิดพื้นที่ชีวิตของเราให้ว่างเพื่อต้อนรับการเข้ามาของสิ่งทีใช่ด้วย เราเองก็เลือกมากขึ้นเหมือนกัน ในการคบคน หรือ ทำงานต่างๆ คนที่ทำให้เรารู้สึกแย่หรือเกิด Dark Force เราก็แค่ตัดออกไปจากชีวิต ถ้าอยู่ใน Facebook ก็ Unfollow ไม่ก็ Unfriend ก็เท่านั้นเอง แล้วเพจต่างๆที่แชร์อะไรที่ไม่สร้างสรรค์เราก็ทยอยไป Unlike ออกไป ค่อยๆให้ Algorithm ของ Facebook มันปรับหน้า Feed ให้เป็นสิ่งที่ใช่สำหรับเรามากขึ้น 3. เข้าสู่โครงการ Facebook Detox ด้วยคน โดยไปอ่านเจอจากคุณแชมป์ ทีปกร ก็เลยทำบ้าง โดยลบ FB ออกจาก iPhone รวมถึงโปรแกรม FB Msg ด้วย (เหลือไว้แค่ FB Page Maneger เอาไว้เขียนบทความ) โดยจะเข้ามาเช็คจาก Notebook เท่านั้น ทำให้เรามีเวลา “เหลือ” มากขึ้น ก็เวลาว่างไม่ได้รูดหน้าจอแล้วนินา ซึ่งช่วงหลังๆเราพบว่า Facebook นี่แหละที่เป็นตัวกระตุ้น “ความอยาก” ของเรา เพราะมันเป็นช่องทางของการตลาดชั้นดี ทำให้เราอยากได้นั่น อยากได้นี่ เอาง่ายๆช่วงก่อนที่หนัง Star Wars 7 จะเข้าโรง เราดูใน Group ต่างๆ เห็นของเล่น ของ premium แล้วเราก็อยากได้ แล้วเราก็เสียตังค์ ฮ่าๆ จริงๆ หลังจากที่ทำ Facebook Detox มันก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ความอยากได้ต่างๆลดลง เราก็เลยพบว่า อ่อ เราอยู่ห่างจากการตลาดนี่เอง 4. ปีนี้เราให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น หัดโยคะ ยืดกล้ามเนื้อ หัดวิ่ง ไปงานวิ่งระยะสั้นๆมาบ้าง พยายามฝึกวิ่งให้ได้ระยะไกลขึ้นทีละนิดๆ เราพบว่ามันสนุกดี แล้วก็ช่วยลดความเครียดจากการทำงานได้ดีด้วย เราคิดว่าการมีสุขภาพดีนี่มันดีที่สุดแล้ว ถ้ามีสุขภาพที่แข็งแรง เราจะมีพลังงานในการวิ่งตามความฝันได้อย่างเต็มที่ ถ้าสุขภาพไม่ดี เราก็ต้องแบ่งพลังงานส่วนหนึ่งมาดูแลสุขภาพของเรา ความหวังจะไป Focus อยู่ที่การหวังว่าสุขภาพจะกลับมาดี เราสุขภาพดีมันคือเรื่องดีๆ แต่ถ้าจะดียิ่งกว่าก็คือการที่คนที่เรารักสุขภาพดี อันนี้ยิ่ง Happy ไปใหญ่ เราก็เลยพยายามชวนภรรยาไปออกกำลังกายด้วยกันบ่อยๆ ซึ่งบางทีเราก็ชวนโดยวิธีที่แย่ คือ บังคับบ้าง ทำให้เรารู้สึกไม่ดีเลย หลังๆเราก็เลยต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ในการชวนภรรยาไปเรื่อยๆ ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่จะพยายามต่อไป 5. ด้านการเงิน ปีนี้ยังอยู่ที่ระดับ Basic อยู่เลย เก็บเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้เรื่อยๆ เราพบว่าการทำงบประมาณรายรับ-รายจ่าย นั้นสำคัญมากจริงๆ มีหลายเดือนที่เราใช้จ่ายเกินงบประมาณ มันก็ทำให้เราไปดึงเงินที่เรากองๆไว้ใน ATM ออกมาใช้บ้าง อีกอย่างดูเหมือนว่าสิ่งของที่เรามี มันจะเกินระดับคุณภาพชีวิตไปหน่อย ตัวนี้วัดง่ายๆจากค่าเสื่อมราคา เทียบกับรายได้รายเดือนของเรา ลองเอาสิ่งของประเภทที่ต้องซื้อทดแทนหากมันพัง พวกนี้มันจะมีค่าเสื่อม ลองเอามารวมๆดูว่าค่าเสื่อมมันเดือนๆนึงตกเท่าไหร่ แล้วรายได้ของเราเหลือพอเก็บสำรองค่าเสื่อมจำนวนนี้ได้ไหม ถ้าไม่พอ ก็แสดงว่าระดับคุณภาพชีวิตในปัจจุบันเราเกินมาตรฐานไป ฮ่าๆ ก็ต้องมาปรับเข้าสู้สมดุลละครับ แล้วก็ค่อยๆยกระดับไปทีละนิด