Pages

Saturday, April 16, 2016

0443 : Note การดู Mudley Channel ตอน Principle ของเทรดเดอร์


Note ย่อการดู Mudley Channel ตอน Principle ของเทรดเดอร์

Link Youtube : https://youtu.be/doXSYVxjU0s

ตอนนี้พี่ต้านจะเริ่มโดยบอกว่าช่วงนี้ (ช่วงเวลาที่ Live) ไม่ค่อยเทรดแล้ว เพราะเพิ่งได้กำไรเยอะมา (เดือนเดียว excess cash flow ประมาณ 8%) ก็เลยเข้าสู่โหมด slow play โดยแนะนำว่า ... ถ้ากำไรเยอะๆ ควรจะ slow play เพราะถ้าเล่นต่ออาจจะเล่นหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัว


เข้าเรื่องเทรดเดอร์ ... ก่อนที่จะเป็นเทรดเดอร์ ต้องเข้าใจว่าเทรดเดอร์คืออะไร รวมถึงรู้จักและเข้าใจในสินค้าที่จะเทรด เช่น forex , หุ้น , option มันคืออะไร เรารู้จักมันดีหรือยัง

close system นั้นช่วยให้เรามี risk management ที่ดีก็จริง แต่ไม่ได้ช่วยให้เราเป็นเทรดเดอร์ที่ดี มันแค่ช่วยให้เราอยู่รอดได้นานจน realize principle ของเทรดเดอร์

การเป็นเทรดเดอร์ ต้องมีประสบการณ์ ถึงจะเข้าใจ และการมี risk management ที่ดี ช่วยให้อยู่ในตลาดได้นาน ทำให้เราได้รับ exp และเข้าใจ principle


อันดับแรก ตัวเราต้องพัฒนาตัวเองก่อน...
จะรู้ได้ยังไงว่าอะไรเหมาะสมกับเรา ?
ก็ควรจะมีคนแนะนำที่ดี เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการคลำหาเส้นทาง (ใช้ความพยายามผิดทิศ)

ควรอ่าน principle ของ Ray Dalio เพราะว่าความคิดของเรามันอาจจะมีเมล็ดพันธุ์ หรือ Bias บางอย่างที่ไม่ได้สอดคล้องกับธรรมชาติหรือความเป็นจริง ซึ่งมันจะทำให้เราหลงทิศ

ถ้าเรามี principle ที่ดี เราก็จะมีทิศทางหรือการฝึกฝนที่ไม่ผิดทาง


การเป็นเทรดเดอร์ต้องคิกก่อนว่า "ทำไมคนถึงขาดทุน"
หลักๆมักจะมาจากอารมณ์ไม่กี่อย่าง เช่น ความโลภ ... เราก็ต้องไปเจาะดูว่า ความโลภเกิดจากอะไร (ความโลภของเรา) ... เกิดจากการ ไม่วางแผน , ความอยากได้อยากมี ... ความโลภของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะมีมุมมองในความโลภต่างกัน

จากนั้นก็มาคิดต่อว่า สิ่งที่สูญเสียไปจากความโลภนั้น จะมีอะไรบ้าง ... คุ้มไหมถ้ามันผิดพลาด


Principle ของแต่ละคนนั้นร่างมาไม่เหมือนกัน
เราต้องมี Principle ของเรา
ต้องคิดว่าคนทั่วไปเสียหายยังไงบ้าง เช่น จากความโลภ , ความกลัว , ความกดดัน ฯลฯ
ถ้าเรารู้จุดอ่อน = การเข้าใจตัวเอง ... อย่าเพิ่งรีบวิ่งไปหาวิชาข้างนอก
พอเข้าใจตัวเรา แล้วค่อยเข้าใจคนอื่น ... เค้าคิดอะไร , เค้าเจ๊งเพราะอะไร


จากประสบการณ์ของพี่ต้าน คนส่วนใหญ่จะขาดทุนเพราะ คิดว่าตัวเองคาดเดาตลาดได้ (จากงานวิจัย) ซึ่งมันเป็นจุดเริ่มต้นของ Ego คล้ายๆเป็น mental illness ซึ่งเทรดเดอร์ที่เล่น style predict market จะมีอาการป่วยทาง mental ทำให้ใน Fund ต้องมีจิตแพทย์คอยดูแล (ปรับ mindset)

เวลาถูกทางมากขึ้นๆ เราจะเกิดความเชื่อ คล้ายความศรัทธา สังเกตุจากการท้าไฝ้ว เปิดวอร์ของสายต่างๆ

การเดาตลาดนั้น เดาได้ แต่อย่าให้มันมาเป็นนายเรา อย่าให้มันเป็น god ของเรา


ทุกระบบมีจุดอ่อน... close system ก็มีจุดอ่อน ถ้าเลือก product ที่มันแย่ เป็น 0 ได้ หรือโดน swap ที่โหดร้าย


