Pages

Sunday, December 18, 2011

0046 : หัดวาดแผนที่สู่อิสรภาพทางการเงิน

คนส่วนมากมีความมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะ
แต่น้อยคนนักที่จะมีความมุ่งมั่นในการเตรียมตัวเพื่อคว้าชัยชนะ - Bobby Knight


วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องการเตรียมตัวเกษียณครับ
บางคนอาจจะว่า แหม อายุยังไม่เท่าไหร่เลย ทำไมพูดถึงเรื่องเกษียณซะแล้ว

ผมก็ขอตอบว่า การเกษียณของผมนั้น
ผมหมายถึง "การมีอิสรภาพทางการเงิน" ครับ

วันเกษียณของผมก็คือ วันที่ผมมีอิสรภาพทางการเงิน
วันที่ผมมีอิสรในการเลือก ผมอยากจะทำงานก็ได้ ไม่ทำก็ได้
เพราะผมมี Passive Income ที่สามารถเลี้ยงผมและครอบครัวได้
โดยไม่ต้องพึ่งรายได้จากเงินเดือน หรือจากการค้าขาย

บางคนมีอิสรภาพทางการเงินแล้วก็ยังทำงานประจำต่อก็ได้ ไม่ผิด...
ไม่จำเป็นว่ามีอิสรภาพทางการเงินแล้วต้องหยุดทำงานอยู่กับบ้านเฉยๆ
หรือไม่ก็ไปเที่ยวเมืองนอกเมืองนา ตามแบบที่เหล่า MLM เอาข้อนี้มาดึงดูดใจ

จั่วหัวด้วยประโยคเด็ดโดนใจของ Bobby Knight ( ใครฟระ ?! )
ซึ่งผมจดมาจาก Twitter

" คนส่วนมากมีความมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะ
แต่น้อยคนนักที่จะมีความมุ่งมั่นในการเตรียมตัวเพื่อคว้าชัยชนะ "

เหมือนกับเรื่องของ "อิสรภาพทางการเงิน" นั่นแหละครับ
หลายคนบ่นอยากรวย ไม่อยากทำงานประจำ อยากไปทำอะไรที่ชอบ
แต่ติดตรงที่จำเป็นต้องหารายได้เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว
ซึ่งบางคนก็เอาแต่บ่น แต่ไม่เคยคิดมองหาหนทาง
หรือไม่เคยจะวางแผนในการเดินทางในเส้นทางที่อยากเดิน
แล้วมันจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างไรกันนน!


ผมเลยอยากให้ทุกคนหันมาวางแผนครับ
ก่อนอื่นเราก็ต้องถามตัวเราเองก่อนว่า "อิสรภาพ" ของเรานั้นมี " ราคาเท่าไหร่ ? "
ราคาที่ว่า ก็คือ ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่เราต้องใช้ต้องจ่ายนั่นเอง มันเท่าไหร่ ?
เอาแค่ปัจจุบันก็ไม่ได้นะครับ ต้องคิดเผื่อล่วงหน้าไปหลายๆฉากด้วย
ต้องคิดเผื่อไปเวลามีภรรยา มีสามี มีลูกหนึ่งคน สองคน สามคน
มีพ่อตา แม่ยาย ที่ต้องเลี้ยงดู หรือ น้องเมียที่ต้องส่งเสียอะไรทำนองนั้น
หรือหากออกไปทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ ช่วงแรกๆอาจจะยังไม่มีกำรี้กำไรอะไรมาก
ต้องอัดฉีดเงินทุนเข้าไปให้กิจการบ้างอะไรบ้าง ประมาณนั้น
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ มันมีราคาเท่าไหร่...
ลองคิดออกมาเป็นรายเดือน รายปี ดูครับ

บางคนอาจจะคิดเบ็ดเสร็จออกมาที 40,000 บาท / เดือน = 480,000 บาท / ปี
ก็ต้องมาดูว่าการสร้าง Passive Income ให้ได้ 40,000 บาท นั้นจะวางแผนยังไง
หากลงทุนในหุ้นกู้ หรือ หุ้นสามัญ ตีเฉลี่ยที่ ผลตอบแทนจากเงินปันผล 5% ต่อปี
( อัตราผลตอบแทนนี้ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะครับว่าจะวางแผนการลงทุนอย่างไร
บางคนอาจจะทำได้มาก บางคนอาจจะทำได้น้อย แต่ผมก็เอาอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ
ที่ทุกคนสามารถทำได้สบายๆ อย่างการลงทุนในตราสารหนี้เป็นเกณฑ์นะครับ )
ก็ต้องมี Port การลงทุนประมาณ 9.6 ล้านบาท จึงจะถือว่าอยู่ได้ แต่...!