โชคดีที่ชีวิตไม่เจอ Crash เนอะ 6. การเทรดปีนี้ เป็นกึ่งๆ Passive ละมั๊ง มันก็ทำให้เราสบายใจ ไม่ต้องเฝ้าตลาด มาดูวันละ 2-3 รอบ คอยจับคู่ position ระหว่าง Buy Sell (รวมถึง Virtual Buy Sell) ก็อยู่ในตลาดได้เรื่อยๆ ไม่เจ๊ง เราเรียกมันว่า “กลยุทธ์ขโมยหุ้น” ก็สร้างกระแสเงินสดได้ Smooth ดี เอามาใช้ใน port ทองกับน้ำมัน เล่นกับการแกว่งตัวของราคา ไล่เก็บความผันผวนไปของมันเรื่อยๆ คือว่าต้องขอบคุณพี่เทพ เด่นศรี รวมถึงพี่ๆในห้อง DSM Club และพี่ Top Thana มากๆ ที่เขียนเรื่อง Zone Trading และให้อ่าน Paper เรื่อง DSM ทำให้เราพัฒนามันออกมาได้ อ้อ ที่เราเลือกที่จะเทรดแบบ กึ่งๆ passive เนื่องจาก เราถนัดแบบนี้ มันตรงจริตของเรา พอดีเราไปทำ Test ของ Wealth Dynimics ผลมันออกมาว่าเราอยู่ในโหมดของนักคำนวณ (Steel) เป็นพวกชอบรายละเอียด ชอบถามตัวเองว่าทำอย่างไร? ซึ่งจุดเด่นของการสร้าง Wealth จะมาจากการสร้างระบบโดยที่ตัวเราไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว คือระบบดี เอาใครมาทำก็ได้ ประมาณนั้น ส่วนภรรยาของเราผล Test ก็โหมดเดียวกันเลย เราก็เลยคิดว่าเรามาทางนี้ดีกว่า ส่วนการเทรดแบบอื่นค่อยเป็นตัวเสริมในระบบ ซึ่งพอเราเทรดแบบนี้ เราก็ Happy ดี มีเวลาไปทำอย่างอื่น มีเวลาให้ภรรยา มีเวลาอ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ก็แค่นี้แหละ … ส่วนอีกอย่างที่เรียนรู้ก็คือ ไม่ว่าจะเล่น Cut loss หรือ Hedge การจำกัดความเสี่ยงเป็นเรื่องสำคัญ ตลาดมันซัดเราช่วงที่เผลอตลอดเลยแหละ … ช่วงปลายปีเริ่มกลับมาศึกษา VI อีกครั้งเนื่องจากงานประจำย้ายสายงานมาอยู่ในโซนของการวิเคราะห์ เลยคิดว่ามันน่าจะเข้ากันได้ดี อีกอย่างเราเองก็อ่อนเรื่องการวิเคราะห์หุ้นด้วยก็เลยลุยทางนี้สักหน่อย ไหนๆก็จะสร้าง Wealth โดยการขโมยหุ้นอยู่แล้ว ก็คิดว่ามันจะเป็นตัวส่งเสริมให้เราเลือกหุ้นที่จะขโมยได้ดีขึ้น 7. หลังจากที่เปลี่ยนตำแหน่งงานประจำแล้ว เรารู้สึก ok ขึ้น เราได้เรียนรู้สิ่งดีๆหลายอย่าง ได้เจอลูกค้าที่ประสบการณ์ทางธุรกิจแน่นปึ๊ก ซึ่งก็ทำให้เราได้ความรู้ ได้เห็นความคิดของเค้า เรื่องงานก็ Happy ดี ถือเป็น Beta อีกสายนึง แถมยัง Support เรื่องสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลเต็มที่อีก 8. การมองหน่วยของเงินเป็นหน่วยเวลา จะทำให้เรารู้ว่า เงินมีค่า และช่วยเตือนสติเรายามใช้จ่ายได้ดีขึ้น เช่น รายได้ทั้งปี 360,000 บาท ถ้าเราซื้อ iPhone 6s เครื่องละ 30,000 เท่ากับเราจ่ายเวลาไป 1 เดือน ( หนังเรื่อง In Time สัสๆ) แต่ถ้าเราเอาไปซื้อหุ้น (หรือ Asset อื่นก็ได้นะ) 30,000 บาท ได้ปันผล 3,000 บาท เท่ากับเราได้เวลามา 3 วัน ถ้าอยากมีอิสระ เราก็แค่สะสมเวลา (หรือที่เราเรียกว่า ขโมยเวลา นั่นเอง) 9. ปีนี้ขอบคุณแรงบันดาลใจ ความรู้ พลังงานด้านบวก จากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลายๆท่าน คงกล่าวนามได้ไม่หมด ขอบคุณๆๆครับ ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง มีความมั่งคั่ง ร่ำรวยเวลา คิดสิ่งใดของให้มีพลังและปัญญาคว้ามันมาได้ทุกสิ่งครับ สวัสดีปีใหม่ครับ ^ ^

No comments:

Post a Comment