พี่ต้านใช้ TA ตลอด แต่ไม่ได้เชื่อจนถือว่ามันเป็นศาสดา แต่ก็มีวินัยในการทำตามระบบ


เมื่อไหร่ก็ตามที่เราคิดว่าเราเริ่มรู้แล้ว แสดงว่า เราเริ่มจะมี ego ... ถ้าเจอฟีลลิ่งแบบนี้ให้เคลียร์อารมณ์ของเราออกไปก่อน ค่อยกลับมาเทรด จะระบายวิธีไหนก็แล้วแต่ถนัด


ถ้าใช้ close system แล้วเริ่มถูก -> เอาเงินไปต่อยอดได้ -> จะมีความรู้สึกบางอย่างเริ่มเปลี่ยนไป ... จับ moment ที่ทำได้ดีไว้ ... ถ้า moment เปลี่ยนแสดงว่ามีอะไรบางอย่าง ... เราต้องพยายาม realize ตัวเรา


เราควร maintain health ก่อน อย่างแรกเลย ! ... เพราะเป็นรากของ mental


ปัญหาของการรู้
-> เรารู้เพราะเราคิดว่าเรารู้
-> เรารู้เพราะอ่านมา
-> แต่จริงๆแล้ว เรารู้จริงๆหรือ ?


Technical คืออะไร ?
คนที่คิด TA คนแรก เค้าคิดขึ้นมาเพื่ออะไร ?
-> เค้าต้องการเห็นสัญญาณที่ผิดปกติไปจากเดิม
-> แท่งเทียน คิดมาเพื่ออ่านว่าคนในตลาดคิดอะไร , จับอารมณ์ player คนอื่นๆในตลาด

การจะเข้าใจ TA หรืออะไรก็ตาม ต้องเข้าใจไปที่ Concept ของมัน ลงลึกไปยังรากฐาน อย่าไปจำ ... ไปจำก่อน = เดินพลาด

TA = Concept ของการคิดหาช่องว่าง หรือความผิดเพี้ยนของตลาด
เมื่อไหร่ที่เอา TA ไป predict ก็คือเราไม่เข้าใจ concept ของ TA

Concept ของ TA
1. จับความผิดปกติ
2. อ่าน player , อ่านดีลในตลาด

ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็น uptrend ราคาต้องอยู่เหนือ MA ... แต่ถ้าราคาอยู่เหนือ MA ไม่จำเป็นต้องเป็น uptrend ... ประโยคนี้เราจะเล่นตาม Fact ยังไง ?

เราชอบคิดในทาง predict แค่ทางเดียว ทำให้ไม่ได้มองในมุมอื่น

TA ที่เก่งๆ -> เจ้าของ Winton Future เค้าบอกว่า "trend มันก็ง่ายๆ ถ้าผิด trend ก็เสียตังค์" -> พี่ต้านเลยเอามาทำ 3 Steps Model คือ ผิด 3 ครั้ง หยุดยิง แล้วปล่อยมันไว้เป็นเครื่องเตือนใจ

คิด -> เข้าใจ -> ความจำจะตามมา
แต่คนไทย จำ -> ไม่เข้าใจ -> ไม่มี Ask why (เช่น การท่องจำรูปแบบแท่งเทียน)

ไม่เข้าใจ -> ทายถูก -> ความเชื่อ -> ถือเป็นศาสดา


Step การสร้างพอร์ต จาก $100 -> $1,000 -> $5,000 -> $10,000
ถ้าถูกทางให้ Focus อยู่กับมัน...


Principle ของเทรดเดอร์ ... กระจายหลาย strategy ให้ได้ ... คนส่วนมากทำไม่ได้ ส่วนใหญ่เทรดได้แค่ strategy เดียว ถ้าทำได้เราก็เหนือ Average แล้ว


เล่นสั้น = ทำ CF
เล่นกลาง = ทำ Ratio ให้สวย
เล่นยาว = ฺBingo!

เช่น มี 6 นัด
แบ่งเป็น เล่นสั้น 2 นัด , เล่นกลาง 2 นัด , เล่นยาว 2 นัด

ถ้าติดแสดงว่าผิด trend ... design ตั้งแต่แรกเป็น close system ไปเลย ... ผิดก็คือผิด ก็ไปมองตัวอื่น ถ้ามันกลับมาก็แสดงว่า alert ดัง ... เล่นง่ายๆ "ขายให้สูงกว่าซื้อ"


Fund Manager ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ได้ ... แต่เราจะเติบโต จะ Build ต่อไปอย่างไร ?

คนคิดดี -> เติบโต -> เพราะไม่มีอะไรต้องเครียด


เวลาเทรด มีกำไร ก็ดึงทุนออก เหลือแต่กำไรไว้เล่นในตลาด = ไม่เครียด


เขียน Principle ของตัวเอง -> ตัวเรามีจุดอ่อนอย่างไร ?


Close system = ไม่ล้างพอร์ต ไม่เติมเงิน CF สม่ำเสมอ ... ดึง CF ออกให้กลายเป็น True Alpha


จบ...



อ่านตอนก่อนหน้าตรงนี้นะครับ 
Note Mudley Channel ตอน การพัฒนาตัวเองกับปลาหมึก
Note Mudley Channel ตอน เทรดเดอร์ยุคใหม่และโอกาส


http://value-visions.blogspot.com/
https://www.facebook.com/valuevisions/
https://twitter.com/ValueVisions

No comments:

Post a Comment