แต่ยังไม่ปลอดภัยครับ!
ได้มา 480,000 บาท ใช้ไป 480,000 บาท
แต่ละปีไม่เหลือเงินเลย
จะอุ่นใจได้อย่างไร...?

จึงต้องมีการเผื่อ...เผื่อเจออะไรที่เราไม่คาดคิดเอาไว้บ้างครับ
ก็แนะนำให้มี Passive Income เป็น 2 เท่าของค่าใช้จ่าย ในที่นี้ก็ราวๆ 20 ล้านบาท
หรือบางคนใจร้อนก็อาจจะ 1.5 เท่า ก็ไม่มีใครว่า มันไม่ใช่สูตรตายตัว
แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละบุคคลครับ
ที่ 20 ล้านบาท จะได้ Passive Income ที่ ผลตอบแทน 5 % = 1 ล้านบาท / ปี
ตกเดือนละ 80,000 กว่าบาท ใช้เหลือเฟือ เก็บออมได้อีกทุกเดือน
เรียกได้ว่าความมั่งคั่งจะสถิตย์อยู่กับท่านตลอดไปเลยแหละครับ


จากนั้นก็ต้องมาวางแผนว่า การที่เราจะหาเงิน 20 ล้านบาท นั้น เราจะหามาอย่างไร
ต้องเก็บออมเงินเดือนละเท่าไหร่ ต้องนำไปลงทุนให้งอกเงยอย่างไร
ต้องหารายได้เพิ่มยังไงบ้าง ตรงนี้อยู่ที่แต่ละคนครับ ว่าจะวางแผนอย่างไร
ยกตัวอย่าง ถ้าสมมุติว่าเราจบใหม่ อายุ 22 เงินเดือน 20,000 + โบนัสอีก 3 - 4 เดือน
ในแต่ละปีออมเงินให้ได้ปีละ 150,000 บาท ( จากเงินออม + โบนัสสักครึ่งนึง )
นำเงินไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 10% แล้วนำผลตอบแทนมาลงทุนแบบทบต้น
จากนั้นพอเงินเดือนขึ้น (ตีสัก 7 %) ก็ออมเพิ่มในสัดส่วนเดียวกันคือ จาก 150,000 บาท
ในปีที่แล้ว ก็เพิ่มเป็น 160,500 บาท ในปีนี้
นำไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 10% เช่นเดียวกัน
ผลตอบแทนนำมาทบต้นอีก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ 22 ปี
ก็สามารถมี Port ลงทุน 20 ล้านบาทได้ ณ ตอนที่อายุ 44 ปีครับ
แต่ปัจจุบันการให้ผลตอบแทนในการทำงานประจำนั้น
สูงกว่าที่ผมประมาณไว้มาก เงินเดือนขึ้นทีเยอะแยะ
ย้ายงานทีก็เรียกเงินเดือนเพิ่มได้มาก
ทำให้หลายคนถ้ามีวินัยทางการเงินดีๆ
สามารถสร้างพอร์ตลงทุนขนาดนี้ได้ในเวลาไม่นานครับ
อย่างเพื่อผมเองทำงานได้ 3-4 ปี เงินเดือนยังไม่ถึง 20,000 เลย
ก็สามารถทำงานเก็บออมเงิน
แล้วก็นำเงินมาลงทุนให้พอร์ตกลายเป็น 7 หลักได้สบายๆ
( คาดว่าอีก 4-5 ปี พอร์ตลงทุนของไอ้เพื่อนคนนี้ มันจะไป 8 หลักแน่ๆ )


จะเห็นได้ว่า อิสรภาพทางการเงิน นั้น
มันอยู่ที่การวางแผนครับ (อีกส่วนอยู่ที่ความมีวินัย)
ยังไงก็ลองหัดวางแผนการเดินทางดูครับ

ถ้าไม่หาทาง จะเจอหนทางได้อย่างไร จริงไหมครับ ?

No comments:

Post a Comment